- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- เปิดตัว บ.ลูกเจ๊แดง! ตามรอยเงินสด 11 ล. หิ้วซื้อที่ดินแทน 'เกษม' ใครเจ้าของตัวจริง?
เปิดตัว บ.ลูกเจ๊แดง! ตามรอยเงินสด 11 ล. หิ้วซื้อที่ดินแทน 'เกษม' ใครเจ้าของตัวจริง?
"...คณะอนุกรรมการไต่สวน ป.ป.ช. จึงตรวจสอบประวัตินายยุทธศักดิ์จากประกันสังคม พบว่า เมื่อปี 2556 นายยุทธศักดิ์ เคยทำงานที่บริษัท ยานัท จำกัด โดยบริษัทดังกล่าว ปรากฏชื่อของนายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ บุตรชายของนางเยาวภา และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นกรรมการ ก่อนที่จะลาออกจากบริษัทดังกล่าวในปี 2559 ข้อเท็จจริงที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ใช้เป็นหลักฐานคือ ไม่ปรากฏว่า นายยุทธศักดิ์ เป็นลูกจ้างนายเกษมแต่อย่างใด และไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดกับนายเกษม ถึงขนาดที่ต้องรับมอบเงิน 11 ล้านบาทจากนายเกษม เพื่อซื้อแคชเชียร์เช็ค 2 ครั้ง นำไปชำระที่ดิน 2 แปลงดังกล่าว ..."
ชื่อของ บริษัท ยานัท จำกัด ปรากฏชัดเจนอยู่ในสำนวนการไต่สวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ยื่นเรื่องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก่อนจะมีคำพิพากษาให้ยึดทรัพย์สิน นายเกษม นิมมลรัตน อดีต ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย และอดีตรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ตกเป็นของแผ่นดิน วงเงินประมาณ 21 ล้านบาท แบ่งเป็นที่ดิน 2 แปลง 11.8 ล้านบาท และหุ้นของนางดวงสุดา นิมมลรัตน์ (คู่สมรส) อีก 9.2 ล้านบาท จากคดีมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ
โดยบริษัท ยานัท จำกัด ถูกระบุว่า เป็นที่ทำงานเก่าของ นายยุทธศักดิ์ แก้วสาย ซึ่งเป็นผู้รับหน้าที่นำเงินสด ออกแคชเชียร์เช็ค จำนวนกว่า 11 ล้านบาท จ่ายให้กับผู้ขายที่ดินแทน นายเกษม
“ ..คณะอนุกรรมการไต่สวน ป.ป.ช. ตรวจสอบแคชเชียร์เช็คฉบับดังกล่าว จากเจ้าหน้าที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาแจ้งวัฒนะ พบว่า มีการโอนแคชเชียร์เช็ค 2 ใบ โดย นายยุทธศักดิ์ แก้วสาย ได้นำเงินสด 5 ล้านบาทมาซื้อแคชเชียร์เช็คฉบับดังกล่าว ฉบับเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2557 และโอนให้ผู้ขายที่ดินให้นายเกษม หลังจากนั้นนายยุทธศักดิ์ ได้นำเงินสดอีก 6 ล้านบาทซื้อแคชเชียร์เช็คอีกฉบับลงวันที่ 26 ธ.ค. 2557 ก่อนจะนำแคชเชียร์เช็คทั้งหมดรวม 11 ล้านบาท จ่ายให้กับผู้ขายที่ดินให้นายเกษม
ผู้บริหารในธนาคารกสิกรไทย สาขาแจ้งวัฒนะ ให้การในชั้นคณะอนุกรรมการไต่สวน ป.ป.ช. ว่า นายยุทธศักดิ์ เข้ามาทำธุรกรรมทางการเงินที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาแจ้งวัฒนะ บ่อยครั้ง ทราบว่านายยุทธศักดิ์เป็นพนักงานของบริษัทนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แต่จำชื่อบริษัทไม่ได้
คณะอนุกรรมการไต่สวน ป.ป.ช. ได้เรียกนายยุทธศักดิ์ มาให้ถ้อยคำหลายครั้ง แต่นายยุทธศักดิ์ ส่งแค่หนังสือชี้แจงกลับมาว่าขอเลื่อน และไม่เคยมาให้ถ้อยคำต่อคณะอนุกรรมการไต่สวน ป.ป.ช. แต่อย่างใด
คณะอนุกรรมการไต่สวน ป.ป.ช. จึงตรวจสอบประวัตินายยุทธศักดิ์จากประกันสังคม พบว่า เมื่อปี 2556 นายยุทธศักดิ์ เคยทำงานที่บริษัท ยานัท จำกัด โดยบริษัทดังกล่าว ปรากฏชื่อของนายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ บุตรชายของนางเยาวภา และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นกรรมการ ก่อนที่จะลาออกจากบริษัทดังกล่าวในปี 2559
ข้อเท็จจริงที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ใช้เป็นหลักฐานคือ ไม่ปรากฏว่า นายยุทธศักดิ์ เป็นลูกจ้างนายเกษมแต่อย่างใด และไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดกับนายเกษม ถึงขนาดที่ต้องรับมอบเงิน 11 ล้านบาทจากนายเกษม เพื่อซื้อแคชเชียร์เช็ค 2 ครั้ง นำไปชำระที่ดิน 2 แปลงดังกล่าว
ขณะเดียวกันนายเกษม และนางดวงสุดา มีภูมิลำเนาอยู่ จ.เชียงใหม่ และมีเงินฝากหลายบัญชีอยู่ที่ธนาคารใน จ.เชียงใหม่ ดังนั้นการซื้อแคชเชียร์เช็คผ่านธนาคารในกรุงเทพฯ จึงเป็นข้อพิรุธ
และการอ้างว่า นำเงินที่ขายหุ้นของบริษัทต่าง ๆ และหมุนเวียนในบัญชีเงินฝากมาซื้อนั้น จากการตรวจสอบแบบรายการแสดงภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด.) พบว่า ปี 2556 นายเกษม มีรายได้ 8.1 แสนบาท ปี 2557 มีรายได้ 6.6 แสนบาท ส่วนนางดวงสุดา ปี 2556 มีรายได้ 1.3 ล้านบาท ปี 2557 มีรายได้ 1.1 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่ไม่เพียงพอต่อการซื้อที่ดินทั้ง 2 แปลงดังกล่าว
ดังนั้นจึงไม่ปรากฏหลักฐานเชื่อมโยงว่า มีเงินจากบัญชีของนายเกษม นำไปซื้อแคชเชียร์เช็คเพื่อชำระเป็นค่าที่ดิน 2 แปลงดังกล่าว และไม่ปรากฏเส้นทางการเงินที่โอนให้นายยุทธศักดิ์ไปซื้อที่ดิน 2 แปลงดังกล่าวด้วย ดังนั้นที่ดินทั้ง 2 แปลงนี้จึงถือว่าเพิ่มขึ้นผิดปกติในช่วงนายเกษม ดำรงตำแหน่งรองนายก อบจ.เชียงใหม่...” (อ่านประกอบ : พนง.บ.ลูก‘เจ๊แดง’คนจ่ายค่าที่ดิน! เปิดคำพิพากษาคดียึดทรัพย์‘เกษม’ 21 ล.)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบข้อมูล บริษัท ยานัท จำกัด จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2547 ทุนปัจจุบัน 10 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 222 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ รุงเทพมหานคร
แจ้งประกอบธุรกิจจำหน่ายเครื่องดื่มและอาหาร
ปรากฏชื่อ นายชาคริต เฉลิมวัฒน์ นายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ นางสาวนันทกานต์ ศิลป์เสวีกุล เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ
รายชื่อผู้ถือหุ้น 30 เมษายน 2560 นาย ชาคริต เฉลิมวัฒน์ ถือหุ้นใหญ่สุด 25 % นางสาว ชยาภา วงศ์สวัสดิ์ บริษัท สยาม ออยล์ โปรดักส์ จำกัด นาย ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ ถือหุ้นใหญ่คนละ 20% นางสาว นันทกานต์ ศิลป์เสวีกุล ถือหุ้นอยู่ 15% (แต่ถ้านับร่วมจำนวนหุ้น นางสาว ชยาภา และ นาย ยศชนัน จะอยู่ที่ 20 % มากกว่า นาย ชาคริต )
ขณะที่ในช่วงปี 2555 ณ 30 เม.ย.2555 น.ส.ชยาภา ถือหุ้น 100,000 หุ้นหรือ 22% เท่ากับนายณัฐพล จุฬางกูร นายชาคริต เฉลิมวัฒน์ ถือ 224,997 หุ้น หรือ 44.9% มูลค่าหุ้นละ 10 บาท
นำส่งข้อมูลงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจล่าสุด ณ 31 ธันวาคม 2559 แจ้งว่ามีรายได้รวม 51,782,401.08 บาท รวมรายจ่าย 51,291,565.07 บาท กำไรสุทธิ 102,839.65 บาท
ทั้งนี้ ในช่วงเริ่มต้นจดทะเบียนจัดตั้ง ใช้ชื่อว่า บริษัท ทรีพลัซวันเซอร์วิส จำกัด ก่อนจะเปลี่ยนเป็น บริษัท ยานัท จำกัด เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2547
ส่วนทุนจดทะเบียนช่วงเริ่มต้นจัดตั้งมีทุน 1 ล้านบาท ก่อนจะเพิ่มเป็น 5 ล้านบาท เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2547 และเพิ่มเป็น 10 ล้านบาท เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2559
จากข้อมูลดังกล่าว ชี้ให้เห็นว่า นายยุทธศักดิ์ แก้วสาย เคยทำงานอยู่ในบริษัทที่ปรากฏชื่อ นาย ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ นางสาว ชยาภา วงศ์สวัสดิ์ บุตรชายและบุตรสาวของ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ อดีต ส.ส.เพื่อไทย น้องสาวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และภรรยาของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ จริง
ขณะที่ นายเกษม นิมมลรัตน์ ถูกสื่อมวลชนหลายสำนักระบุว่า เป็นคนใกล้ชิด นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เข้ามาดำรงตำแหน่งทางการเมืองแทน นางเยาวภา ในช่วงที่ถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี หลังจากที่พรรคไทยรักไทย ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยคดียุบพรรคการเมืองเมื่อปี 2549 ก่อนที่นายเกษม จะลาออกจากตำแหน่ง ส.ส.เขต.3 เชียงใหม่ ในช่วงปี 2556 เพื่อเปิดทางให้กับ นางเยาวภา ลงสมัครรับเลือกตั้งแทน และได้รับเลือกตั้ง ก่อนที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะประกาศยุบสภา และถูกยึดอำนาจจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในปัจจุบัน
ส่วนคำถามที่ว่า ถ้าเงินจำนวน 11 ล้านบาท ที่นำไปซื้อที่ดินทั้ง 2 แปลงดังกล่าว ไม่ใช่ของ นายเกษม แล้ว เงินจำนวนนี้ เป็นของใคร?
ยังเป็นปริศนาสำคัญที่ยังไม่มีคำอธิบายชัดเจนในขณะนี้
อ่านประกอบ :
ศาลฎีกาฯเปิดคำพิพากษาฉบับเต็มคดียึดทรัพย์‘เกษม’168 ล. -ชื่อ 3 บิ๊กธุรกิจโผล่
อุปโลกน์หนี้ 72 ล.! คำพิพากษาชำแหละ ‘เกษม’แจ้งบัญชีเท็จ-รวยผิดปกติ 168 ล.
คุกจริง 1 ปี! 'เกษม' จงใจแจ้งบัญชีเท็จ-ยึดทรัพย์รวยผิดปกติ 168 ล.
ชี้ชะตากรรม นักการเมืองรายที่ 5 ถูกยึดทรัพย์ รวยผิดปกติ 186 ล.?
เปิดชัด ๆ บ.แอสคอนฯ ก่อน‘เกษม’รวยผิดปกติ 186.6 ล. กลุ่ม‘วงศ์สวัสดิ์’ หุ้นใหญ่