ป.ป.ช.ฟัน‘อดีตผู้ว่าฯ ททท.’รวยผิดปกติ 65 ล.ซุกบัญชีชื่อลูกใน 4 ประเทศ
ป.ป.ช. ฟัน ‘จุฑามาศ’ อดีตผู้ว่าฯ ททท. ร่ำรวยผิดปกติ 1.8 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ตีเป็นเงินไทยกว่า 65 ล้านบาท ซุกอยู่ในชื่อลูกไว้ในบัญชีแบงก์ 4 ประเทศ พันปมรับเงินนักธุรกิจชาวสหรัฐฯจัดงานเทศกาลหนังกรุงเทพปี’46
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2560 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดนางจุฑามาศ ศิริวรรณ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กรณีร่ำรวยผิดปกติ ซึ่งสืบเนื่องจากการชี้มูลความผิดกรณีเรียกรับสินบนนักธุรกิจชาวสหรัฐอเมริกา 60 ล้านบาท
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วเห็นว่า นางจุฑามาศ ร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินที่ได้มาโดยไม่สมควรอันสืบเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจในการปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวข้องกับการจ้างนักธุรกิจชาวสหรัฐฯ ในการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ และโครงการอื่นที่เกี่ยวข้องระหว่างเป็นผู้ว่าฯ ททท. รวมเป็นเงินประมาณ 1.8 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ (ราว 65 ล้านบาท)
กรณีนี้มีการดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ จนปรากฏพยานหลักฐานว่า นางจุฑามาศมีทรัพย์สินเป็นเงินที่ฝากอยู่ในบัญชีประเทศอังกฤษ ไอร์แลนด์ สิงคโปร์ เกาะเจอร์ซีย์ของสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีบุตรสาวเป็นผู้ถือครองแทน และการชี้แจงที่มาของเงินดังกล่าว ไม่มีน้ำหนักที่จะรับฟังได้
สำหรับการดำเนินคดีในสหรัฐฯ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ อยู่ระหว่างดำเนินคดีนางจุฑามาศ และบุตร ฐานฟอกเงิน และดำเนินการริบทรัพย์ทางแพ่ง มีการอายัดบัญชีในธนาคารต่าง ๆ ในต่างประเทศของบุตรสาวคือ อังกฤษ ไอร์แลนด์ สิงคโปร์ เกาะเจอร์ซีย์ของสวิตเซอร์แลนด์ อย่างไรก็ดีปัจจุบันทางการสหรัฐฯได้พักคดีดังกล่าวไว้ เพื่อรอผลการพิจารณาคดีอาญาของศาลในประเทศไทย
ทั้งนี้ทรัพย์สินดังกล่าว ป.ป.ช. ประสานกับทางการสหรัฐฯอายัดไว้แล้ว และทางการสหรัฐฯอายัดไว้แล้ว และทางการสหรัฐฯมีพันธกรณีที่จะต้องคืนทรัพย์สินดังกล่าวให้แก่ไทย ตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต และสนธิสัญญาที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากเป็นทรัพย์สินของไทยที่เกิดจากการทุจริต โดย ป.ป.ช. จะประสานกับทางการสหรัฐฯ เพื่อติดตามทรัพย์สินที่ถูกอายัดไว้ในต่างประเทศกลับคืนสู่ไทยโดยเร็ว โดยอาจทำเป็นข้อตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสหรัฐฯ หรือกับรัฐบาลประเทศอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง อันจะทำให้คดีนี้เป็นคดีทุจริตระหว่างประเทศคดีแรกที่มีการติดตามทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตจากต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศ และเป็นคดีตัวอย่างของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่จะมุ่งมุ่นในการปราบปรามปัญหาการทุจริตข้ามชาติ โดย ป.ป.ช. จะไม่เพียงแต่มุ่งน้ำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ แต่ยังเน้นถึงการติดตามทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกลับคืนสู่แผ่นดินด้วย
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. เคยมีมติชี้มูลความผิด และบุตร กรณีถูกกล่าวหาเรียกรับสินบนสองสามีภรรยานักธุรกิจชาวสหรัฐฯ วงเงินประมาณ 1.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 60 ล้านบาท (ค่าเงินขณะนั้น) เพื่อเอื้อประโยชน์ให้สิทธิ์ในการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพมหานคร เมื่อปี 2546
ปัจจุบันคดีดังกล่าวอัยการสูงสุด (อสส.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนางจุฑามาศ และบุตร เป็นจำเลย ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ โดยมีรายงานว่าในวันที่ 29 มี.ค. 2560 ศาลนัดฟังคำพิพากษาแล้ว
อ่านประกอบ :
“อดีตผู้ว่าฯ ททท.”ลุ้นอีก! ป.ป.ช.ลุยสอบรวยผิดปกติปมรับสินบน 60 ล.
อสส.นำ“อดีตผู้ว่าฯ ททท.-บุตร”ฟ้องศาลอาญา ปมรับเงิน 60 ล.จัดเทศกาลหนัง
อสส.สั่งฟ้อง! “อดีตผู้ว่าฯ ททท.”ปมเรียกรับเงิน 60 ล.จัดงานเทศกาลหนัง
คณะทำงานร่วมฯส่งหลักฐานจากสหรัฐเพิ่ม!ชงอสส.ฟ้อง"จุฑามาศ"รับสินบน 60 ล.
คณะทำงานร่วมฯสอบ 3 ปีชง อสส. ฟ้องอดีตผู้ว่าฯททท.รับสินบน 60 ล.
หมายเหตุ : ภาพประกอบนางจุฑามาศจาก tnews