ให้ทำต่อราชการเสียหาย!สตง.ชง 'กอบกาญจน์' ทบทวนสร้างส.กีฬาอำเภอ 945 ล.
สตง.ชง 'กอบกาญจน์' รมว.ท่องเที่ยวฯ ทบทวนโครงการสร้างส.กีฬาอำเภอ ปี 58-59 วงเงิน 945 ล้าน ระบุชัดให้กรมพลศึกษาดำเนินการต่อราชการเสียหาย-เสียประโยชน์! เผยงานเก่าปัญหาเพียบ ยังไม่ส่งมอบงานชำรุดแล้ว
แหล่งข่าวจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า เมื่อวันที่ 27 ต.ค.2558 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ทำหนังสือถึง นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อขอให้พิจารณาทบทวนโครงการก่อสร้างสนามกีฬาอำเภอและตำบล ปีงบประมาณ 2558 - 2559
ระบุว่า สตง. ได้ตรวจสอบโครงการก่อสร้างสนามกีฬาอำเภอและตำบล ปี 2556 วงเงิน 1,080 ล้านบาท พบว่าผู้รับจ้างไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามระยะเวลาที่กำหนดในสัญญา สาเหตุเกิดจากความไม่พร้อมในการจัดหาสถานที่ก่อสร้างของกรมพลศึกษา ทำให้ไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างให้กับผู้รับจ้างได้ และมีการขยายระยะเวลาให้กับผู้รับจ้าง
นอกจากนี้ ยังพบว่า การก่อสร้างไม่เป็นไปตามแบบรูปรายการตามที่กำหนดไว้ในสัญญา และการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐานโดยงานก่อสร้างแล้วเสร็จ แต่ยังไม่ได้ส่งมอบให้กับเจ้าของพื้นที่ก็พบความชำรุดเสียหายแล้ว อีกทั้งการก่อสร้างสนามกีฬาบางแห่งมีการก่อสร้างทับซ้อนในพื้นที่ของสนามกีฬาเดิมซึ่งยังอยู่ในสภาพดี หรือบางแห่งก่อสร้างซ้ำซ้อนกับสนามกีฬาในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง
สตง.พิจารณาแล้วเห็นว่าโครงการก่อสร้างสนามกีฬาอำเภอ ที่จะดำเนินการในปีงบประมาณ 2558 จำนวน 5 แห่ง วงเงิน 122,500,000 บาท และปีงบประมาณ 2559 จำนวน 18 แห่ง วงเงิน 822,600,000 บาท (วงเงินรวม 945,100,000 บาท) หากกรมพลศึกษาดำเนินการต่อไปอาจทำให้ราชการเกิดความเสียหายและเสียประโยชน์ จึงได้แจ้งให้กรมพลศึกษาพิจารณาทบทวนโครงการใหม่
"สตง.พิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อให้การใช้จ่ายเงินงบประมาณแผ่นดิน เป็นไปโดยประหยัด ได้ผลตามเป้าหมาย มีผลคุ้มค่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์และเกิดประโยชน์สูงสุด และเพื่อป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้น ตลอดจนให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด จึงขอให้ท่านในฐานะผู้กำกับดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้พิจารณาติดตามควบคุมการดำเนินการของกรมพลศึกษาตามอำนาจหน้าที่ ผลเป็นประการใดโปรดแจ้งให้สตง.ทราบเพื่อประกอบการตรวจสอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2542 ด้วย" สตง.ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกเหนือจากหนังสือที่ส่งถึง รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวฯ แล้ว สตง.ยังทำหนังสืออีก 2 ฉบับแจ้งไปถึง ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ และอธิบดีกรมพลศึกษา เพื่อแจ้งให้รับทราบถึงความเห็นเรื่องเดียวกันด้วย
(อ่านประกอบ: โชว์หนังสือ3ฉบับ!สตง.ชง 'กอบกาญจน์-ปลัด-อธิบดี'ทบทวนงส.กีฬาอำเภอ 945 ล.)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบัน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) อยู่ระหว่างส่งเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ติดตามตรวจสอบข้อมูลโครงการก่อสร้างสนามกีฬาอำเภอ-ตำบล ของกรมพลศึกษาทั่วประเทศ รวมวงเงินกว่า 2.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งหลังจากการทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค.2557 โครงการที่ได้ถูกสั่งชะลอไปบางส่วน
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า งานก่อสร้างสนามกีฬาที่ดำเนินการไปแล้ว ในช่วงปี 2556-2557 แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ 1.ส่วนที่มีการก่อสร้างเสร็จแล้ว พบว่ามีหลายแห่งชำรุดเสียหายต้องเร่งทำการซ่อมแซม 2.ส่วนที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง และ 3. ยังไม่ได้เริ่มก่อสร้าง
นอกจากการตรวจสอบการปฏิบัติงานตามสัญญาจ้างดังกล่าวแล้ว ป.ป.ท.จะเข้าไปตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกบริษัทเอกชนบางราย ที่เข้ามารับงานก่อสร้างโครงการนี้จำนวนมากในหลายพื้นที่ด้วย ซึ่งรูปแบบคล้ายกับที่เกิดขึ้นโครงการการจัดซื้อครุภัณฑ์เล่นนันทนาการและออกกำลังกายกลางแจ้งของกรมการท่องเที่ยว ที่ตรวจสอบพบว่ามีการทุจริตเกิดขึ้น ซึ่งในการตรวจสอบมีการนำข้อมูลข่าวที่สำนักข่าวอิศราเคยตรวจสอบพบมาใช้ขยายผลด้วย
(อ่านประกอบ : กลิ่นเดียวทุจริตซื้อเครื่องเล่นฯ ป.ป.ท.ลุยสอบสนามกีฬาอำเภอ-ตำบล 2.9 หมื่นล. เปิด 14 โครงการก่อสร้างสนามกีฬา กรมพลฯ 1.5 พันล. - 3 บริษัทกวาดอื้อ!)
อนึ่ง โครงการก่อสร้างสนามกีฬาจังหวัด อำเภอ และตำบล ใช้วงเงินงบประมาณกว่า 34,950 ล้านบาท ระหว่างปี 2555-2559 การกีฬาแห่งประเทศไทย รับผิดชอบการก่อสร้างสนามกีฬาจังหวัด ให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี และกรมพลศึกษารับผิดชอบการก่อสร้างสนามกีฬาอำเภอและตำบล ให้เสร็จแล้วภายใน 5 ปี เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปีงบประมาณ 2555 ซึ่งกรมพลศึกษาได้ประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่ามีอำเภอที่ยังไม่มีสนามกีฬาจำนวน 690 อำเภอ ใช้งบฯสร้าง 16,560 ล้านบาท มีตำบลที่ยังไม่มีสนามกีฬา 1,114 ตำบล ใช้งบฯสร้าง 29,928 ล้านบาท รวม 1,804 สนาม