ไร้ทุจริต! ศอตช.ไม่พบพิรุธการสร้างราชภักดิ์-ยัน'บิ๊กโด่ง'เข้าใจผิดปมหัวคิว
‘พล.อ.ไพบูลย์ ’ ลั่นไม่พบทุจริตการก่อสร้าง ‘อุทยานราชภักดิ์’ ทุกประเด็น ด้าน ‘ป.ป.ท.-สตง.-ป.ป.ช.’ ย้ำไม่พบพิรุธ ปมหักหัวคิวแค่ 'บิ๊กโด่ง' เข้าใจผิด จริง ๆ แค่ค่าที่ปรึกษา ยันงบสร้างรั้วที่เลิกไป โรงเรียนสังกัด ทบ. เป็นคนทำ ด้าน 'จตุพร-เรืองไกร' โผล่ร่วมรับฟัง
เมื่อวันที่ 23 มี.ค. 2559 ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) นำโดย พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ร่วมด้วย นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และนายยงยุทธ มะลิทอง รองเลขาธิเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดแถลงข่าวกรณีการตรวจสอบทุจริตการก่อสร้างโครงการอุทยานราชภักดิ์ โดยมีนายจตุพร พรหมพันธ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย เข้าร่วมฟังด้วย
นายประยงค์ เลขาธิการ ป.ป.ท. กล่าวว่า เท่าที่ตรวจสอบทั้งสองฝ่าย (ฝ่ายแรก เซียนอุ๊ หรือ บริษัทสยามปุระ ฝ่ายที่สอง โรงหล่อพระรูป 5 แห่ง) มีการจ่ายเงินค่าชักชวนให้มาทำงาน 6-7 เปอร์เซ็นต์ของวงเงินจ้างงาน แต่ไม่พบพิรุธ จึงรับฟังได้ว่า เป็นการจ่ายค่าตอบแทนค่าหางานมาให้
ขณะที่ นายพิศิษฐ์ ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กล่าวว่า ตรวจสอบอย่างน้อยใน 5 ประเด็น โดยกรณีเงินบริจาคในบัญชีกองทุนสวัสดิการกองทัพบก ที่เป็นห่วงกันว่ามีการรับจ่ายครบถ้วนถูกต้องหรือไม่ ขอยืนยันว่า เงินอยู่ในธนาคาร เป็นบัญชีที่มีการแยกเงินออกเป็น 2 ส่วน จากส่วนที่มีอยู่เดิมในชื่อบัญชีเดียวกัน ไม่ปะปนกับเงินสวัสดิการ โดยตรวจสอบทั้งสิ้น 6 ธนาคาร รวมถึง การรับบริจาคทางด้านอื่น ๆ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ตามหลักฐานที่มีเชื่อได้ว่าเงินที่ได้รับทั้งหมดมีการลงรับเข้าบัญชีอย่างถูกต้องครบถ้วน และแม้ยังไม่มีใครขอใบเสร็จรับเงิน แต่ทางกองทัพบกได้มีการเตรียมใบเสร็จไว้ตามรายการที่มีการนำเงินฝากทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันกองทัพมีการปิดบัญชีเหลือเพียงบัญชีเดียวแล้ว
นายพิศิษฐ์ กล่าวอีกว่า ตัวเลขทั้งหมดมีการรับผ่านบัญชีเป็นจังหวะเวลาที่มีปัญหา ได้ตัวเลขทั้งหมด 733 ล้านบาท รวมดอกเบี้ย โดยพบว่ามีการเบิกจ่ายไปแล้ว 458 ล้านบาท โดยมีทั้งค่าองค์พระกว่า 318 ล้านบาท และค่าจัดทำเหรียญ 105 ล้านบาท ซึ่งมียอดเงินคงเหลือ 140 ล้านบาทเศษ ยืนยันว่ามีหลักฐานสามารถตรวจสอบได้ ส่วนงบประมาณกลางอีก 63 ล้านบาท ที่ทางโครงการก่อสร้างอุทยาน ส่วนอีก 9 ล้านบาท ยังไม่ได้มีการนำไปใช้ อีกทั้งยังผูกพันกับงบประมาณกลาง ส่วนเงินของกองทัพบกที่นำมาใช้ทำรั้วในพื้นที่อุทยานทั้งหมด 27 ล้านบาท ซึ่งในวงเงิน 63 ล้านบาท มี 5 โครงการ โดยทำไปแล้ว 4 โครงการ และได้ชะลอไว้ 1 โครงการ
"นอกจากนั้นยังมีผู้บริจาคเป็นสิ่งของ เช่น วัสดุก่อสร้าง ซึ่งทางกองทัพก็ได้เบิกเงินในส่วนนี้มาใช้เป็นค่าแรง ค่าน้ำมัน และค่าเครื่องจักร ซึ่งเป็นรายได้ที่มาจากผู้มีจิตศรัทธา ส่วนกรณีที่มีการระบุว่ามีการซื้อต้นไม้ในราคาที่แพงเกินจริง ซึ่งจากการตรวจสอบก็ไม่พบ เป็นแต่เพียงต้นไม้ที่ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคมา มีการคิดเพียงแค่ค่าแรงกับค่าน้ำมัน เป็นเงิน 4 ล้านบาท ส่วนการโยกย้ายต้นไม้เข้ามาปลูกยังพื้นที่ของอุทยาน ทางผู้บริจาคเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด และก็มีการนำต้นไม้ไปขาย เพื่อจะได้หารายได้เพิ่มเติม" นายพิศิษฐ์ กล่าว
นายพิศิษฐ์ กล่าวด้วยว่า ได้ตรวจสอบในข้อเท็จจริงและการจัดซื้อจัดจ้างถูกต้องหรือไม่ โดย 2 สัญญา ไม่พบว่ามีการกระทำผิดระเบียบราชการ และเนื้องานหรือเนื้อโลหะอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ 95 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป เนื่องจากเป็นไปไม่ได้ที่จะสมบูรณ์ถึง 100 เปอร์เซ็นต์ ที่จะต้องมีผิวขรุขระบ้าง จึงไม่มีข้อสังเกตอะไรในประเด็นนี้ ส่วนวัสดุจากตัวองค์พระ ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นการนำเข้าจากต่างประเทศทั้งหมด รวมถึงมีเอกสารการนำเข้าอย่างถูกต้อง และราคากลางก็ยังเป็นไปตามท้องตลาดด้วย
"การหักค่าหัวคิวทั้งจากหลักฐานทางการเงินและสอบปากคำของ 5 โรงหล่อ ที่มีค่าใช้จ่ายเป็นค่าที่ปรึกษา เพื่อให้ได้งานนั้น ซึ่งข้อเท็จจริงตรงกันว่า มีการจ่ายค่าจ้างให้กับเซียนอุ๊ 7 เปอร์เซ็นต์ ในฐานะที่ปรึกษา และจากการตรวจสอบประวัติของเซียนอุ๊ นายวัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ หรืออุ๊กรุงสยาม ทราบว่าเป็นคนมีฐานะทางสังคมและเป็นที่ปรึกษาทั้ง 5 โรงหล่อ ซึ่งเซียนอุ๊ มีกิจการโรงหล่อของตัวเอง โดยผลงานที่ผ่านมา มีการสร้าง หลวงปู่ทวด ขนาดหน้าตักกว้าง 24 เมตร บนถนนสายเอเชีย จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งได้เงินจากการเป็นที่ปรึกษาของ 5 โรงหล่อ เป็นเงิน 20 ล้านบาท" นายพิศิษฐ์ กล่าว และว่า การที่เซียนอุ๊เข้ามาเป็นที่ปรึกษาในโครงการนี้ จากงบประมาณในการสร้างองค์พระ 70 ล้านบาท เหลือเพียงองค์ละประมาณ 45 ล้านบาท ซึ่งในทางราชการหมายถึงราชการได้รับประโยชน์จากส่วนนี้ หลังจากนั้นเซียนอุ๊ได้นำเงิน 20 ล้านบาท มาบริจาคให้มูลนิธิอุทยานราชภักดิ์ในพระราชูปถัมภ์ฯ ในนาม 5 โรงหล่อ ซึ่งมีเอกสารการออกใบเสร็จว่าเซียนอุ๊ได้มาบริจาคจริง ซึ่งการที่ 5 โรงหล่อให้ค่าที่ปรึกษาให้เซียนอุ๊เป็นเรื่องระหว่างเอกชนกับเอกชนยินยอมในการให้ค่าที่ปรึกษาและค่าแนะนำงานมาให้
เมื่อถามว่า เช็ค 5 ใบ จำนวน 20 ล้านบาท ที่เซียนอุ๊นำมาบริจาค ถูกจ่ายออกจากบริษัทสยามปุระ วันที่เท่าไหร่ เนื่องจาก มีข้อมูลระบุว่า เซียนอุ๊ ออกจากการถือหุ้นบริษัท เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2558
ผู้ว่า สตง. กล่าวว่า เช็คที่ออกมา เป็นเงินก่อนที่จะมีการเบิกจ่ายเงินกองทุน ฯ เพื่อมาจ่ายชำระค่าองค์พระ ฯ เพราะฉะนั้นยืนยันว่า เท่าที่ตรวจสอบหลักฐาน พบว่า มีค่าใช้จ่ายจาก 5 บริษัทที่จ่ายให้กับเซียนอุ๊ หลักจากนั้น เซียนอุ๊ก็ไปเอาเงินจากบริษัทนี้ ส่วนเซียนอุ๊จะอยู่ในฐานะอะไรในบริษัท สยามปุระ จำกัด ก็แล้วแต่ แต่ตามหลักฐานเช็คยืนยันว่า เซียนอุ๊มีส่วนเกี่ยวข้องในการออกเช็คครั้งนี้ในนามของบริษัท สยามปุระ จำกัด เพื่อไปจ่ายเงิน และเงินนั้นมาจากบัญชีของบริษัท สยามปุระ จำกัด จริง ซึ่งบริจาคมาก่อนที่จะมีการจ่ายเงินค่าองค์พระด้วย จึงยืนยันได้ว่า ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องของเงินบริจาคที่มาจัดตั้งองค์พระฯ แต่ถือว่าเป็นค่าใช้จ่าย และเป็นรายได้ที่เกิดขึ้นของทั้งสองฝ่าย ไม่ว่า 5 โรงหล่อ หรือเซียนอุ๊ ก่อนที่จะมีการจ่ายเงินค่าองค์พระจากเงินที่ประชาชนบริจาค
เมื่อถามว่า กรณีที่กองทัพบกยกเลิกการประกาศเชิญชวนประกวดราคาด้วยวิธีพิเศษ งานก่อสร้างรั้วอุทยานราชภักดิ์ โดยไม่ระบุเหตุผล ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
นายพิศิษฐ์ กล่าวว่า โครงการนี้มีมูลค่าประมาณ 9.4 ล้านบาท ยังอยู่ในขั้นตอนอยู่ ยังไม่มีข้อเท็จจริงอย่างที่ตั้งประเด็นมา ส่วนที่ก่อนหน้านั้นเรื่องการสร้างรั้ว น่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิด เพราะว่าในส่วน 2 สัญญาแรกที่จ่าย เป็นเงินจากโรงเรียนที่อยู่ในหน่วยงานสังกัดกองทัพบก มีการตรวจสอบแล้ว ก็มีเนื้องานเป็นไปตามที่มีการทำสัญญากันไว้ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ ถ้าไม่ใช่เรื่องเข้าใจผิดก็เป็นเรื่องประเด็นใหม่
“จริง ๆ แล้ว เราสามารถดูได้จากสถานที่อยู่แล้ว ว่าเนื้องานในขณะนี้มีหรือไม่ เพราะว่าการก่อสร้างมีทั้งบริจาคเป็นเนื้อวัสดุ และใช้แรงงานของกองทัพเป็นผู้ดำเนินการ อาจจะทำให้เราเข้าใจว่างานส่วนนี้เป็นงานจ้างที่ทำไป แต่ข้อเท็จจริงที่เราตรวจพบ คือ การบริจาควัสดุและใช้แรงงานคือ เจ้าหน้าที่ของเหล่าทัพที่มีความรู้เรื่องช่างในด้านโยธาเข้าไปดำเนินการ ก็อาจทำให้เข้าใจเป็นอย่างนั้นได้” นายพิศิษฐ์ กล่าว
หลังจากนั้น นายจตุพรได้ลุกขึ้นยืนถามผู้ว่าฯ สตง. ว่า กรณีที่แถลงข่าวครั้งนี้ เป็นการทำข้อสอบรั่วหรือไม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ พล.อ.อุดมเดชออกมาระบุว่า ไม่พบการทุจริต ต่อมาผู้ว่าฯ สตง.ออกมาการันตีว่าไม่มีการทุจริต ประเด็นต่อมาคำว่าที่ปรึกษาเกิดขึ้นหลังจากมีประเด็นค่าหัวคิวใช่หรือไม่ อีกประเด็นหนึ่งเซียนอุ๊เป็นนายก อบต. ซึ่งก็คือเจ้าหน้าที่รัฐ ดังนั้นการรับเงินถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย
ผู้ว่าฯ สตง.ชี้แจงว่า ที่ผ่านมาให้สัมภาษณ์เป็นการชี้แจงสื่อมวลชน เพราะตนมีหน้าที่ตอบคำถาม และได้ไปพบ พล.อ.อุดมเดช ไม่ได้ไปรายงาน แต่ไปหาข้อมูลให้ครบถ้วน แต่สังคมจะเข้าใจยังไงก็แล้วแต่
ด้าน พล.อ.ไพบูลย์เสริมว่า ประเด็นนี้ พล.อ.อุดมเดชยืนยันมาตลอดว่าไม่ผิด และเคยต่อว่าตนด้วยซ้ำ ดังนั้นจึงไม่เข้าใจว่าคำถามของนายจตุพรว่าต้องการสื่ออะไร จากข้อสรุปที่ไปสอบถาม พล.อ.อุดมเดช มีการยอมรับว่าพลาด พูดออกไปเพราะไม่เข้าใจ จึงใช้คำว่าหัวคิว ตนไม่พูดกับท่านมานานมาก จนการตรวจสอบจบลงจึงไปเรียนให้ทราบว่า ป.ป.ท.ก็ไปสอบถามท่าน เพราะท่านเป็นคนพูดคำนี้ออกมา ที่ท่านพูดว่าหัวคิว มันผิด เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าไม่มีเจตนา แต่เกิดจากผู้สื่อข่าวซักถามและมีการตอบคำถามกันไปมา จึงหลุดคำว่าหัวคิวออกไป โดยไม่เข้าใจเนื้อหาและวิธีการ ส่วนเรื่องเซียนอุ๊ที่เป็นข้าราชการก็ส่งให้ ป.ป.ท.ตรวจสอบไป
ยัง
ทั้งนี้ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา สรุปผลการประชุมว่า จากผลสอบยังไม่พบว่ามีการทุจริตในโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ แต่อย่างใด ยืนยันว่า ได้ตรวจสอบตามขอบเขตอำนาจหน้าทืที่ได้รับแล้ว ต่อไปจะส่งเรื่องดังกล่าวให้ทาง ป.ป.ช. ดำเนินการตรวจสอบต่อไป โดยนายยงยุทธ รองเลขาธิการ ป.ป.ช. ระบุว่า ใครที่มีข้อมูลเพิ่มเติมขอให้นำส่งให้กับทาง ป.ป.ช.
อ่านประกอบ :
มีประเด็นใหม่! ป.ป.ช.สั่งสอบเพิ่มปมราชภักดิ์-รวมข้อมูลกล่าวหา‘บิ๊กโด่ง’
‘วีระ’ยื่น ป.ป.ช.สอบ‘อุดมเดช-ศิริชัย’ ปมก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์
ป.ป.ช.ค้านศาล ปค.! ยันมีอำนาจฟันผิดฐานทำราชการเสียหาย-ชงศาล รธน.ชี้ขาด
ป.ป.ช.ถกปมศาล ปค.ชี้ไร้อำนาจฟันผิดคนทำราชการเสียหาย-ประพฤติชั่วร้ายแรง
เจาะถุงเงิน! ‘บ.สยามปุระ’เอาจากไหนจ่ายเช็ค 20 ล.บริจาคสร้าง‘ราชภักดิ์’
หุ้น‘เซียนอุ๊’หายจาก บ.สยามปุระฯช่วงเกิดเรื่องราชภักดิ์-นักธุรกิจโผล่ถือแทน
เทียบจุดตาย! ‘ราชภักดิ์-อผศ.ขุดคลอง’ วัดใจ‘รบ.บิ๊กตู่’สางปัญหาใต้พรม?
สตง.ชงศอตช.ชี้ขาดผลสอบราชภักดิ์ ลั่นพร้อมให้สื่อซักถาม-โชว์เช็คเซียนพระ
ตีเช็ค5ใบ20ล. บริจาคแทนโรงหล่อ!เซียนพระอุ๊ โผล่แจงสตง.ไร้หัวคิวราชภักดิ์
ทหารตามเงินได้แล้ว แต่ไม่มีใครเอาคืน! โรงหล่อแจงยิบปมจ่ายเงิน 'เซียนพระ'
แกะรอย 'อุ๊ กรุงสยาม' เซียนพระคดีอุทยานราชภักดิ์ ถูกทหารเชิญตัวให้ปากคำจริงหรือ?
ขมวดปมหัวคิวโรงหล่อ! สรุป 'เซียนพระอุ๊' มีเอี่ยวจริงหรือ? หาตัวมาแถลงชัดๆได้ไหม?
เปิดตัว2เอกชนใหม่ สร้างตึก รปภ.-ป้ายราชภักดิ์!คู่สัญญาร.ร.นายร้อยฯ 216 ล.
เบ็ดเสร็จคว้า2 สัญญา 46 ล.! ผู้รับเหมาจ.นนท์ ยันทำงานอุทยานราชภักดิ์เพื่อชาติ-ไร้หัวคิว
ทบ.ยกเลิกประกวดราคาสร้างรั้ว‘ราชภักดิ์’วิธีพิเศษ 9.3 ล.ทั้งที่ทำเสร็จแล้ว
ย้อนข้อมูล ทบ.ประกาศจ้างสร้างรั้ว 'ราชภักดิ์'ยกเลิกหลังทำเสร็จ-ใครสร้าง?
ทบ.เฉย! ‘อิศรา’ร้องเรียน กก.ข่าวสารฯขอให้เปิดเผยข้อมูลสร้างราชภักดิ์