ป.ป.ช.ตีกลับ ป.ป.ท.สอบปม‘คณบดี-รองฯ’มรภ.นครสวรรค์ ลอกงานวิจัยรับ 4 หมื่น
ผ่านไป 1 ปี ปม ‘คณบดี-รองฯ’ มรภ.นครสวรรค์ ลอกงานวิจัยรับ 4 หมื่น ไม่คืบ! ป.ป.ช.โยน ป.ป.ท.สอบ อ้างต่ำ ผอ.กองหรือเทียบเท่า ผู้ร้องโวยหากไม่ตามเรื่อง ก็ไม่แจ้งให้ทราบ ข้องใจ ระดับ ‘ผศ.-คณบดี’ใครมีอำนาจสอบ หวั่นไม่เป็นธรรม เตรียมถามความชัดเจนถึงสำนักงานใหญ่
กรณีนางปณิชา ศรีจักร์ อดีตอาจารย์ช่วยราชการอาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ (มรภ.นครสวรรค์) ยื่นเรื่องต่อเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นิตยา ชนินทยุทธวงศ์ และนางสาวเพชรอำไพ สุขารมณ์ ซึ่งดำรงตำแหน่งคณบดีและรองคณบดี คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยเดียวกันลอกงานวิจัยแล้วขอรับเงินสนับสนุนการทำวิจัยของมหาวิทยาลัย จำนวน 40,000 บาท
ขณะเดียวกัน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ปราณี ตปนียวรวงศ์ อาจารย์ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฎนครสวรรค์ ได้ยื่นเรื่องต่อ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดนครสวรรค์ให้ตรวจสอบในเรื่องเดียวกัน ตั้งแต่เดือน ม.ค.2558
(อ่านประกอบ :อาจารย์ มรภ.นครสวรรค์ชงข้อมูลเลขาฯ ป.ป.ช. 4 ข้อคดี‘คณบดี-รองฯ’ลอกงานวิจัย)
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 เม.ย.2559 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดนครสวรรค์ โดยนายประทีป จูฑะศร ผู้อำนวยการ สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดนครสวรรค์ ปฏิบัติราชการแทนเลขาธิการ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ทำหนังสือแจ้งให้ผู้ร้องทราบว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่า การกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐดังกล่าว ซึ่งดำรงตำแหน่งต่ำกว่าผู้อำนวยการกองหรือเทียบเท่า เป็นอำนาจการไต่สวนของ ป.ป.ท. จึงมีส่งเรื่องให้ คณะกรรมการ ป.ป.ท.ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
นางปณิชา ศรีจักร์ เปิดเผยว่า มีความข้องใจใน 2 ประการ
ประการแรก ผู้ถูกร้องเรียนมีตำแหน่งคณบดีและรองคณบดี และมีตำแหน่งทางวิชาการ เป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ อำนาจในการไต่สวนข้อเท็จจริงเป็นขององค์กรใดระหว่าง ป.ป.ช.กับ ป.ป.ท. เพราะก่อนหน้านี้ วันที่ 2 เม.ย.58 ป.ป.ท. มีหนังสือแจ้งว่า ไม่รับไต่สวนข้อเท็จจริง เนื่องจากคณะกรรมการ ป.ป.ท.มีมติเมื่อ 25 มี.ค.58 ว่า เป็นอำนาจของ ป.ป.ช. และได้ส่งเรื่องให้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ดำเนินการแล้ว
ประการสอง นับจากร้องเรียน ป.ป.ช.ใช้เวลาพิจารณากว่า 1 ปี จึงแจ้งมายังผู้ร้องว่าไม่มีอำนาจไต่สวน ทั้งที่เรื่องไม่ได้ซับซ้อน และถ้าผู้ร้องไม่ติดตามทวงถามความคืบหน้า ป.ป.ช.คงไม่แจ้งให้ทราบ
ขณะที่ ผศ. ปราณี ตปนียวรวงศ์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 2 พ.ค.2559 ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้ากรณีดังกล่าวที่ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนครสวรรค์ ได้รับแจ้งทำนองเดียวกันว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติพิจารณาแล้วเป็นอำนาจของ ป.ป.ท. กรณีนี้เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากหน่วยงานตรวจสอบในกระบวนการพิจารณาในเรื่องของเวลา และไม่มีความชัดเจนว่า องค์กรใด มีอำนาจไต่สวน เนื่องจากผู้ถูกร้องมีตำแหน่งคณบดี ซึ่งเป็นตำแหน่งบริหาร ดังนั้น จะยื่นหนังสือถึง เลขาฯ ป.ป.ช.สำนักงานใหญ่ ถ.สนามบินน้ำ เพื่อขอความชัดเจนว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติดังกล่าวหรือไม่อย่างไร
อ่านประกอบ:
อาจารย์ มรภ.นครสวรรค์ชงข้อมูลเลขาฯ ป.ป.ช. 4 ข้อคดี‘คณบดี-รองฯ’ลอกงานวิจัย
เปิด“สารนิพนธ์-งานวิจัย”สอบคณบดี-รองฯ มรภ.นครสวรรค์ ลอกต้นฉบับ รับ 4 หมื่น
ส่งหนังสือ ฉ.3 จี้อธิการฯมรภ.นครสวรรค์เร่งสอบปม‘คณบดี-รองฯ’ลอกวิจัยรับ 4 หมื่น
ป.ป.ท.รับสอบ “คณบดี-รอง” มรภ.นครสวรรค์ลอกงานวิจัยรับ 4 หมื่น
อธิการฯมรภ.นครสวรรค์ตั้งกก.สอบ“คณบดี-รอง”ปมลอกงานวิจัย รับ 4 หมื่น