นักการเมืองใหญ่ใช้คลองด่านบีบคนเข้าพรรค!กิจการร่วมค้าฯ ร้อง'บิ๊กตู่'ขอถอนอายัด
กิจการร่วมค้าNVPSKG ทำหนังสือขอความเป็นธรรม 'บิ๊กตู่' ถูกปปง.อายัดหนี้คดีคลองด่าน 6 พันล้าน เผยตกเป็นเหยื่อการเมืองมากว่า 12 ปี แฉแผนนักการเมืองใหญ่ ใช้โครงการบีบคนเข้าพรรค ตั้งธงสรุปผลสอบโมฆะ!
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.2559 ที่ผ่านมา กลุ่มผู้บริหารกิจการร่วมค้า NVPSKG และบริษัท สมุทรปราการ ออพเปอร์เรทติ้ง จำกัด ได้ทำหนังสือขอความเป็นธรรมกรณีคณะกรรมการธุรกรรม ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) อายัดสิทธิเรียกร้องเงินงวดที่ 2 และ 3 ที่กรมควบคุมมลพิษต้องชำระให้ จากโครงการออกแบบร่วมก่อสร้างระบบรวบรวม และ บำบัดน้ำเสีย เขตควบคุมมลพิษ จ.สมุทรปราการ (คลองด่าน) รวมวงเงินกว่า 6,000 ล้านบาท ถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
โดยระบุว่า กิจการร่วมค้าฯ ไม่ได้ความเป็นธรรมตามกฎหมาย และตกเป็นเหยื่อการเมืองมาตลอดระยะเวลากว่า 12 ปี พร้อมแสดงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับแรงจูงใจทางการเมือง ว่าเป็นผลมาจากการที่นักการเมืองใหญ่รายหนึ่ง ใช้โครงการนี้ เพื่อบีบให้นักการเมืองสองราย ยุบพรรคการเมืองของตนเอง และมาอยู่ภายใต้สังกัดตน
กิจการร่วมค้าฯ ระบุว่า โครงการคลองด่าน เป็นหนึ่งในโครงการของรัฐบาล ซึ่งกลุ่มกิจการร่วมค้าฯ เข้าร่วมประมูลงานดังกล่าวตามปกติ และเป็นผู้ชนะการประมูลงานในปี 2540 และดำเนินการตามสัญญาเรื่อยมาเป็นระยะเวลากว่า 6 ปี จนงานต่างๆเกือบเสร็จตามสัญญา
แต่ปรากฎว่าในวันที่ 28 ก.พ.2546 มีการโยกย้ายตำแหน่งข้าราชการระดับสูงในกรมควบคุมมลพิษ และมีการลงนามในหนังสือกล่าวอ้างว่า สัญญาโครงการนี้เป็นโมฆะ โดยอ้างว่า เป็นเพราะบริษัท นอร์ธเวสต์ วอเตอร์ อินเตอร์เนชั่นแนลจำกัด อดีตสมาชิกกิจการร่วมค้า NVPSKG และ NWWI ได้ถอนตัวออกไปจากกลุ่มกิจการร่วมค้าฯ ดังกล่าว ตั้งแต่ก่อนลงนามในสัญญา
กิจการร่วมค้าฯ ยังได้ระบุว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นการดำเนินการที่ไม่เป็นธรรม มีเจตนาใส่ร้ายกลุ่มกิจการร่วมค้าฯ โดยไม่อยู่บนพื้นฐานความจริง มีสาเหตุมาจากการนักการเมืองใหญ่ในขณะนั้น ต้องการรวบรวมนักการเมืองให้เข้ามาอยู่ในสังกัดพรรคของตนให้มากที่สุด โดยเฉพาะสองนักการเมืองใหญ่ แต่บุคคลทั้งสองไม่ยอมยุบพรรคตามที่นักการเมืองใหญ่รายนั้นต้องการ
กิจการร่วมค้าฯ ยังระบุว่า นักการเมืองใหญ่รายนี้ พยายามยกโครงการนี้ขึ้นมาบีบสองนักการเมืองโดยพยายามสร้างความเชื่อมโยงระหว่างบุคคลทั้งสองกับกลุ่มกิจการร่วมฯ ในเรื่องที่ไม่เป็นความจริง ว่าเป็นโครงการที่เลวร้าย มีการทุจริตเพื่อประโยชน์ทางการเมือง โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายของประเทศ ขณะที่การแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงโครงการนี้ ก็มีการตั้งธงไว้ล่วงหน้าบีบให้ผลสอบโครงการนี้ ออกมาว่าโครงการนี้มีปัญหาทำให้สัญญาโมฆะให้ได้
กิจการร่วมค้าฯ ยังระบุว่า ได้พยายามที่จะชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ ตลอดมา แต่สื่อมวลชนและหน่วยงานต่างๆ ของรัฐ ล้วนอยู่ภายใต้การคอบงำของรัฐบาลนักการเมืองใหญ่ กลุ่มกิจการร่วมค้าฯ จึงจำเป็นต้องขอเป็นธรรมมายังนายกฯ และยินดีให้ข้อมูลเพิ่มเติมหามีข้อสังสัย (ดูหนังสือประกอบ)