พนง.อสมทโวยถูกเอาเปรียบประเมินเกรดให้เงินเดือน-ฝ่ายบริหารชี้แผนปลุกกระแส
อสมทเดือด! พนักงานโวยถูกผู้บริหารเอาเปรียบ เร่งรีบประเมินผลการทำงาน ให้เกรด C กว่า10 เปอร์เซนต์ของพนง.ทั้งหมด ทำเสียประวัติไม่ได้ขึ้นเงินเดือน แถมเสี่ยงถูกไล่ออก ด้านฝ่ายบริหาร เผยเบื้องหลังแผนคนระดับ ผอ.ฝ่าย ใช้แผนปลุกกระแส เหตุไม่ได้รับการปรับขึ้นเงินเดือน
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ขณะนี้กำลังเกิดความขัดแย้งกันระหว่างพนักงานบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)กับ ฝ่ายบริหาร เกี่ยวกับมาตรการการประเมินผลการทำงานของพนักงานที่ออกมาใหม่ ซึ่งมีผลต่อการปรับขึ้นเงินเดือนและประวัติการทำงานของพนักงาน
โดยเมื่อวันที่ 15 ม.ค.2560 ที่ผ่านมา เพจ MMCOT Rebuild ได้โพสต์ข้อความว่า "มีข่าวล่าสุด ผู้บริหารจะให้มีการประเมินเกรด C ให้พนักงานจำนวน 10 เปอร์เซนต์ของพนักงานทั้งหมด ผู้บริหารจะรีบชงเรื่องขึ้นบอร์ดให้เร็วที่สุด เป็นการทำร้ายกำลังใจพนักงานอย่างเลวร้ายที่สุด การได้เกรด C พนักงานจะไม่ได้ขึ้นเงินเดือน ทำให้เสียประวัติการทำงาน ถ้าได้เกรด C สองปีติดต่อกันจะโดนไล่ออก โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย การได้เกรด C โดยปกติแล้วจะต้องมีความผิดร้ายแรง แต่ถ้าทำแบบนี้ทุกคนที่ทำงานโดยไม่มีความผิดก็มีสิทธิ์โดนประเมินให้เกรด C โดยมิต้องมีความผิดใดๆ เป็นการเอาเปรียบพนักงานจากฝ่ายบริหาร แทนที่ผู้บริหารจะเอาเวลาไปคิดวิธีหารายได้ กลับมาเอาเปรียบพนักงาน แถมยังมีการเปิดรับพนักงานใหม่เรื่อยๆแต่จะมาบีบพนักงานรุ่นเก่า ให้ตายคามือ ไม่รุ้จะด่าเป็นภาษาอะไรดี.... เพื่อนๆพนักงานเราควรจะทำอย่างไรกันดี กับบรรดาผู้บริหารเหล่านี้"
พร้อมโพสต์รูปภาพบริษัท อสมทฯ มีข้อความประกอบว่า "ผู้บริหารมีไว้แก้ปัญหาไม่ใช่มีไว้เพื่อเอาเปรียบ" นอกจากนี้ ยังมีการจัดทำหนังสือคัดค้านแนวทางการปรับขึ้นเงินเดือน ประจำปี 2559 ให้พนักงานร่วมลงชื่อคัดค้านด้วย (ดูรูปประกอบ)
ขณะที่แหล่งข่าวระดับสูงจาก อสมท เปิดเผยสำนักข่าวอิศราว่า ความไม่พอใจมีอยู่จริง เหตุผลหลักน่าจะมาจากระดับผอ.ฝ่ายขึ้นไป ไม่ได้รับการปรับขึ้นเงินเดือน เลยชวนพนักงานทั่วไปคัดค้านมาตราการนี้
"ผอ.ฝ่ายบางส่วนมองว่าไม่แฟร์ที่ไม่ขึ้นเงินเดือน และมองว่าฝ่ายบริหารลดค่าใช้จ่ายเช่นค่ารถประจำตำแหน่งน้อยเกินไป ขณะที่ฝ่ายบริหารมองว่าระดับผอฝ่ายถือเป็นผู้บริหารที่ควรแสดงความเสียสละโดยการไม่ขึ้นเงินเดือน แต่พนักงานทั่วไปเขาน่าจะยอมรับมาตราการนี้ ตอนนี้กำลังปลุกกระแสกันอยู่"แหล่งข่าวระบุ