คนสำนักพุทธฯจองชื่อแรก! จ่อเคาะบัญชีขรก.-ผู้บริหารท้องถิ่น ม.44 ล็อตใหม่30-40 ราย
เผยมติที่ประชุม ศอตช. ครั้งล่าสุด สั่ง 'ป.ป.ช.- ป.ป.ท.- สตง.' สำรวจรายชื่อ ขรก.-ผู้บริหารท้องถิ่น เสนอใช้อำนาจ ม.44 พักงาน ล็อตใหม่ 30-40 ราย ระบุชัดผู้บริหารระดับสูงสำนักพุทธฯ พัวพันทุจริตโดนคนแรก - ส่วนคดีเก่าเจอปัญหาส่วนราชการ คกก.สอบสวน สรุปผลสอบเข้าข้างช่วยเหลือพวกพ้อง เตรียมเล่นงานเอาผิดด้วย
แหล่งข่าวระดับสูงจากศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ในการประชุม ศอตช. ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ประชุมได้มอบหมายให้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ไปสำรวจรวบรวมรายชื่อบุคคลที่อยู่ในข่ายที่จะถูกใช้อำนาจตามมาตรา 44 สั่งพักงาน เพื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบล็อตใหม่ ในเร็วๆ นี้
แหล่งข่าวกล่าวว่า รายชื่อบุคคลที่เข้าข่ายถูกใช้อำนาจ ม.44 สั่งพักงานล็อตใหม่ ที่จะถูกประกาศออกมาในเร็วๆ นี้ คาดว่าจะมีประมาณ 30-40 ราย ซึ่งจะทยอยประกาศรายชื่อออกมาเป็นล็อตไป
"ส่วนรายชื่อบุคคลที่จะถูกประกาศใช้ม.44 พักงานอย่างแน่นอน ในขณะนี้ คือ ผู้บริหารระดับสูงของ สำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่ปรากฎรายชื่อเข้าไปเกี่ยวข้อง และถูกตำรวจกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) สนธิกำลังตำรวจกองปราบปราม ทหาร ลงพื้นที่นำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านผู้เกี่ยวข้องไปเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2560 ที่ผ่านมา " (อ่านข่าวส่วนนี้ ประกอบจาก บุกค้น10จุดเครือข่าย 'นพรัตน์' อดีตผอ.พศ. คดีทุจริต60ล้าน
แหล่งข่าวยังกล่าวด้วยว่า สำหรับรายชื่อข้าราชการ ผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงาน รวมไปถึงนักการเมืองท้องถิ่น ที่ถูกใช้อำนาจตามมาตรา 44 สั่งพักงาน ไปก่อนหน้านี้นั้น ที่ประชุม ศอตช. ได้มีการหารือถึงความคืบหน้าผลการตรวจสอบของหน่วยงานต้นสังกัด ที่ส่งเรื่องเข้ามาให้รับทราบ ซึ่งพบว่าผลการสอบสวนที่ส่งมา มีลักษณะการสรุปผลสอบสวนในลักษณะหักล้างข้อมูลผลการตรวจสอบของหน่วยงานตรวจสอบก่อนหน้านี้ เพื่อช่วยเหลือพวกเดียวกันเอง
"หลังจากที่มีการใช้อำนาจมาตรา 44 สั่งพักงาน ข้าราชการ ผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงาน รวมไปถึงนักการเมืองท้องถิ่น เพื่อให้เข้าสู่กระบวนการตรวจสอบตามขั้นตอนทางกฎหมาย ศอตช.ได้กำหนดแนวทางให้หน่วยงานที่บุคคลเหล่านี้สังกัดหรือดำรงตำแหน่งอยู่ ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอย่างตรงไปตรงมา แต่ปรากฎว่า มีหลายหน่วยงานที่ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริง และสรุปผลการสอบสวนหักล้างข้อมูลผลการตรวจสอบของหน่วยงานตรวจสอบก่อนหน้านี้ เจตนาเพื่อช่วยเหลือพวกพ้อง ที่ประชุม ศอตช. จึงได้มีข้อสรุปว่า ควรมีการตรวจสอบสำนวนการสอบสวนคดีที่หน่วยงานส่งมาให้ซ้ำ หากพบว่ารายงานผลการตรวจสอบที่เสนอมา มีลักษณะเข้าข้างช่วยเหลือพวกพ้องให้พ้นผิด จะต้องมีการสั่งลงโทษหัวหน้าส่วนราชการ และคณะกรรมการสอบสวนด้วย"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2560 ปปป. สนธิกำลัง ตำรวจกองปราบปราม ทหาร นำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านผู้เกี่ยวข้องเครือข่ายนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ จากคดีทุจริตเงินกว่า 60 ล้านบาท ซึ่งมีการบุกค้นบ้านรองผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ รายหนึ่ง แถวจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อค้นหาเอกสารที่เชื่อมโยงและเกี่ยวกับการกระทำความผิดในคดีทุจริตงบประมาณในสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติด้วย โดยพบบัญชีเงินฝากและใบฝากเงินจำนวนมาก จึงได้ตรวจยึดไว้พร้อมกับเอกสารอื่นๆรวม16รายการ
อ่านเรื่องประกอบ :
เปิดบัญชีรายชื่อ 33 ขรก.ถูกคำสั่งม.44 ย้ายเข้ากรุประจำสำนักนายกฯ