- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- ข้อมูลสำนักพุทธฯเรียกรับเงิน ‘อิศรา’ คุ้ยปี’59 ก่อน‘บิ๊ก’เข้าข่ายโดน ม.44 ล็อตใหม่?
ข้อมูลสำนักพุทธฯเรียกรับเงิน ‘อิศรา’ คุ้ยปี’59 ก่อน‘บิ๊ก’เข้าข่ายโดน ม.44 ล็อตใหม่?
“…นางประนอมทำผิดพลาดตามขั้นตอนของการจัดสรรเงิน แต่ไม่มีเจตนากระทำผิด จึงไม่มีบทลงโทษทางวินัย แต่ติดทัณฑ์บนไว้ก่อนว่าห้ามกระทำผิดอีก มิฉะนั้นจะถือว่ากระทำผิดโดยเจตนา ส่วนนายเสถียรผิดพลาดกรณีโอนเงินให้วัด จึงมีความผิดทางวินัย แต่เมื่อโดนมาตรา 44 ให้พักงาน จึงถือว่าถูกลงโทษทางวินัยไปแล้ว และรอให้ ศอตช. ตรวจสอบตามขั้นตอนต่อไป…”
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กำลังระส่ำระส่าย และถูกจับตาจากสาธารณชนเป็นอย่างมาก!
ภายหลังมีรายงานข่าวแจ้งว่า กลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐที่จะถูก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สั่งพักงานในล็อตล่าสุด (ล็อตที่ 9) เนื่องจากอาจพัวพันกับการทุจริต อาจมีชื่อของผู้บริหารระดับรอง ผอ.สำนักพุทธฯ รวมอยู่ด้วย ?
(อ่านประกอบ : คนสำนักพุทธฯจองชื่อแรก! จ่อเคาะบัญชีขรก.-ผู้บริหารท้องถิ่น ม.44 ล็อตใหม่30-40 ราย)
สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ ตำรวจกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) สนธิกำลังกับตำรวจกองปราบปราม และทหาร จับกุมนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีต ผอ.สำนักพุทธฯถูกกล่าวหาว่า อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินอุดหนุนงบประมาณบูรณะ และปฏิสังขรณ์วัดกว่า 60 ล้านบาท
ต่อมา เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 2560 มีการลงพื้นที่ใช้หมายศาลตรวจค้นบ้านผู้เกี่ยวข้องที่ถูกอ้างว่า เป็นภรรยาคนที่ 2 ของนายนพรัตน์ โดยพบทรัพย์สินจำนวนมาก และพบเส้นทางการเงินโอนเข้าบัญชีภรรยาคนที่ 2 ของนายนพรัตน์ นอกจากนี้ยังบุกค้นบ้านของผู้บริหารระดับ ‘รอง ผอ.สำนักพุทธฯ’ คนหนึ่ง ที่ จ.สมุทรปราการ เพื่อค้นหาเอกสารที่อาจเชื่อมโยงกับการกระทำความผิดในคดีทุจริตงบประมาณในสำนักพุทธฯ โดยพบบัญชีเงินฝาก และใบฝากเงินจำนวนมาก จึงได้ตรวจยึดไว้พร้อมกับเอกสารอื่น ๆ รวม 16 รายการด้วย (อ้างอิงข่าวจาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์)
ไม่ว่ารอง ผอ.สำนักพุทธฯคนดังกล่าวคือใคร ?
แต่ช่วงที่ผ่านมา สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org เคยนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับความไม่ชอบมาพากลในการเรียกเงินคืนจากวัดในหลายจังหวัดภาคใต้ โดยปรากฏชื่อของผู้บริหารระดับสูงของสำนักพุทธฯด้วย สรุปข้อเท็จจริงได้ ดังนี้
มีรายงานข่าวจากสื่อมวลชนหลายสำนักว่า ช่วงปลายปี 2558 นายเสถียร ดำรงคดีราษฎร์ ผอ.สำนักพุทธฯสงขลา (ขณะนั้น) ถูกเจ้าหน้าที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ภาค 15 เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จ.สงขลา สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหาร บุกจับกุมแบบ ‘สด’ กรณีเรียกรับเงินคืนจากวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ภาคใต้ วงเงิน 3.2 ล้านบาท
หลังจากนั้น สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกพบว่า คดีนี้ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานสรุปสำนวนส่งให้อัยการ จ.สงขลา ทว่าพนักงานอัยการกลับมีคำสั่ง ‘ไม่ฟ้อง’ โดยอ้างว่า นางประนอม คงพิกุล รอง ผอ.สำนักพุทธฯ ‘การันตี’ ว่า การเรียกรับเงินคืนดังกล่าว ทำไปอย่างถูกต้อง ?
สำหรับข้อเท็จจริงตามสำนวนการสอบสวนของตำรวจ และอัยการ ระบุว่า ช่วงเดือน ส.ค. 2558 นายเสถียร เป็นคนดีลกับวัดต่าง ๆ ในพื้นที่ภาคใต้ โดยระบุว่าจะให้เงินอุดหนุนแก่วัด โดยวัดแห่งหนึ่งของบประมาณไป 8 แสนบาท แต่สำนักพุทธฯโอนเงินมาให้ 4 ล้านบาท หลังจากนั้นนายเสถียรโทรศัพท์ติดต่อเจ้าอาวาสขอให้ถอนเงินดังกล่าวออกมาเป็นเงินสดจำนวน 3.2 ล้านบาท เพื่อให้นำมาคืน โดยนัดส่งมอบเงินที่ลานจอดรถ ห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส จ.สงขลา
ต่อมา ภายหลังมีการจับกุม นางประนอม คงพิกุล รอง ผอ.สำนักพุทธฯ ให้การว่า การกระทำของนายเสถียรเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ และวัดแห่งนั้นได้รับจัดสรรเงิน 8 แสน แต่โอนไป 4 ล้านบาท จึงต้องคืนเงิน 3.2 ล้านบาท เพื่อนำไปจัดสรรเงินให้วัดอื่น ซึ่งนายเสถียรมีอำนาจในการปรับ ลด เพิ่ม เปลี่ยนแปลงงบประมาณ สถานที่ได้ทั้งหมด
ดังนั้นพยานบุคคล พยานเอกสาร และพยานวัตถุที่ได้สอบสวนมา ข้อเท็จจริงจึงไม่พอรับฟังได้ว่ากระทำผิดตามข้อกล่าวหา คดีมีพยานหลักฐานไม่พอฟ้อง จึงมีคำสั่งไม่ฟ้อง
ถ้าดูตามข้อเท็จจริงข้างต้นคือ นางประนอม ออกมาการันตีว่า นายเสถียร ดำเนินการถูกต้อง และการเรียกเงินคืนดังกล่าวเพราะ 'โอนเงินผิด’ ตั้งแต่ต้น
หากข้อเท็จจริงเป็นไปตามนี้ จะพบว่ามีข้อน่าสังเกตหลายประการ เช่น เป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการโอนเงินผิดจากเดิมหลายล้านบาท หากโอนผิดจริง ทำไมต้องถอนมาเป็นเงินสดซึ่งสุ่มเสี่ยงกับการถูกจับตามอง ทำไมถึงไม่โอนเงินคืนไปยังสำนักพุทธฯส่วนกลางแทน ?
นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ยังให้สัมภาษณ์สอดคล้องกับข้อสังเกตดังกล่าว ยืนยันว่า “ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่มีการโอนผิด”
อย่างไรก็ดีแม้อัยการจะไม่ฟ้องคดีดังกล่าวกับนายเสถียร แต่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอำนาจเรียกสำนวนการไต่สวนจากตำรวจมาทำเองได้ จึงเรียกกลับมาดำเนินการไต่สวนเอง โดยร่วมกับศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ซึ่งมีการไต่สวนเชิงลึกจนเบื้องต้นปรากฏชื่อ นางประนอม คงพิกุล รอง ผอ.สำนักพุทธฯ รวมอยู่ด้วย นอกจากนี้สำนักพุทธฯ ยังดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ด้วย
โดยข้อกล่าวหาในชั้น ศอตช. คือ นางประนอม ร่วมกับนายเสถียร ใช้อำนาจหน้าที่จัดสรรเงินอุดหนุนโดยมิชอบให้วัด 3 แห่ง แห่งละ 4 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 12 ล้านบาท แล้วให้ทั้ง 3 วัดถอนเงินสดบางส่วนมามอบให้นายเสถียร โดยอ้างว่าจะนำเงินไปให้สำนักสงฆ์ที่ไม่ได้จดทะเบียน
ขณะที่ข้อมูลจากเจ้าอาวาส และผู้บริหารวัดที่ถูกอ้างอิงว่าถูกเรียกเงินคืน ต่างยอมรับว่า ตอนของบประมาณไป ไม่ถึง 4 ล้านบาท แต่สำนักพุทธฯ กลับโอนคืนมาเกิน และมาขอให้ถอนเงินที่เกินเป็นเงินสด เพื่อนำไปมอบคืนแก่นายเสถียร
มีการอ้างอิงถึง ‘ผู้มีอิทธิพล’ ในท้องถิ่นเป็นคน ‘ดีล’ กับสำนักพุทธฯ เพื่อดำเนินการในเรื่องนี้ด้วย และไม่ใช่มีแค่ 3-4 วัดข้างต้น แต่มีมากถึง 17-18 วัด เฉพาะพื้นที่ภาคใต้ ?
กระทั่งเดือน ก.ค. 2559 พล.อ.ประยุทธ์ ใช้คำสั่งตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 สั่งพักงานนายเสถียร เนื่องจากถูกตรวจสอบพบว่า มีพฤติการณ์เรียกรับเงินจากวัดชลธาราวาส จ.นราธิวาส เป็นจำนวนเงิน 3.2 ล้านบาท และเพิ่งถูกบุกจับกุมตัวเมื่อช่วงปลายปี 2558 ที่ผ่านมา
แต่ไม่ปรากฏชื่อของนางประนอม คงพิกุล รอง ผอ.สำนักพุทธฯ แต่อย่างใด ?
ต่อมาเดือน ส.ค. 2559 นายสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ ขณะดำรงตำแหน่ง รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี (ปัจจุบันเป็น รมว.ยุติธรรม) เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงกรณีนี้ว่า ภายหลังสำนักพุทธฯ ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ได้สรุปผลแล้ว พบว่า นางประนอม และนายเสถียร มีความบกพร่องในการทำงาน
มีรายงานข่าวแจ้งว่า นางประนอมทำผิดพลาดตามขั้นตอนของการจัดสรรเงิน แต่ไม่มีเจตนากระทำผิด จึงไม่มีบทลงโทษทางวินัย แต่ติดทัณฑ์บนไว้ก่อนว่าห้ามกระทำผิดอีก มิฉะนั้นจะถือว่ากระทำผิดโดยเจตนา ส่วนนายเสถียรผิดพลาดกรณีโอนเงินให้วัด จึงมีความผิดทางวินัย แต่เมื่อโดนมาตรา 44 ให้พักงาน จึงถือว่าถูกลงโทษทางวินัยไปแล้ว และรอให้ ศอตช. ตรวจสอบตามขั้นตอนต่อไป
ต่อมาช่วงเดือน ก.ย. 2559 มีรายงานข่าวจากสำนักงาน ป.ป.ช. ว่า แม้สำนักพุทธฯ จะสรุปผลสอบข้อเท็จจริงว่า นางประนอม ไม่ผิดทางวินัย และนายเสถียร ผิดทางวินัย แต่ถูกลงโทษตามมาตรา 44 ไปแล้ว แต่ ป.ป.ช. จะดำเนินการไต่สวนเชิงลึกต่อ โดยขยายผลไปทั่วประเทศด้วย
กระทั่งเรื่องนี้เงียบหายไปนานกว่า 9 เดือน ?
ทั้งหมดคือข้อเท็จจริงประเด็นการเรียกรับเงินคืนจากวัดที่สำนักข่าวอิศราขุดคุ้ยข้อมูล-ข้อเท็จจริงมานำเสนอ
ก่อนที่ความไม่ชอบมาพากลในสำนักพุทธฯจะกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ ถูกจับกุม และกล่าวหาว่า อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินอุดหนุนงบประมาณบูรณะ และปฏิสังขรณ์วัดกว่า 60 ล้านบาท กระทั่งขยายผลไปถึงภรรยาคนที่ 2 และผู้บริหาระดับรอง ผอ.สำนักพุทธฯดังกล่าว
ส่วนรอง ผอ.สำนักพุทธฯ และผู้บริหารระดับสูงในสำนักพุทธฯ ที่อาจเข้าข่ายโดนมาตรา 44 พักงานจะเป็นใคร ต้องติดตามกันต่อไป !
ขยายผลทั่ว ปท.! ป.ป.ช.สอบต่อปม ผอ. สำนักพุทธฯสงขลาเรียกเงินแม้ พศ.สรุปไม่ผิด
ตั้งอนุฯสอบ‘ผอ.สำนักพุทธฯสงขลา’ เรียกเงินวัด 3.2 ล.-ป.ป.ช.สาวลึกขบวนการ
เจาะงบสำนักพุทธฯซื้อแท็บเล็ตแจก ‘เณร’ทั่วประเทศ 96 ล.อ้างพัฒนาศักยภาพ?
ถึงคิว!ชำแหละงบส่งเสริมศาสนาสำนักพุทธฯ 4 ปี 1.3 หมื่นล.จ่ายอะไรบ้าง?
เจาะงบอุดหนุนวัด 5 จว.ชายแดนใต้ 4 ปีพันล.สำนักพุทธฯจ่ายอะไรบ้าง
4 ปีพันล้าน! ชำแหละงบสำนักพุทธฯอุดหนุนวัด 5 จว.ใต้ก่อนปมเรียกรับเงินฉาว
ไม่มีเจตนาทำผิด! สำนักพุทธฯสรุปคดี‘รอง ผอ.-ผอ.สงขลา’เรียกรับเงินวัด
ขมวดปมซับซ้อน! คดีเรียกรับเงินวัด-ไฉน รอง ผอ.สำนักพุทธฯรอด ม.44?
ขอ 3 ล.ได้ 4 ล.ก่อนขอคืน! วัดยูปาราม-ยะลาแจงปม ผอ.สำนักพุทธฯสงขลาเรียกเงิน
เลขาฯเจ้าคณะนราธิวาสปัดแจง! ปมถูกปูดพัน ผอ.สำนักพุทธสงขลาเรียกเงินวัด
ปูดผู้มีอิทธิพลท้องถิ่นดีลสำนักพุทธ! ให้เงินวัดเกินก่อนเรียกคืน-รอง ผอ.ยังไม่แจง
หลักฐานไม่พอ! อัยการไม่ฟ้อง ผอ.สำนักพุทธฯสงขลาเรียกรับเงินวัด 3.2 ล.
ไขปริศนา? ทำไมอัยการไม่ฟ้อง ผอ.สำนักพุทธฯสงขลาเรียกรับเงิน 3.2 ล.
รอง ผอ.สำนักพุทธฯโดนด้วย! ร่วม ผอ.สงขลา ปมเรียกเงินวัด 3 แห่ง-ศอตช.ลุยสอบ
ขมวดปมซับซ้อน! คดีเรียกรับเงินวัด-ไฉน รอง ผอ.สำนักพุทธฯรอด ม.44?
หลักฐานไม่พอ! อัยการไม่ฟ้อง ผอ.สำนักพุทธฯสงขลาเรียกรับเงินวัด 3.2 ล.
ไขปริศนา? ทำไมอัยการไม่ฟ้อง ผอ.สำนักพุทธฯสงขลาเรียกรับเงิน 3.2 ล.
เพิ่งรับตำแหน่งไม่รู้เรื่อง! อัยการยันเห็นพ้อง ตร.ปมไม่ฟ้อง ผอ.สำนักพุทธฯสงขลา
อ้างฟังไม่ขึ้น! สตง.ยันให้วัดถือเงินสดคืน ผอ.สำนักพุทธสงขลา 3.2 ล.ผิดปกติ
ป.ป.ช.เรียกคืนสำนวน! ปมอัยการไม่ฟ้อง ผอ.สำนักพุทธฯสงขลาเรียกเงิน 3.2 ล.
กางระเบียบจ่ายเงินวัด! ขมวดพิรุธปม ผอ.สำนักพุทธฯสงขลาเรียกรับเงิน 3.2 ล.