อดีตนักวิจัยเอแบคฯ อ้างเคลียร์ปัญหาเงินหมดแล้ว ก่อนลาออกตั้ง "มาสเตอร์โพลล์"
อดีตนักวิจัยเอแบคโพลล์ ยันตั้งมาสเตอร์โพลล์หลังลาออก เคลียร์ปัญหาเงินวิจัยผู้ใหญ่เข้าใจหมดแล้ว ไม่งั้นคงไม่ได้ออกมา ส่วนการติดตามเงินมาคืนให้ม.อัสสัมชัญ ก็พยายามอยู่ แต่ลูกค้าเก่าบางรายมีการเปลี่ยนแปลงผู้ประสานงานทำให้ติดตามลำบาก เผยที่มาบริษัทความสุขชุมชนฯ จุดเริ่มต้นจากแนวคิดตั้งร้านกาแฟ ส่งออกจิ้งหรีด ชี้เรื่องปกติมนุษย์เงินเดือนต้องการความก้าวหน้า
จากกรณีสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org เปิดเผยรายงานผลการสอบสวนข้อเท็จจริงการบริหารสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ ที่แต่งตั้งขึ้นโดยมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ พบว่าเกิดปัญหาหลายประการที่นำไปสู่ความเสียหายให้กับมหาวิทยาลัยรวมมูลค่า 48,496,608.14 บาท นอกจากนี้ในสำนวนรายงานการสอบสวน มีประเด็นหนึ่งที่ระบุถึงบริษัทเอกชน 2 ราย คือบริษัทมาสเตอร์โพลล์ แอนด์โพลซี จำกัด และบริษัทความสุขชุมชน จำกัด ที่ถูกตรวจสอบพบว่ามีอดีตผู้บริหารของเอแบคโพลล์ การจัดตั้งขึ้นมาในขณะที่ยังทำงานอยู่กับมหาวิทยาลัยช่วงก่อนลาออก และถูกตั้งข้อสังเกตเรื่องเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ทับซ้อนนั้น
( อ่านประกอบ : "เอแบคโพลล์"แปลงกาย"มาสเตอร์โพลล์" หลังผู้บริหารถูกสอบ ลาออกยกชุด,ข้อมูล"บัญชีลับ"เอแบคโพลล์!ฝาก-ถอนไม่ผ่านอัสสัมชัญ เงินขาด 8 ล้าน )
เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ได้รับการเปิดเผยข้อมูลจากอดีตนักวิจัยเอแบคโพลล์ ที่เข้ามาทำงานที่มาสเตอร์โพลล์ เกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นในการดำเนินงานของเอแบคโพลล์
โดยในกรณีรายงานผลสอบข้อเท็จจริงชี้ประเด็นปัญหาการบริหารงานสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ในหลายประเด็น รวมมูลค่าความเสียหายที่เกิดกับมหาวิทยาลัยมากกว่า 48 ล้านบาท นั้น
อดีตนักวิจัยเอแบคโพลล์ รายนี้ ยืนยันว่า "ประเด็นเหล่านี้ก็คุยกันตั้งแต่แรก เคลียร์กันไปแล้วในที่ประชุม ทุกอย่างแล้ว ไม่มีอะไร ผู้ใหญ่ท่านก็เข้าใจในส่วนตรงนี้"
เมื่อสอบถามถึงการบริหารงานภายในสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ นักวิจัยรายนี้ ระบุว่า สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มีเอแบคโพลล์ เอแบคแอนเคอร์ และเอแบคซิมบา แต่ก็ทำงานร่วมกัน คือสำนักวิจัยเอแบคโพลล์นั่นแหละ แต่ที่แยกเป็น 3 ชื่อ เพราะให้คนภายนอกเห็นการทำงานที่ชัดมากขึ้น เช่น การเป็นงานวิจัยของเอกชน ก็จะเป็นเอแบคซิมบ้าจะรับไป ส่วนประเด็นทางสังคมจะเป็นเอแบค เอเคอร์ ส่วนโพลล์ก็เป็นเอแคโพล์ คนทำงานก็กลุ่มเดียวกันเพราะก็อยู่ภายใต้มหาวิทยาลัยทั้งสามศูนย์ มีผู้อำนวยการเป็นผู้รับผิดชอบการดำเนินงานทั้งหมด
เมื่อถามถึงการชี้แจงกับผู้บริหารมหาวิทยาลัย ในประเด็นปัญหาต่างๆ ที่ปรากฏในผลสอบข้อเท็จจริง นักวิจัยรายนี้ ตอบว่า "ถ้าเราไม่เคลียร์ เขาก็ไม่ให้เราออก"
ส่วนกรณีที่รายงานผลสอบข้อเท็จจริงระบุให้อดีตเจ้าหน้าที่ของสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ที่ปัจุบันเป็นกรรมการบริษัทและเจ้าหน้าที่บริษัทมาสเตอร์โพลล์นำเงินมาคืนมหาวิทยาลัย เจ้าหน้าที่มาสเตอร์โพลล์รายนี้กล่าวว่า "ก็ตามอยู่ แต่ลูกค้าบางคนก็นานแล้ว และลูกค้าเขาก็มีการเปลี่ยนผู้ประสานงานและในส่วนของเอแบคโพลล์เองยังมีส่วนที่ยังติดตามอยู่"
“แต่เราไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยแล้ว อำนาจบางอย่างเราไม่มีเราก็ต้องอาศัยคนที่อยู่ในมหาวิทยาลัย ซึ่งเราก็พยายามประสานให้ อันไหนที่มันสุดความสามารถที่เราจะตามจริงๆ เราก็จะแจ้งว่าไม่ได้จริงๆ เช่นบางงาน ลูกค้าเองก็เปลี่ยนผู้ประสานงานหลายคน ไม่ใช่ว่าเราไม่ตาม แต่ก็ไม่ได้จริงๆ” เจ้าหน้าที่รายนี้ระบุ
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีผลสอบข้อเท็จจริงระบุถึงปัญหารายได้วิจัยค้างรับ และการรับงานส่วนตัว นั้น นักวิจัยรายนี้ ตอบว่า ส่วนนี้ผู้บริหารเอแบคโพลล์ เคยชี้แจงกับที่ประชุมไปแล้ว ส่วนโครงการของศูนย์วิจัยปัญหาสุรา หรือ ศวส. โดยปกติแล้ว ลักษณะงาน ของ ศวส. ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาที่สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ทำให้
"กับ ศวส.คือเรารับในส่วนที่เป็นชื่อผู้บริหารอยู่แล้ว และผู้บริหารก็จะนำเอาชื่อโครงการนั้นเข้ามหาวิทยาลัยอยู่แล้ว เพราะในส่วน ศวส. โดยปกติแล้วเขาจะให้เราต้องไปเปิดบัญชีเป็นชื่อของโครงการนั้นเพื่อโครงการนั้นเท่านั้น เมื่อโครงการนั้นเสร็จ บัญชีนั้นก็ต้องปิดไป เมื่อเงินเข้ามาก็เบิกถอนให้มหาวิทยาลัย นี่คือในส่วนของ ศวส.” นักวิจัยรายนี้ ระบุ
ส่วนข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทความสุขชุมชน นั้น นักวิจัยระบุว่า บริษัทความสุขชุมชนที่คิดกันไว้ เดิมคิดกันว่าอยากไปทำร้านกาแฟและส่งออกจิ้งหรีด
“ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติของเรา ทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือน เราก็อยากก้าวหน้า แล้วเรามีคนรู้จักทำร้านกาแฟ ส่งออกจิ้งหรีด เราก็เลยคิดไว้ว่ามาทำธุรกิจกันไหมให้ พี่ที่ต่างจังหวัดเลี้ยงจิ้งหรีดไป แล้วเราก็ส่งขาย แต่ต่อมา เราก็คิดว่าเอ๊ะ จะปิดดีไหม เพราะยังไม่ได้ทำอะไรกับมันเลย ต่อมาอาจารย์ที่ถือหุ้นในมาสเตอร์ โพลล์ เขาสนใจตจะเปิดที่ที่เกี่ยวกับการเรียนการสอน เขาเห็นว่าน่าสนใจนะ แล้วไลฟ์สไตล์ คล้ายๆ กัน ในเมื่อคนเรามาในทางที่ทำอะไรที่เราชอบ ก็ไปทำในสิ่งที่เราชอบ”เจ้าหน้าที่รายนี้ระบุ
เมื่อถามว่าร้านกาแฟหรือบริษัทความสุขชุมชนยังมีอยู่หรือไม่ นักวิจัยรายนี้ กล่าวว่า ก็มีบริษัทอยู่ ตั้งชื่อนี้ไว้เพราะชอบชื่อนี้ กลัวว่าจะมีคนมาเอาชื่อนี้ไป
"เราก็ไปจดทะเบียนบริษัทไว้ แต่ถามว่าได้ทำธุรกิจอะไรอะไรไหม ก็ยังไม่ได้ทำอะไร"