- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- กาง กม.ปมสั่ง‘ปารีณา’คืนที่ ส.ป.ก. 682 ไร่-จับตาอีก 8 ส.ส.-ส.ว.ใช้บรรทัดฐานเดียวกัน?
กาง กม.ปมสั่ง‘ปารีณา’คืนที่ ส.ป.ก. 682 ไร่-จับตาอีก 8 ส.ส.-ส.ว.ใช้บรรทัดฐานเดียวกัน?
“…ดังนั้นเมื่อดูนิยามตาม พ.ร.บ.ส.ป.ก. เห็นได้ว่า คำว่า ‘เกษตรกร’ หมายความถึง ผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก นั่นจึงทำให้ น.ส.ปารีณา ไม่ได้เป็นผู้มีคุณสมบัติในการครอบครองที่ดิน ส.ป.ก. ตามที่เลขาธิการ ส.ป.ก. ระบุว่า น.ส.ปารีณา เป็น ส.ส. และเป็นกรรมการบริษัท ส่งผลให้ต้องคืนที่ดิน 682 ไร่แก่ ส.ป.ก. นั่นเอง…”
เคราะห์ซ้ำกรรมซัดไม่หยุดหย่อน สำหรับ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ กรณีแจ้งครอบครองที่ดิน ภ.บ.ท.5 เพื่อทำฟาร์มปศุสัตว์ ‘เขาสนฟาร์ม’ ภายหลังเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2562 ถูกกรมป่าไม้แจ้งความต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) กรณีบุกรุกป่า 46 ไร่เศษแล้ว
เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2562 นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งเสริม เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) แถลงสรุปผลการลงพื้นที่ตรวจสอบเขาสนฟาร์มของ น.ส.ปารีณา พบว่า ที่ดินประมาณ 682 ไร่ อยู่ในพื้นที่ ส.ป.ก. และ น.ส.ปารีณา ไม่มีคุณสมบัติเป็นผู้ขอทำประโยชน์ จึงมีคำสั่งให้คืนที่ดินดังกล่าวภายใน 7 วัน หากไม่ดำเนินการจะใช้คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 36/2559 ยึดคืนทันที (อ่านประกอบ : ไร้คุณสมบัติเพราะเป็น ส.ส.! ส.ป.ก.สั่ง‘ปารีณา’คืนที่ดินฟาร์มไก่ 682 ไร่ใน 7 วัน)
ประเด็นที่น่าสนใจในการแถลงของเลขาธิการ ส.ป.ก. ดังกล่าว คือที่ดินเขาสนฟาร์มของ น.ส.ปารีณา จำนวน 682 ไร่นั้น แม้ น.ส.ปารีณา จะขอแสดงเจตนารมณ์เข้าสู่กระบวนการโครงการปฏิรูปที่ดินของ ส.ป.ก. ก็ตาม แต่จากการดูระเบียบและกฎหมายต่าง ๆ พบว่า น.ส.ปารีณา เป็น ส.ส. และกรรมการบริษัท มิใช่เกษตรกร จึงไม่มีคุณสมบัติ ดังนั้น ส.ป.ก. จำเป็นต้องยึดคืนพื้นที่
เรียกว่าเป็น ‘บรรทัดฐาน’ ออกมาแล้วว่า บุคคลที่เป็น ส.ส. และกรรมการบริษัท ไม่มีสิทธิในการครอบครองที่ดิน ส.ป.ก. แต่อย่างใด ?
เพื่อให้สาธารณชนเข้าใจมากขึ้น สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org กางกฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูปที่ดิน ส.ป.ก. มาให้ทราบ ดังนี้
ตาม พ.ร.บ.การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 (ฉบับแรก) กำหนดนิยามคำว่า เกษตรกร หมายความว่า ผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก ส่วนเจ้าของที่ดินผู้ประกอบเกษตรกรรมด้วยตนเอง หมายความว่า เจ้าของที่ดินผู้ซึ่งดำเนินการผลิตด้านเกษตรกรรม โดยเป็นผู้ลงทุนและได้ผลประโยชน์จากการผลิตนั้นโดยตรง และไม่เป็นผู้ให้เช่าที่ดินนั้น
มาตรา 29 บัญญัติว่า ในเขตปฏิรูปที่ดิน เมื่อคณะกรรมการ ส.ป.ก. พิจารณาเห็นว่า ที่ดินบริเวณใดสมควรดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ให้ ส.ป.ก. มีอำนาจจัดซื้อหรือดำเนินการเวนคืนที่ดินได้ ดังต่อไปนี้
(1) ที่ดินแปลงเดียวหรือหลายแปลงมีเนื้อที่รวมกันเกินกว่า 50 ไร่ ซึ่งบุคคลครอบครัวเดียวกันไม่ว่าคนหนึ่งหรือหลายคนเป็นเจ้าของที่ดินผู้ประกอบเกษตรกรรมด้วยตนเอง ให้ ส.ป.ก. มีอำนาจจัดซื้อหรือดำเนินการเวนคืนที่ดินส่วนที่เกินกว่า 50 ไร่
(2) ถ้าที่ดินดังกล่าวตาม (1) มีเนื้อที่รวมกันเกินกว่า 100 ไร่ และเจ้าของที่ดินผู้ประกอบเกษตรกรรมด้วยตนเองใช้เพื่อการเลี้ยงสัตว์จำพวกสัตว์ใหญ่ตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดชนิด จำนวน และเงื่อนไขในราชกิจจานุเบกษา ให้ ส.ป.ก. มีอำนาจจัดซื้อหรือดำเนินการเวนคืนที่ดินส่วนที่เกินกว่า 100 ไร่
ถ้าเจ้าของที่ดินรายใดมีความประสงค์จะประกอบเกษตรกรรมด้วยตนเองในที่ดินดังกล่าวเกินกว่าตามที่กำหนดใน (1) และ (2) และแสดงได้ว่าตนประกอบเกษตรกรรมด้วยตนเองอยู่แล้วไม่ต่ำกว่า 1 ปีก่อน พ.ร.บ.ฉบับนี้ใช้บังคับ และแสดงได้ว่าตนมีความสามารถและปัจจัยที่จะทำให้ที่ดินดังกล่าวเป็นประโยชน์ทางเกษตรกรรมได้ และประกอบเกษตรกรรมในที่ดินนั้นด้วยตนเอง ให้ยื่นคำร้องต่อพนักงานเจ้าหน้าที่พร้อมพยานหลักฐานอ้างอิง เมื่อสอบสวนแล้ว คณะกรรมการ ส.ป.ก. เห็นควรอนุญาต ให้กำหนดเงื่อนไขในการอนุญาตต่อรัฐมนตรี หากรัฐมนตรีอนุญาตให้ผู้ร้องขอนั้นมีสิทธิในที่ดินต่อไป แต่ต้องไม่เกิน 1,000 ไร่ แต่หากผู้ร้องไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข ส.ป.ก. มีอำนาจเวนคืนที่ดินดังกล่าวเพื่อใช้ในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมต่อไป
มาตรา 39 บัญญัติว่า ที่ดินที่บุคคลได้รับสิทธิโดยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจะทำการแบ่งแยก หรือโอนสิทธิในที่ดินนั้นไปยังผู้อื่นิได้ เว้นแต่เป็นการตกทอดทางมรดกแก่ทายาทโดยธรรม หรือโอนไปยัง ส.ป.ก. เพื่อประโยชน์ในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ทั้งนี้ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง
(อ่าน พ.ร.บ.การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 ฉบับเต็ม : https://www.alro.go.th/legal_aff/article_attach/article_attach_201811131542100293.pdf)
ส่วนคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 36/2559 เรื่อง มาตรการในการแก้ไขปัญหาการครอบครองที่ดินในเขตปฏิรูปเพื่อเกษตรกรรมโดยมิชอบกฎหมาย ระบุว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติตั้งแต่ปี 2536 ให้มีการส่งมอบพื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติที่เสื่อมโทรมเพื่อนำพื้นที่ไปดำเนินการจัดที่ดินให้แก่เกษตรกรตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม แต่จนถึงปัจจุบันปรากฏข้อเท็จจริงว่า ยังมีแปลงที่ดินที่ยังไม่ได้สำรวจรังวัดอยู่อีกเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีผู้ถือครองที่ดินในเขต ส.ป.ก. ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งกลุ่มบุคคลดังกล่าวต่างไม่ให้ความร่วมมือหรือความยินยอมเพื่อเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม นอกจากนี้ยังปรากฏว่ามีบุคคลซึ่งไม่มีสิทธิครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมายเข้าใช้ประโยชน์ โดยอ้างสิทธิในที่ดินจากการซื้อขายต่อจากเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน หรือมีการเปลี่ยนมือที่ดินที่จัดให้แก่เกษตรกรเพื่อถือครองที่ดินแปลงขนาดใหญ่ และนำพื้นที่ดังกล่าวไปประกอบเกษตรกรรมในรูปแบบการปลูกพืชเชิงเดี่ยวซึ่งจะมีผลกระทบต่อระบบนิเวศน์อย่างรุนแรงในระยะยาว หรือในบางกรณีปรากฏพื้นที่ข้างเคียงเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมยังเป็นพื้นที่อนุรักษ์ หากมีการใช้ประโยชน์ที่ดินไม่เหมาะสม อาจมีปัญหาการบุกรุกพื้นที่เพิ่มเติมซึ่งกระทบต่อความมั่นคงทางทรัพยากรธรรมชาติ และก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมได้
สาระสำคัญในคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 36/2559 ข้อ 1 ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมที่เป็นพื้นที่เป้าหมาย ได้แก่
(1) ที่ดินที่ยังไม่เข้าสู่กระบวนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ที่มีเนื้อที่ตั้งแต่ 500 ไร่ขึ้นไป
(2) ที่ดินที่คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดมีมติให้เกษตรกรผู้ได้รับการจัดที่ดินสิ้นสิทธิเข้าทำประโยชน์แล้วและครอบครองโดยบุคคลที่มิใช่ผู้ได้รับการจัดที่ดินมีเนื้อที่ตั้งแต่ 100 ไร่ขึ้นไป
(3) ที่ดินที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ส่งมอบแก่ ส.ป.ก. แล้ว และมีเนื้อที่ตั้งแต่ 500 ไร่ขึ้นไป
ข้อ 3 ผู้ครอบครองที่ดินในพื้นที่เป้าหมายตามข้อ 1 (1) ยื่นคำร้องเพื่อสแดงสิทธิในที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดิน หรือกฎหมายอื่นต่อ ส.ป.ก. ภายใน 15 วัน และให้ ส.ป.ก. ตรวจสอบหลักฐานแสดงสิทธิในที่ดินดังกล่าว โดยหลักฐานสำคัญที่ต้องใช้ เช่น โฉนดที่ดิน โฉนดตราจอง หรือตราจองที่ว่า “ได้ทำประโยชน์แล้ว” หรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในที่ดิน เช่น น.ส.3 น.ส.3 ก น.ส.3 ข เป็นต้น หรือใบ ส.ค.1 ใบ ส.ค. 2 หรือใบ น.ค.3 กสน.3 หรือ กสน.5
(อ่านคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 36/2559 ฉบับเต็ม : https://www.alro.go.th/legal_aff/article_attach/article_attach_201811131542100358.pdf)
ดังนั้นเมื่อดูนิยามตาม พ.ร.บ.ส.ป.ก. เห็นได้ว่า คำว่า ‘เกษตรกร’ หมายความถึง ผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก นั่นจึงทำให้ น.ส.ปารีณา ไม่ได้เป็นผู้มีคุณสมบัติในการครอบครองที่ดิน ส.ป.ก. ตามที่เลขาธิการ ส.ป.ก. ระบุว่า น.ส.ปารีณา เป็น ส.ส. และเป็นกรรมการบริษัท ส่งผลให้ต้องคืนที่ดิน 682 ไร่แก่ ส.ป.ก. นั่นเอง
นอกเหนือจาก น.ส.ปารีณา แล้ว ยังมีนักการเมืองอีกอย่างน้อย 8 ราย เท่าที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่าแจ้งถือครองที่ดิน ส.ป.ก. ได้แก่ นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย นายศักดิ์นัย นุ่มหนู ส.ส.ตราด พรรคอนาคตใหม่ นายสนอง เทพอักษรณรงค์ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย (และภรรยา) นายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย นายเกียรติ เหลืองขจรวิทย์ ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย (และภรรยา) นายสฤษดิ์ บุตรเนียร ส.ส.ปราจีนบุรี พรรคภูมิใจไทย นายธานี สุโชดายน ส.ว. และว่าที่ ร.ต.วงศ์สยาม เพ็งพานิชภักดี ส.ว.
ประเด็นเหล่านี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ เคยให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชนหลายครั้งว่า จะดำเนินการตรวจสอบนักการเมือง ข้าราชการ รวมถึงกลุ่มทุนที่เข้าครอบครองที่ ส.ป.ก. อย่างมิชอบด้วยกฎหมายอย่างเท่าเทียมกันทุกราย
ดังนั้นสิ่งที่ต้องรอดูคือบทบาทของ น.ส.ปารีณา นับจากนี้จะเป็นเช่นไร
ส่วนการขยายผลตรวจสอบนักการเมืองอีกอย่างน้อย 8 รายข้างต้น จะดำเนินการตาม ‘บรรทัดฐาน’ ที่วางไว้แบบเดียวกับกรณีของ น.ส.ปารีณา หรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไป อย่ากระพริบตา !
อ่านประกอบ :
ไร้คุณสมบัติเพราะเป็น ส.ส.! ส.ป.ก.สั่ง‘ปารีณา’คืนที่ดินฟาร์มไก่ 682 ไร่ใน 7 วัน
INFO: เปิดรายชื่อ 28 ส.ส. - ส.ว. ถือครอง ภ.บ.ท.5 - ส.ป.ก.
3 ปม ภ.บ.ท.5 ‘ปารีณา’กี่ไร่กันแน่-ทำไมไม่แจ้งช่วง ส.ส.ปี 54-57-ไฉนราคาแค่ 2 แสน?
อีก 5 ส.ส.พปชร.-พท.-ภูมิใจไทย-ปชป. ถือ ภ.บ.ท.5 - วังน้ำเขียวด้วย 295 ไร่ - 2 คนมี ส.ป.ก.
สัปดาห์หน้า ป.ป.ช.ถกผลลงพื้นที่ฟาร์มไก่‘ปารีณา’พ่วงปมปกปิดบัญชีฯขีดเส้นสอบ 180 วัน
‘ศรีสุวรรณ’ร้อง ป.ป.ช. สอบอีก 10 ส.ส. 5 พรรค ถือครอง ภ.บ.ท.5-ส.ป.ก.
4 ส.ว.ถือครอง ภ.บ.ท.5 -ส.ป.ก.! พล.อ.สราวุฒิ 100 ไร่ ‘พะจุณณ์’ภ.บ.ท.11 จ.กาญฯ 20 ไร่
ยึดมาตรฐานเดียว! ‘ศรีสุวรรณ’จ่อร้อง ส.ป.ก.-กรมป่าไม้สอบ ภ.บ.ท.5 ส.ส.กว่า 10 ราย
กรมป่าไม้แถลง แจ้งความ ‘ปารีณา’ รุกป่า 46 ไร่ ยันหลักฐานชัด - 'ทวี’บุกขอความเป็นธรรม
‘ชินวรณ์’ปชป. มี ภ.บ.ท.5 - 2 ใบ 15 ไร่ โชว์สัญญาขายที่ดิน ภ.บ.ท.5 อีก 2 ฉบับ 55 ไร่
‘สุพล จุลใส’ส.ส.ชุมพร รปช. มี ภ.บ.ท.5 เกาะพะงัน 16 ไร่เศษ 1.2 ล.
ส.ส.ปราจีนฯ ภูมิใจไทย ถือครอง ภ.บ.ท.5 รวม 41 ไร่ 20 ล.-ส.ป.ก.4-01 ด้วย
2 ธ.ค.ชงผลลงพื้นที่ฟาร์มไก่‘ปารีณา’ให้ กก.ป.ป.ช.ทราบ-ยังไม่สรุปปมปกปิดทรัพย์สิน
ดูชัดๆ 2 ส.ส. อนาคตใหม่ ถือครอง ภ.บ.ท.5 - ส.ป.ก. คนละ 10 - 22 ไร่ จ.ชัยภูมิ ตราด
เปิดหมด! หลัง ภ.บ.ท.5 - 29 ฉบับ ก่อนเปลี่ยนมือเป็น‘ปารีณา’-กรมป่าไม้จ่อแจ้งจับ 2 ธ.ค.
เจาะ บ.วิศวกรรมการเกษตรฯ เจ้าของเดิมภ.บ.ท.5 ‘ปารีณา’- เจ้าตัวนั่ง กก.-หุ้นใหญ่ ถึงปี 50
เจออีก! ส.ส.โคราช เพื่อไทย ถือครอง ภ.บ.ท.5 รวม 295 ไร่ 29.7 ล้าน
เปิดรายงาน กอ.รมน. ชัดที่ดิน‘ปารีณา’อยู่ในเขต ส.ป.ก.-ป่าสงวนฯ ให้ดำเนินคดีด้วย
ข้อมูลสำคัญ! บัญชีทรัพย์สินปี 54 ‘ปารีณา’ไม่มีที่ดิน ภ.บ.ท.5 - 1,700 ไร่
รายล่าสุด! ส.ส.สระแก้ว พปชร. แจ้งสิทธิที่ดิน ภ.บ.ท.5 รวม 64 ไร่เศษ 10 ล้าน
ศรีสุวรรณยื่น ป.ป.ช.สอบ ภ.บ.ท.5 ส.ส.เพิ่มอีกราย! 'สฤษฏ์พงษ์ 'ภูมิใจไทย ถือครอง 200 ไร่
ส.ส.พิษณุโลก พปชร. ถือครอง ภ.บ.ท.5 รวม 498 ไร่ มูลค่ากว่า 20 ล.
‘ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์’ ส.ส.พปชร.ถือครอง ภ.บ.ท.5 ด้วย 1 แปลง
พบ‘ปารีณา’กู้ยืมเงินฟาร์มเลี้ยงไก่ตัวเอง 11.4 ล. ก่อนเลือกตั้ง ส.ส. 6 วัน
หลังใบ ภ.บ.ท.5 ‘ปารีณา’เข้ามาใช้สิทธิ์ปี 53-55 เจ้าของเดิม บ.อดีต นปช.ราชบุรี
โผล่อีก! ตระกูลดัง ส.ส.กระบี่ ภูมิใจไทย-เมีย ถือครองที่ดิน ภ.บ.ท.5 - 200 ไร่ 16.4 ล.
29 พ.ย. ป.ป.ช.ลงพื้นที่ราชบุรีดูฟาร์มไก่‘ปารีณา’-ปูพรมคุ้ยนักการเมืองครอง ภ.บ.ท.5
ส.ส.เมืองนนท์ พรรคเพื่อไทย โผล่ถือครองที่ดิน ส.ป.ก. จ.ตราด 49 ไร่
‘สรวุฒิ’ส.ส.ชลบุรี โชว์หรา! ที่ดิน ภ.บ.ท.5 - 2 ใบ 350 ไร่ 70 ล. จ.จันทบุรี ระยอง
ก่อน‘ปารีณา’1,700! ‘เฉลิมชัย’ถือ 120 ไร่ ภ.บ.ท.5 จ.ประจวบฯ ตอนนี้ไม่มีแล้ว-ฉลองด้วย
พลิกปูมที่ดิน ภ.บ.ท.5 กว่า 1.7 พันไร่ ‘ปารีณา’ก่อนถูกร้องสอบปมฟาร์มไก่รุกป่า?
ปริศนา!“เฉลิมชัย ศรีอ่อน”บิ๊ก ปชป.ที่ดินภ.บ.ท.5 ล่องหน 120 ไร่
หย่าเมีย-มีเมียใหม่! ‘ฉลอง’ ทรัพย์สินติดลบ โดนชนักปักหลัง ยื่นบัญชีฯเท็จ
ภบท.5 โผล่บัญชีฯ“ฉลอง”ไม่พบครองที่ดินเมืองกาญจน์-หนี้ท่วม 88.7 ล้าน
หลังใบ ภ.บ.ท.5 ‘ปารีณา’เข้ามาใช้สิทธิ์ปี 53-55 เจ้าของเดิม บ.อดีต นปช.ราชบุรี
ป.ป.ช.สั่ง จนท.ลุยสอบที่ดิน ภ.บ.ท.5 ‘ปารีณา’หลังถูกร้องปมรุกป่า 1.7 พันไร่
พลิกปูมที่ดิน ภ.บ.ท.5 กว่า 1.7 พันไร่ ‘ปารีณา’ก่อนถูกร้องสอบปมฟาร์มไก่รุกป่า?
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/