- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- โชว์เส้นทางเงินคดีรวยผิดปกติ ‘จุฑามาศ’ซุกในบัญชีลูก 4 ประเทศ 65 ล.
โชว์เส้นทางเงินคดีรวยผิดปกติ ‘จุฑามาศ’ซุกในบัญชีลูก 4 ประเทศ 65 ล.
“…ทำให้คดีนี้เป็นคดีทุจริตระหว่างประเทศคดีแรกที่มีการติดตามทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตจากต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศ และเป็นคดีตัวอย่างของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่จะมุ่งมั่นในการปราบปรามปัญหาการทุจริตข้ามชาติ โดย ป.ป.ช. จะไม่เพียงแต่มุ่งนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ แต่ยังเน้นถึงการติดตามทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกลับคืนสู่แผ่นดินด้วย…”
ชื่อของ นางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กลับมาได้รับความสนใจจากสาธารณชนอีกครั้ง ภายหลังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิด กรณีร่ำรวยผิดปกติ ที่สืบเนื่องจากที่ ป.ป.ช. เคยชี้มูลความผิดไปก่อนหน้านี้ในกรณีเรียกรับสินบนจากคู่สามี-ภรรยานักธุรกิจชาวสหรัฐอเมริกา เพื่อเอื้อประโยชน์ให้สิทธิ์ในการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพ เมื่อปี 2546
(อ่านประกอบ : ป.ป.ช.ฟัน‘อดีตผู้ว่าฯ ททท.’รวยผิดปกติ 65 ล.ซุกบัญชีชื่อลูกใน 4 ประเทศ)
โดยทรัพย์สินดังกล่าวที่ ป.ป.ช. ตรวจสอบร่วมกับกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ พบว่า นางจุฑามาศ มีบัญชีเงินฝากใน 4 ประเทศ โดยใช้ชื่อของบุตรสาว ได้แก่ ประเทศอังกฤษ ไอร์แลนด์ สิงคโปร์ และเกาะเจอร์ซีย์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ รวมวงเงินประมาณ 1.8 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ (ราว 65 ล้านบาท)
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า สำหรับเส้นทางการเงินที่ ป.ป.ช. ร่วมมือกับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ตรวจสอบพบนั้น เริ่มต้นจากประเทศไทย โอนเงินไปที่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ ก่อนที่จะมีการโอนต่อไปอีก 3 ประเทศ ได้แก่ อังกฤษ ไอร์แลนด์ และเกาะเจอร์ซีย์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ขณะเดียวกันได้กระจายเงินออกไปอีก 2 ส่วน คือเงินจากสิงคโปร์ ไปที่สวิตเซอร์แลนด์ และเงินจากอังกฤษไปที่ไอร์แลนด์ และสวิตเซอร์แลนด์ด้วย (ดูภาพประกอบ)
สำหรับการดำเนินคดีในสหรัฐฯ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ อยู่ระหว่างดำเนินคดีนางจุฑามาศ และบุตร ฐานฟอกเงิน และดำเนินการริบทรัพย์ทางแพ่ง มีการอายัดบัญชีในธนาคารต่าง ๆ ในต่างประเทศของบุตรสาวคือ อังกฤษ ไอร์แลนด์ สิงคโปร์ เกาะเซอร์ซีย์ของสวิตเซอร์แลนด์ อย่างไรก็ดีปัจจุบันทางการสหรัฐฯได้พักคดีดังกล่าวไว้ เพื่อรอผลการพิจารณาคดีอาญาของศาลในประเทศไทย
ส่วนคดีอาญาในประเทศไทย ในวันที่ 29 มี.ค. 2560 ศาลอาญาได้นัดฟังคำพิพากษาในคดีที่อัยการสูงสุด (อสส.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนางจุฑามาศ และบุตรสาว ในคดีการรับสินบน
คดีนี้ ป.ป.ช. จะประสานกับทางการสหรัฐฯ เพื่อติดตามทรัพย์สินที่ถูกอายัดไว้ในต่างประเทศกลับคืนสู่ไทยโดยเร็ว โดยอาจทำเป็นข้อตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสหรัฐฯ หรือกับรัฐบาลประเทศอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง อันจะทำให้คดีนี้เป็นคดีทุจริตระหว่างประเทศคดีแรกที่มีการติดตามทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตจากต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศ และเป็นคดีตัวอย่างของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่จะมุ่งมุ่นในการปราบปรามปัญหาการทุจริตข้ามชาติ โดย ป.ป.ช. จะไม่เพียงแต่มุ่งน้ำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ แต่ยังเน้นถึงการติดตามทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกลับคืนสู่แผ่นดินด้วย
อนึ่ง พฤติการณ์ของนางจุฑามาศในคดีเรียกรับสินบน เกิดขึ้นเมื่อปี 2553 ศาลสหรัฐฯ และเอฟบีไอ ได้ดำเนินคดีตามกฎหมายการกระทำอันเป็นการทุจริตข้ามชาติ (Foreign Corrupt Practices Act) หรือ FCPA ของสหรัฐฯ กับนายเจอรัลด์ และนางแพทริเซีย กรีน ในข้อหาให้สินบนกับนางจุฑามาศ ศิริวรรณ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ ททท. กระทั่งปลายปี 2553 ศาลมีคำพิพากษาให้จำคุกนายเจอรัลด์ และนางแพทริเซีย 6 เดือน จากนั้นกักบริเวณในบ้านอีก 6 เดือน จ่ายเงินชดใช้ 2.5 แสนดอลลาร์ หรือประมาณ 8 ล้านบาท โดยนอกเหนือจากนางจุฑามาศ แล้วยังกล่าวหาบุตรสาวนางจุฑามาศด้วย
ขณะเดียวกันสำนักงาน ป.ป.ช. ได้ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงเร่งด่วน โดยใช้ข้อมูลจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ และสำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐฯ หรือ FBI เป็นข้อมูลเอกสารกว่า 2,200 แผ่น พร้อมทั้งเส้นทางการเงินที่นางจุฑามาศนำไปฝากที่ต่างประเทศด้วย และเชิญนางจุฑามาศ และบุตร เข้ามาให้ถ้อยคำต่อคณะอนุกรรมการไต่สวน ป.ป.ช.
กระทั่งในปี 2554 คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดนางจุฑามาศ และบุตร ถูกกล่าวหาเรียกรับสินบนสองสามีภรรยาชาวสหรัฐฯ วงเงินประมาณ 1.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 60 ล้านบาท (ค่าเงินขณะนั้น) และส่งสำนวน พร้อมความเห็นให้กับอัยการสูงสุด (อสส.) อย่างไรก็ดี อสส. เห็นว่า ยังมีข้อเท็จจริงไม่สมบูรณ์ในคดีอยู่ จึงประสานมายัง ป.ป.ช. เพื่อแต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ในคดี
ผ่านมาประมาณ 3 ปี ประมาณปลายปี 2557 คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงแถลงผลการประชุมคณะทำงานร่วมฯว่า ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อไม่สมบูรณ์เสร็จแล้วว อสส. จึงนำตัวนางจุฑามาศ และบุตร ส่งฟ้องต่อศาลอาญา
อ่านประกอบ :
อสส.นำ“อดีตผู้ว่าฯ ททท.-บุตร”ฟ้องศาลอาญา ปมรับเงิน 60 ล.จัดเทศกาลหนัง
อสส.สั่งฟ้อง! “อดีตผู้ว่าฯ ททท.”ปมเรียกรับเงิน 60 ล.จัดงานเทศกาลหนัง
คณะทำงานร่วมฯส่งหลักฐานจากสหรัฐเพิ่ม!ชงอสส.ฟ้อง"จุฑามาศ"รับสินบน 60 ล.
คณะทำงานร่วมฯสอบ 3 ปีชง อสส. ฟ้องอดีตผู้ว่าฯททท.รับสินบน 60 ล.