- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- คำพิพากษาฉบับเต็ม! มัด‘สุธี’มือจ่ายเช็ค-ทำธุรกรรมแทนสยามอินฯคดีข้าวจีทูจีก่อนหนีคุก 32 ปี
คำพิพากษาฉบับเต็ม! มัด‘สุธี’มือจ่ายเช็ค-ทำธุรกรรมแทนสยามอินฯคดีข้าวจีทูจีก่อนหนีคุก 32 ปี
“…พฤติการณ์ของนายสุธี แสดงให้เห็นว่าเป็นผู้มีบทบาทสำคัญและร่วมอยู่ในขบวนการตั้งแต่ต้นในการนำบริษัท กว่างตงฯ และบริษัท ห่ายหนานฯ มาทำสัญญาซื้อข้าวจากกรมการค้าต่างประเทศแบบจีทูจี โดยอ้างว่า ได้รับมอบหมายจากประเทศจีน ซึ่งไม่เป็นความจริง แล้วนำข้าวดังกล่าวออกขายให้แก่ผู้ประกอบการค้าข้าวในประเทศเพื่อทำกำไร อันเป็นการสนับสนุนนายภูมิ สาระผล รมช.พาณิชย์ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ กับพวก กระทำความผิดตามฟ้อง…”
จากกรณีเมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2562 ที่ผ่านมา าลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุก พ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ จำเลยที่ 3 อดีตเลขานุการ รมว.พาณิชย์ (นายบุญทรง เตริยาภิรมย์) 50 ปี และนายสุธี เชื่อมไธสง จำเลยที่ 16 ลูกน้องนายอภิชาติ จันทร์สกุพล อดีตพ่อค้าข้าวชื่อดัง 32 ปี ในคดีทุจริตการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) โดยทั้ง 2 รายหลบหนี และศาลฎีกาฯออกหมายจับไปแล้วนั้น
ในส่วนพฤติการณ์ของ พ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานให้ทราบไปแล้วตามคำพิพากษาฉบับเต็มของคดีนี้ว่า พ.ต.นพ.วีระวุฒิ ได้รับควมไว้วางใจจากฝ่ายการเมืองให้ดำรงตำแหน่งเลขานุการ รมว.พาณิชย์ รวมถึงเป็อนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว และอนุกรรมการในคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) อีกอย่างน้อย 3 คณะ ขณะเดียวกัน พ.ต.นพ.วีระวุฒิ เป็นบุคคลที่เจรจากับกลุ่มเอกชน-โรงสีในการนำข้าวจากคลังสินค้าที่ต้องทำการขายแบบจีทูจีไปเวียนขายภายในประเทศ ผ่านเครือข่ายของบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด (อ่านประกอบ : ล้วงคำพิพากษาฉบับเต็ม! ชำแหละ ‘หมอโด่ง’คีย์แมนดีลขายข้าวคดีทูจีเก๊ก่อนโดนคุก 50 ปี)
ในรายของนายสุธี เชื่อมไธสง จำเลยที่ 16 ลูกน้องนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร นั้น คำพิพากษาศาลฎีกาฯฉบับเต็ม ระบุพฤติการณ์ไว้สรุปได้ว่า นายสุธี เป็นพนักงานของบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด (จำเลยที่ 10) เช่นเดียวกับนายนิมล รักดี หรือโจ (จำเลยที่ 15) และได้ความจากผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาซอยโชคชัย 4 ว่า บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด เปิดบัญชีธนาคาร 2 บัญชี มีการทำธุรกรรมจำนวนมาก ทำให้นายพุทธพรรู้จักผู้บริหารและพนักงานของบริษัท สยามอินดิก้า จำกัดหลายคน โดยมี น.ส.สุทธิดา ผลดี หรือจันทะเอ กรรมการบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด (จำเลยที่ 13) ซึ่งมีชื่อเล่นว่าโอ๋ เป็นผู้ดูแลจัดการบัญชีของบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ในการทำธุรกรรมของบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด และจะมีพนักงานของบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด รวมถึงนายสุธี เป็นผู้รับมอบอำนาจมาทำธุรกรรมแทนเป็นประจำ
โดยบัญชีเงินฝากของนายสุธี มีการมอบอำนาจให้นายสมคิด เอื้อนสุภา (จำเลยที่ 7) ซื้อแคชเชียร์เช็คสั่งจ่ายกรมการค้าต่างประเทศ โดยระบุว่า ซื้อด้วยเงินสด นายพุทธพร ตรวจสอบแล้ว ปรากฏว่า เป็นการถอนเงินจากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ของนายสุธี
ข้อเท็จจริงได้ความจากการไต่สวนอีกว่า สัญญาซื้อขายข้าวแบบจีทูจีทั้ง 4 สัญญา มีการชำระค่าข้าวโดยแคชเชียร์เช็คของธนาคารภายในประเทศหลายธนาคาร รวม 2,473 ฉบับ เฉพาะแคชเชียร์เช็คที่มาจากการเบิกถอนเงินในบัญชีของนายสุธี คือธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ มีจำนวน มาถึง 62 ฉบับ เป็นเงิน 599,473,582 บาท
นอกจากนี้ได้ความจากนางประพิศ มานะธัญญา กรรมการผู้จัดการบริษัท เจียเม้ง จำกัด (จำเลยที่ 28) อีกว่า นางประพิศ ติดต่อซ้อขายจากนายนิมล หรือโจ (จำเลยที่ 15) โดยตกลงเกี่ยวกับประเภทข้าว ราคา และสถานที่รับมอบข้าว ส่วนนายสุธี เป็นบุคคลที่นายนิมล หรือโจ แจ้งนางประพิศให้โอนเงินค่าข้าวที่ได้ตกลงกันไว้เข้าบัญชีของนายสุธีโดยตรง บริษัทของนางประพิศสั่งจ่ายแคชเชียร์เช็คให้แก่นายสุธี เพื่อบริษัทจะได้เบิกข้าวออกจากคลังสินค้าในปีการผลิต 2555/2556 เมื่อแคชเชียร์เช็คเข้าบัญชีของนายสุธีแล้ว วันรุ่งขึ้นทางบริษัทก็จะให้พนักงานไปติดต่อขอรับใบส่งสินค้า/ใบแจ้งหนี้ ใบกำกับภาษีที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) แล้วนำไปเบิกรับข้าวทันที
เท่าที่สอบถามจากพนักงานได้ความว่า การไปรับมอบใบส่งสินค้า/ใบแจ้งหนี้ ใบกำกับภาษี ก็เพียงสอบถามเจ้าหน้าที่คลังสินค้าที่บริษัทต้องการจะเบิกข้าวได้ทำการออกใบส่งสินค้า/ใบแจ้งหนี้ ใบกำกับภาษีหรือยัง หากออกแล้ว ก็สามารถรับใบดังกล่าวไปเบิกข้าวได้ทันที และจากหนังสือธนาคารกสิกรไทย ระบุว่า มีการทำธุรกรรมระหว่างต้นทางนายนิมล บัญชีธนาคารกับปลายทางบัญชีธนาคารของนายสุธี หลายครั้ง ครั้งละหลายล้านบาท
สอดรับกับคำเบิกความของนางประพิศว่า หลังจากนางประพิศไปเจรจาซื้อข้าวกับนายนิมลจนได้ข้อยุติแล้ว นายนิมลบอกให้โอนเงินเข้าบัญชีของนายสุธี ในทางไต่สวนไม่ปรากฏหลักฐานว่านายสุธี ได้ติดต่อให้มีการซื้อขายข้าวกรณีอื่นนอกจากข้าวของรัฐที่มีปัญหาพิพาทตามฟ้องแม้แต่รายเดียว แต่กลับปรากฏว่านายสุธี เปิดบัญชีออมทรัพย์หลายธนาคารซึ่งเป็นธนาคารสาขาเดียวกับบัญชีของบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด เปิดไว้ใช้ในกิจการ และรายการธุรกรรมทางการเงินของนายสุธี มีวงเงินหลายพันล้านบาท และมีความเชื่อมโยงกับบัญชีของบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด เป็นส่วนใหญ่
ทั้งนี้ไม่ปรากฏว่านอกจากเป็นพนักงานของบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด แล้ว นายสุธี มีรายได้จากการประกอบการงานใดอีกที่ต้องทำธุรกรรมทางการเงินเป็นจำนวนมากเช่นนั้น และขัดแย้งกับข้อมูลรายได้ของนายสุธี ในการยื่นแสดงรายการเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี 2546-2556 นายสุธียื่นแสดงรายการเสียภาษีเงินได้เฉพาะปี 2554 มีเงินได้พึงประเมินเพียง 865,831 บาท เท่านั้น
จากการข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ข้างต้นมีน้ำหนักให้รับฟังได้ว่า นายสุธี เป็นพนักงานของบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด เปิดบัญชีเงินฝากตามธนาคารต่าง ๆ ดังกล่าวเพื่อสำหรับการรับเงินจากการขายข้าวและเบิกถอนเงินเพื่อซื้อแคชเชียร์เช็คสั่งจ่ายให้แก่กรมการค้าต่างประเทศเพื่อให้ผู้ประกอบการที่ซื้อข้าวนำไปเป็นหลักฐานในการรับข้าวจากโกดังต่าง ๆ ที่อยู่ในความดูแลของ อคส. และองค์การตลาดเพื่อการเกษตร (อ.ต.ก.) โดยเฉพาะ จากการทำธุรกรรมต่าง ๆ ดังวินิจฉัยข้างต้นก็เพื่อประโยชน์ของบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด
เมื่อพิเคราะห์ถึงช่วงระยะเวลาที่นายสุธี เปิดบัญชีธนาคารเป็นเวลาหลังมีการทำสัญญาข้าวจีทูจี 4 สัญญาดังกล่าว หลังจากนั้นมีการใช้บัญชีที่เปิด 3 แห่ง ทำธุรกรรมชำระเงินค่าข้าวด้วยแคชเชียร์เช็คจำนวนมากถึง 62 ฉบับ เป็นเงินหลายพันล้านบาท จนเป็นที่รับรู้ในวงการผู้ประกอบธุรกิจค้าข้าวว่า หากต้องการซื้อข้าวของรัฐต้องติดต่อซื้อจากนายสมคิด เอื้อนสุภา โดยไม่ต้องมีการประมูล และมีนายสุธี เป็นผู้ชำระราคาข้าวให้แก่รัฐ
พฤติการณ์ของนายสุธี แสดงให้เห็นว่าเป็นผู้มีบทบาทสำคัญและร่วมอยู่ในขบวนการตั้งแต่ต้นในการนำบริษัท กว่างตงฯ และบริษัท ห่ายหนานฯ มาทำสัญญาซื้อข้าวจากกรมการค้าต่างประเทศแบบจีทูจี โดยอ้างว่า ได้รับมอบหมายจากประเทศจีน ซึ่งไม่เป็นความจริง แล้วนำข้าวดังกล่าวออกขายให้แก่ผู้ประกอบการค้าข้าวในประเทศเพื่อทำกำไร อันเป็นการสนับสนุนนายภูมิ สาระผล รมช.พาณิชย์ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ กับพวก กระทำความผิดตามฟ้อง
การกระทำของนายสุธี จึงเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 4 วรรคหนึ่ง มาตรา 10 มาตรา 12 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 เป็นการกระทำความผิดหลายกรรมแยกตามรายสัญญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 รวม 4 กระทง กระทงละ 8 ปี รวมจำคุก 32 ปี
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ :
บ.ค้าข้าวเข้าพบ-โทรคุย-จ่ายเงิน‘วีระวุฒิ’! ข้อมูลใหม่คดีระบายข้าวจีทูจี
เปิดพฤติการณ์เอกชน-โรงสีจ่ายเช็ค‘วีระวุฒิ’ก่อนเวียนข้าวขายใน ปท.คดีจีทูจีเก๊
อายัดเช็ค 1.8 พันล.หลักฐานสำคัญมัดข้าวจีทูจีเก๊!-ป.ป.ช.พบของเครือสยามอินฯ
ป.ป.ช.จ่อชง ปปง.เอาผิด‘วีระวุฒิ-พวก’ คดีฟอกเงินข้าวจีทูจี! หลังศาลสั่งยึด 896 ล.
ศาลฎีกาฯพิพากษายึดทรัพย์ 896 ล.'วีระวุฒิ'พฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติพันคดีข้าวจีทูจี
หมายจับรอบ2‘หมอโด่ง-สุธี’!ศาลฎีกาฯพิจารณาลับหลังคดีจีทูจีเก๊-ตรวจหลักฐาน26ต.ค.
ไม่ให้ประกันหวั่นหนี!คุก'บุญทรง'42ปี 'ภูมิ'36ปี'เสี่ยเปี๋ยง'48ปีคดีจีทูจี-ชดใช้1.6หมื่นล.
INFO:จำแนกครบ17จำเลย-โทษเรียงคนคดีทุจริตข้าวจีทูจีเจ๊งหมื่นล.ยกฟ้อง 8-ออกหมายจับ3