ร้อง ศอตช.สอบ บิ๊ก ก.ศึกษาฯปมโอนย้ายอาจารย์สาวคดีถูกทำร้าย

ปลัด ก.ศึกษาฯงานเข้า! อาจารย์สาวส่งหนังสือ ศอตช.ร้องสอบ ละเว้นหน้าที่ปมขอโอนย้าย หลังได้รับความเดือดร้อนจากคดีถูกทำร้ายเมื่อ 6 ปีก่อน แต่เพิกเฉย ไม่แจ้งผลให้ทราบ

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่าเมื่อ วันที่ 26 เม.ย.58 นางปณิชา ศรีจักร อาจารย์ วิทยาลัยชุมชนพิจิตร ได้ส่งหนังสือถึงเลขานุการ ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.)ขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมการปฏิบัติหน้าที่ของปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา กรณี ไม่ดำเนินการ รวมทั้งไม่ให้ความสำคัญ ไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของบุคลากรผู้ใต้บังคับบัญชาชั้นผู้น้อยของตน อันเนื่องขอมาจากโอนย้ายจากพื้นที่ที่ไม่มีความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน

หนังสือดังกล่าวระบุว่า ผู้ร้องได้ร้องเรียนขอความเป็นธรรม ต่อเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ลงวันที่ 4 กรกฎาคม 2557 และผู้ร้องได้รับแจ้งให้ทราบจากสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 5 สิงหาคม 2557 ว่าสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ประสานและติดตามให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบกรณีที่ได้ร้องเรียนดังกล่าว เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือต่อไป โดยขอให้แจ้งผลให้ผู้ร้องทราบโดยตรง ซึ่งผู้ร้องได้ร้องขอความเป็นธรรมในเรื่องดังต่อไปนี้

1.ขอโอนย้ายโดยการตัดโอนตำแหน่งที่ครองอยู่ ไปสังกัดมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือโอนย้ายโดยการตัดโอนตำแหน่งไปสังกัดวิทยาลัยอาชีวศึกษานครสวรรค์ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา

2.การขอช่วยปฏิบัติราชการ เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน ในระหว่างรอกระบวนการโอนย้ายโดยการตัดโอนตำแหน่งจะแล้วเสร็จ ซึ่งขณะนี้ผู้ร้องก็ยังไม่ได้รับการให้ความช่วยเหลือในเรื่องดังกล่าว ทั้งที่ผู้ร้องและ คสช. ก็ได้ดำเนินการติดตามทวงถามไปยัง สกอ. และสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการหลายครั้ง แต่บุคคลดังกล่าวกลับเพิกเฉย ไม่ดำเนินการใดๆ รวมทั้งไม่ให้ความสำคัญ ไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของบุคลากรผู้ใต้บังคับบัญชาชั้นผู้น้อยของตน ในปัจจุบันนี้ผู้ร้องรวมทั้ง คสช. ก็ยังมิได้ทราบคำสั่งในเรื่องดังกล่าวจาก สกอ. แต่อย่างใด

ทั้งนี้ สาเหตุที่ต้องดำเนินการขอความเป็นธรรม และขอความช่วยเหลือเรื่องการตัดโอนหมายเลข เพื่อไปสังกัดมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ หรือวิทยาลัยอาชีวศึกษานครสวรรค์นั้น เนื่องจาก 11 กุมภาพันธ์ 2552 เวลาประมาณ 20.00 น. ที่บ้านพักครู ซึ่งเป็นสถานที่ของราชการ ได้เกิดเหตุ ครูอัตราจ้าง เข้ามาทำร้ายผู้ร้อง และผู้ร้องได้มีการดำเนินคดีอาญากับ ครูอัตราจ้าง ผลของการดำเนินคดี ศาลฏีกา ได้ตัดสินให้จำเลย จำคุก 1 ปี 6 เดือน ไม่รอลงอาญา ต่อมาผู้ร้องได้ร้องเรียนเพื่อขอความเป็นธรรม ต่อคณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน และสตรีฯ ณ ทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2555 และทางคณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน และสตรีฯ ได้มีมติการเยียวยาข้าพเจ้าโดยการตัดโอนตำแหน่งและอัตราเงินเดือนไปสังกัดสถานศึกษา ของกระทรวงศึกษาธิการ ที่อยู่ในเขตภูมิลำเนาเดิม คือ อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน

ผู้ร้องจึงมีความประสงค์ดังนี้ ขอโอนย้ายโดยการตัดโอนตำแหน่งที่ครองอยู่ ไปมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือโอนย้ายโดยการตัดโอนตำแหน่งไป วิทยาลัยอาชีวศึกษานครสวรรค์ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา

“จึงมีความประสงค์ร้องเรียนและขอความเป็นธรรม ขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ของปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา และบุคคลที่เกี่ยวข้อง กรณีการขอโอนตัดตำแหน่ง และการขอช่วยปฏิบัติราชการ เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน ต่อเลขานุการ ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ(ศอตช.) เพื่อดำเนินการกำกับ ติดตาม เร่งรัด และสั่งการไปยังส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนและความไม่เป็นธรรมแก่ข้าพเจ้า และให้เกิดผลการปฏิบัติของส่วนราชการอย่างจริงจังโดยเร็ว ตามคำสั่ง คสช.ที่ 69/2557ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2557 ประกอบ พรบ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 และ พรฏ.ว่าด้วยหลักเกณฑ์วิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ.2546 ในเรื่องขอโอนย้ายตัดโอนตำแหน่ง ไปยังมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ หรือวิทยาลัยอาชีวศึกษานครสวรรค์ ทั้งนี้สุดแล้วแต่ว่ากระบวนการพิจารณาใดจะรวดเร็วกว่ากัน”ผู้ร้องระบุ (ดูหนังสือร้องเรียนประกอบ) 

อ่านประกอบ : หนังสือ 6 ฉบับ“อาจารย์สาว”อดีตเหยื่อคดีล่วงละเมิด “ผู้มีอำนาจ”ไม่ได้ฟัง!