'บิ๊กตู'ใช้ ม.44 หน่วยงานรัฐชง ครม.อนุมัติโครงการเร่งด่วน ไม่ต้องรอผลอีไอเอ
'บิ๊กตู่'ใช้ ม.44 ให้สิทธิหน่วยงานรัฐชง ครม.อนุมัติโครงการเร่งด่วน ระบบขนส่ง ชลประทาน ไม่ต้องรอ รายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม แต่จะลงนามผูกพันในสัญญา ให้สิทธิเอกชนผู้รับดําเนินการไม่ได้
ราชกิจจานุเบกษา 8 มี.ค.59 เผยแพร่ คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 9/2559 เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ระบุว่า
โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เพื่อให้การดําเนินโครงการหรือกิจการของรัฐในการจัดให้มีสาธารณูปโภคอันจําเป็นต่อการดํารงชีวิตของประชาชน หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะสามารถดําเนินการได้โดยรวดเร็ว อันจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิรูปประเทศ ในด้านเศรษฐกิจและสังคม อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคําสั่ง ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นวรรคสี่ ของมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริม และรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 “ในกรณีที่มีความจําเป็นเร่งด่วนเพื่อประโยชน์ในการดําเนินโครงการหรือกิจการด้านการคมนาคมขนส่ง การชลประทาน การป้องกันสาธารณภัย โรงพยาบาล หรือที่อยู่อาศัย ในระหว่างที่รอผลการพิจารณา รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมตามวรรคหนึ่ง ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโครงการหรือกิจการนั้น อาจเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติให้ดําเนินการ เพื่อให้ได้มาซึ่งเอกชนผู้รับดําเนินการตามโครงการหรือกิจการไปพลางก่อนได้ แต่จะลงนามผูกพันในสัญญา หรือให้สิทธิกับเอกชนผู้รับดําเนินการตามโครงการหรือกิจการไม่ได้”
ข้อ 2 คําสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
สั่ง ณ วันที่ 7 มีนาคม พุทธศักราช 2559 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2559/E/059/46.PDF
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระราชบัญญัติส่งเสริม และรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535
มาตรา 47 ระบุว่า
ในกรณีที่โครงการหรือกิจการซึ่งต้องจัดทํารายงานการวิเครืหผลกระทบสิ่งแวดล้อมตาม มาตรา 46 เป็นโครงการหรือกิจการของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจหรือโครงการร่วมกับเอกชน ซึ่งต้องเสนอ ขอรับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีตามระเบียบปฏิบัติของทางราชการ ให้ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโครงการหรือกิจการนนั้น จัดทํารายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ในระยะ ทําการศึกษาความเหมาะสมของโครงการเสนอต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเพื่อเสนอขอความเห็น ประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี
ในการพิจารณาให้ความเห็นชอบรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบ สิ่งแวด ล้อมที่เสนอตามวรรคหนึ่ง คณะรัฐมนตรีอาจขอให้บุคคลหรือสถาบันใด ซึ่งเป็นผู้ชํานาญการหรือเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการวิเคราะห์ ผลกระทบสิ่งแวดล้อมทําการศึกษาและเสนอความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาด้วยก็ได้ สําหรับโครงการหรือกิจการของส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจตามมาตรา ๔๖ ซึ่งไม่จําต้องเสนอขอรับความ เห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีตามวรรคหนึ่ง ให้ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโครงการ หรือ กิจการนั้น จัดทํารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมเพื่อเสนอขอความเห็นชอบ ก่อนที่จะดำเนินการ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กําหนดไว้ในมาตรา 48 และมาตรา 49
หมายเหตุ : ภาพประกอบนายประยุทธ์จาก factoryeasy.com