ปธ.อีสท์วอเตอร์ รับสัญญาซื้อน้ำเอกชน 5 พันล.ผูกขาดจริง! สั่งสอบผลงานบอร์ดเก่าแล้ว
"วิทยา ฉายสุวรรณ"ปธ.อีสท์วอเตอร์ ยอมรับ "อิศรา" สัญญาซื้อขายน้ำกับบ.ชลกิจสากล มีลักษณะผูกขาด 40 ปี จริง ลั่น "ใครเขาทำกันบ้าง" แต่ยกเลิกเลยไม่ได้ ฟ้องศาลมีสิทธิแพ้สูง สั่งเจรจาปรับลดระยะเวลาลงแล้ว เหลือ 30 ปี ประหยัดเงินเพิ่มพันล้าน ลุยสอบข้อมูลเชิงลึกผลงาน "บอร์ดเก่า" แล้ว
กรณีสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำเสนอข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการทำสัญญาซื้อขายน้ำดิบ ระหว่าง "บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน)" หรือ อีสท์วอเตอร์ กับ "บริษัท ชลกิจสากล จำกัด" ที่มีลักษณะผูกขาดให้อีสท์วอเตอร์ ต้องซื้อน้ำจาก บริษัท ชลกิจสากล จำกัด เป็นระยะเวลายาวนานกว่า 40 ปีเต็ม และในระหว่างอายุสัญญาจะมีการปรับราคาน้ำเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 10 ของทุกๆ 5 ปี ด้วย ส่งผลทำให้บริษัท ชลกิจสากลฯ ได้รับผลตอบแทนเป็นจำนวนเงินสูงถึง 5 พันล้านบาท นั้น
(อ่านประกอบ : ตะลึง!'อีสท์วอเตอร์'ซื้อน้ำดิบเอกชนรายเดียว 5 พันล. ผูกขาด 40 ปี ยุค'ผู้พันปุ่น')
เมื่อวันที่ 20 ก.ค.58 ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยังนายวิทยา ฉายสุวรรณ ประธานคณะกรรมการบริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน)" หรือ อีสท์วอเตอร์ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสัญญาซื้อขายน้ำดิบฉบับนี้ ได้รับการยืนยันจาก นายวิทยา ว่า บอร์ดอีสท์วอเตอร์ ชุดปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้เช่นกัน
"สัญญาฉบับนี้ เกิดขึ้นในการบริหารของบอร์ดชุดเก่า ซึ่งหลังจากที่บอร์ดชุดใหม่เข้ามาบริหารงาน เมื่อได้รับแจ้งข้อมูลเรื่องนี้ ก็รู้สึกประหลาดใจ ว่าเป็นไปได้อย่างไร ที่จะมีการทำสัญญาเพื่อซื้อน้ำกับบริษัทเอกชนรายเดียวยาวนานถึง 40 ปี แบบนี้ และในช่วงระยะเวลาสัญญา ยังต้องมีการปรับเพิ่มราคารับซื้อน้ำแบบขั้นบันไดไว้อีก ทางบอร์ด จึงได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้"
นายวิทยา กล่าวต่อว่า ล่าสุดในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางคณะกรรมการสอบสวนได้มีการชงเรื่องเสนอให้ที่ประชุมรับทราบ พบว่า สัญญาที่ทำไว้ดำเนินการตามระเบียบขั้นตอน หากอีสท์วอเตอร์ ไปสั่งยกเลิกสัญญาโดยทันที อาจจะถูกฟ้องร้องจากทางบริษัทเอกชนได้ และมีสิทธิแพ้คดีสูง
"พูดกันตามตรง หลังจากที่เห็นสัญญาฉบับนี้ เราคิดว่ามันผิดปกติมาก ที่อีสท์วอเตอร์ ต้องไปผูกขาดซื้อน้ำจากเอกชนรายเดียวถึง 40 ปี มันมีที่ไหน ใครเขาทำกันบ้าง แถมวงเงินที่ต้องจ่ายไปก็มีมูลค่าหลายพันล้าน เราอยากจะยกเลิก แต่ถ้าไปยกเลิกเลย มันก็ไม่ได้ เนื่องจากสัญญาที่ทำไว้เป็นไปตามระเบียบ เขาผูกไว้ดีมาก ถ้าไปยกเลิกเลยสู้กัน 3 ศาล เรามีสิทธิแพ้ได้ และที่สำคัญช่วงนี้ ปัญหาภัยแล้งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงมาก เราจำเป็นต้องใช้น้ำด้วย มันเป็นเงื่อนไขที่บังคับทำให้เรายังยกเลิกสัญญาไม่ได้
นายวิทยา กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม วิธีการแก้ไขปัญหานี้ ที่ทางบอร์ดตัดสินใจไป คือ การใช้วิธีการเจรจากำหนดข้อตกลงในสัญญาใหม่แทน โดยขอปรับลดระยะเวลาในสัญญาลง จาก 40 ปี เหลือ 30 ปี แทน แบ่งออกเป็น 3 ช่วงเวลา ช่วงแรก 10 ปี ช่วงสอง 10 ปี และช่วงสาม อีก 10 ปี โดยในทุกช่วงเวลา เมื่อสิ้นสุด และจะเริ่มต้นช่วงเวลาใหม่ หากบริษัทเอกชนไม่สามารถส่งน้ำได้ครบถ้วนตามสัญญา และคุณภาพน้ำไม่ดี สัญญาการซื้อขายน้ำก็จะถูกยกเลิกทันที ซึ่งการแก้ไขปัญหาลักษณะนี้ ทำให้ อีสท์วอเตอร์ ไม่มีปัญหาเรื่องการขาดแคลนน้ำ และช่วยให้ประหยัดงบประมาณลงมาได้เป็นจำนวนเงินพันล้านบาท จากเดิมที่ต้องใช้เงินถึง 5 ล้านบาท
เมื่อถามว่า ทำไมอีสท์วอเตอร์ ต้องทำสัญญาซื้อขายน้ำกับ บริษัท ชลกิจสากล จำกัด นายวิทยา ตอบว่า "การซื้อน้ำจากเอกชน เป็นหนึ่งในภารกิจของอีสท์วอเตอร์อยู่แล้ว เพราะน้ำในส่วนที่เราได้จากกรมชลประทาน มีโควต้ากำหนดอยู่ ไม่เพียงพอต่อการใช้งาน ส่วนทำไมต้องเป็นบริษัท ชลกิจสากล จำกัด และขั้นตอนการคัดเลือกเป็นอย่างไรนั้น ทางบอร์ดได้สั่งการให้มีการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกเรื่องนี้อยู่ แต่ผมยังไม่ขอพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะอยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบ" ประธานอีสท์วอเตอร์ ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ติดต่อไปยัง บริษัท ชลกิจสากล จำกัด ตามเบอร์โทรศัพท์ที่แจ้งไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า คือ 02-697-99XX เพื่อขอสัมภาษณ์ผู้บริหารบริษัทฯ เกี่ยวกับข้อเท็จจริงเรื่องการทำสัญญาซื้อขายน้ำกับอีสท์วอเตอร์ แต่ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่า ผู้บริหารไม่อยู่ และขอให้ฝากเรื่องไว้ จะติดต่อกลับมาอีกครั้ง
(กดคลิกติดตามข่าวสาร ได้ใน แฟนเพจ "I love isranews ")