- Home
- Isranews
- ข่าว
- สะพัด! ดิเรกฤทธิ์ ไขก๊อกเก้าอี้เลขาฯศาลปกครอง ชงเรื่องเข้าที่ประชุม ก.ศป. 15 ก.ค.นี้
สะพัด! ดิเรกฤทธิ์ ไขก๊อกเก้าอี้เลขาฯศาลปกครอง ชงเรื่องเข้าที่ประชุม ก.ศป. 15 ก.ค.นี้
สะพัด! "ดิเรกฤทธิ์" ไขก๊อกเก้าอี้เลขาฯศาลปกครอง เผยยื่นหนังสือให้ "ปิยะ ปะตังทา" รักษาการปธ.ศาลฯ รับทราบเป็นทางการแล้ว มีผลสิ้นเดือน ก.ย.นี้ เตรียมชงเรื่องเสนอเข้าที่ประชุม ก.ศป. พิจารณา 15 ก.ค.นี้
แหล่งข่าวจากสำนักงานศาลปกครอง เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ขณะนี้ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในศาลปกครองต่อกรณีนายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง ได้ยื่นหนังสือขอลาออกจากตำแหน่ง เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง ต่อ นายปิยะ ปะตังทา รองประธานศาลปกครอง รักษาการตำแหน่งประธานศาลปกครองสูงสุด โดยให้มีผลในสิ้นเดือนกันยายน 2558 นี้
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ได้สอบถามข้อเท็จจริงจากแหล่งข่าวระดับสูงในศาลปกครองหลายราย ได้รับการยืนยันข้อมูลตรงกันว่า ในการประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง (ก.ศป.) ช่วงบ่ายวันที่ 15 ก.ค.58 นี้ นายปิยะ จะแจ้งเรื่องดังกล่าวให้ที่ประชุม ก.ศป.รับทราบ จากนั้นตามขั้นตอนจะมีการส่งเรื่องให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) เสนอเรื่องขอพระราชทานกราบบังคมทูลให้พ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากนายดิเรกฤทธิ์ เป็นผู้บริหารระดับสูงต้องได้รับการโปรดเกล้าให้พ้นจากตำแหน่ง แม้จะเป็นการลาออกก็ตาม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายดิเรกฤทธิ์ ได้ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีอ้างคำสั่งประธานศาลปกครอง ทำหนังสือไปยังรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจรายหนึ่ง โดยคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เห็นว่าการกระทำของเลขาธิการสำนักงานศาลปกครองเป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามตามจริยธรรมข้าราชการฝ่ายศาลปกครอง โดยมีมูลอันควรกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัย
ในขณะที่ในการได้เผยแพร่ผลการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว ของสำนักงานศาลปกครอง มีการระบุว่า คณะกรรมการสอบสอนข้อเท็จจริง เห็นว่า การกระทำของเลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง เป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามตามจริยธรรมข้าราชการฝ่ายศาลปกครอง โดยมีมูลอันควรกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรง และการกระทำดังกล่าวยังไม่อาจรับฟังได้ว่า ได้รับมอบหมายหรือรู้เห็นเป็นใจจากประธานศาลปกครองสูงสุด
และมีการอ้างความเห็นของ นายวิชัย ชื่นชมพูนุท รองประธานศาลปกครองสูงสุด ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานศาลปกครองสูงสุด ระบุว่าได้พิจารณารายงานการสืบสวนข้อเท็จจริงแล้ว เห็นว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรง เห็นควรลงโทษภาคทัณฑ์ แต่เนื่องจากนายดิเรกฤทธิ์ ได้ถูกพักงานแล้วเป็นเวลา 2 เดือน และไม่ปรากฏความเสียหายในรูปธรรมที่สำนักงานศาลปกครอง และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้งดโทษภาคทัณฑ์และให้ว่ากล่าวตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร โดยให้นายดิเรกฤทธิ์ พึงระมัดระวังในการรักษาชื่อเสียง ภาพลักษณ์ และเกียรติภูมิของสำนักงานศาลปกครอง และศาลปกครอง รวมทั้งรักษาชื่อเสียงของตน และเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่ราชการของตนมิให้เสื่อมเสีย ตลอดจนไม่อาศัยหรือยอมให้ผู้อื่นอาศัยตำแหน่งหน้าที่ราชการของตนหาประโยชน์ให้แก่ตนเองหรือผู้อื่น โดยปฏิบัติอยู่ในกรอบของจริยธรรม ระเบียบแบบแผนของทางราชการ และวินัยที่กำหนดอย่างเคร่งครัดอยู่เสมอ
จากนั้นสำนักงานศาลปกครอง ได้แถลงข่าวศาลปกครอง เพื่อแก้ไขข้อความแถลงผลการสอบสวนข้อเท็จจริง เป็น “สำนักงานศาลปกครองขอแถลงว่า คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวฯ...ได้ดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริงแล้ว เห็นว่าการกระทำของเลขาธิการสำนักงานศาลปกครองเป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามตามจริยธรรมข้าราชการฝ่ายศาลปกครอง โดยมีมูลอันควรกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัย...”
นอกจากนี้ นายดิเรกฤทธิ์ ยังถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีไม่ดำเนินการเปิดประชุม ก.ศป. ตามที่คณะกรรมการ ก.ศป.ได้เข้าชื่อกันเพื่อขอให้เปิดประชุม ก.ศป.เพื่อพิจารณาพักราชการนายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล ประธานศาลปกครองสูงสุดระหว่างการสอบสวนกรณีจดหมายน้อยฝากตำรวจ ในช่วงกลางเดือนมีนาคม 2558 แต่นายดิเรกฤทธิ์ ไม่ยอมดำเนินกลับไปหารือนายหัสวุฒิและกำหนดให้ประชุมเมื่อวันที่ 30 มีนาคม ซึ่ง ก.ศป.ที่ขอให้มีการดำเนินการเห็นว่า การกระทำของนายดิเรกฤทธิ์ไม่เป็นตามตามระเบียบ ก.ศป.และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพราะเมื่อมี ก.ศป.เข้าชื่อกัน 1 ใน 4 ขอให้เปิดการประชุม ฝ่ายเลขานุการต้องดำเนินการเรียกประชุม
โดยเบื้องต้นคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีนี้ ได้สรุปผลการสอบสวนข้อเท็จจริง และแจ้งให้ นายปิยะ ปะตังทา รองประธานศาลปกครอง รักษาการตำแหน่งประธานศาลปกครองรับทราบแล้ว หากพบว่ามีความผิดจริง ก็จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย แต่ถ้าไม่ผิดนายดิเรกฤทธิ์ ก็จะพ้นข้อกล่าวหา
(อ่านประกอบ : ก.ศป.มีมติให้ ปธ.ศาลปกครองสอบ "ดิเรกฤทธิ์"กล่าวหาขวางประชุมพักงาน"หัสวุฒิ")