กตป.ชง คตร. สอบโมบายแล็บคาร์ กสทช. ตั้งข้อสังเกตความคุ้มค่า-แก้ไขสัญญา
กตป. มีมติเสนอ คตร. ตรวจสอบโครงการโมบายแล็บคาร์ กสทช. วงเงิน 11.2 ล้านบาท ตั้งข้อสังเกตถึงความคุ้มค่า-จำเป็น ชี้พิรุธทีโออาร์ ระบุ "ติดตั้งกล้องวงจรปิด" ขัดกับข้อเท็จจริง
จากกรณีที่ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2556 พบว่าสำนักงาน กสทช. ลงนามสัญญาเลขที่ พย.(ช)(ดท.) 8/2556 กับบริษัทจัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ จำกัด ( มหาชน ) ซื้อขายรถตรวจสอบเครื่องโทรคมนาคมเคลื่อนที่ ( Mobile Lab Car ) จำนวน 1 คัน วงเงิน 11,235,699.78 บาท ด้วยวิธีประกวดราคา โดยสำนักข่าวอิศราตั้งข้อสังเกตถึงความคุ้มค่าและราคาว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ รวมทั้งตรวจสอบพบว่าทีโออาร์ของโครงการโมบายแล็บคาร์กลับระบุถึงการติดตั้งกล้องวงจรปิดซึ่งเป็นอีกโครงการที่ บ .จัสมินฯ ได้งานจาก กสทช.
( อ่านประกอบ : เผยโฉม“โมบายแล็บคาร์” กสทช.11.2 ล. เครื่องวัดสัญญาณไฮเทคหลักล้าน , พบ“บ.จัสมินฯ”คว้าอีกงาน กสทช.-จัดซื้อรถโมบายแล็บ 11.2 ล้าน ,ทีโออาร์จัดซื้อโมบายแล็บคาร์ กสทช.สุดมั่ว!ตัดแปะเอกสารจากโครงการกล้องวงจรปิด )
ล่าสุด เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2558 ที่อาคาร ไอทาวเวอร์ ถ.วิภาวดีรังสิต นายประเสริฐ อภิปุญญา คณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน กสทช. ( กตป. ) ให้สัมภาษณ์ สำนักข่าวอิศรา ถึงโครงการโมบายแล็บคาร์ว่า กตป.มีมติ เห็นสมควรให้คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้งบประมาณภาครัฐ (คตร.) ทำการตรวจสอบในเชิงลึก โครงการโมบายแล็บคาร์ หรือโครงการรถตรวจสอบเครื่องโทรมนาคมเครื่องที่ มูลค่าประมาณ 11 ล้านบาท
นายประเสริฐกล่าวว่า ประเด็นที่ กตป.มีข้อสังเกตต่อโครงการโมบายแล็บคาร์ คือทีโออาร์ที่กำหนดขึ้นสำหรับโครงการดังกล่าวกกลับไประบุถึงการส่งกล้องวงจรปิด ที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง นอกจากนี้ ประเด็นที่ กตป.สงสัยคือเมื่อแยกย่อยอุปกรณ์ต่างๆ ออกมาแล้ว ราคารถตู้ค่อนข้างสูง
"เรายังมองในประเด็นความคุ้มค่า เพราะปริมาณงานของโมบายแล็บคาร์ ไม่ได้มากถึงขนาด จะแยกออกมาเป็นอีกโครงการต่างหาก อย่างเช่น กรณีเครื่องตรวจสอบความถี่ การตรวจเช็ค การตรวจสอบคลื่นความถี่มันไม่ได้ครอบคลุมอยู่ความถี่เดียว ดังนั้น ถ้าจะให้คุ้มค่า การซื้อรถและการจัดทำโครงการนี้ ควรจะตรวจสอบคลื่นให้ได้ครอบคลุมหรือไม่ ถามว่ารถนี้สามารถไปดัดแปลง ใช้กับโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3 จี 4 จีได้ไหม เพื่อที่จะไม่มีการไปแยกว่ามีโครงการตรวจสอบคลื่น 3 จี 4 จี หรือโทรคมนาคมเคลื่อนที่ต่างหาก คือน่าจะให้ใช้งานได้หลากหลายวัตถุประสงค์ นี่เป็นเพียงที่เราตั้งประเด็นไว้” นายประเสริฐระบุ
นายประเสริฐ ยังกล่าวต่อไปว่า กตป.ใช้เวลาตรวจสอบและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับโมบายแล็บคาร์ มาประมาณ 1 ปี มีข้อน่าสังเกตตามที่กล่าวมาข้างต้น นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่ กตป.สงสัย มาก คือโครงการดังกล่าวมีการแก้ไขสัญญาเพิ่มเติม ครั้งที่ 2 ที่พบว่ามีข้อน่าสังเกตแต่ขอยังไม่เปิดเผยในตอนนี้ นอกจากนี้ ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ต้องทำบันทึกเสนอผู้มีอำนาจลงนามอนุมัติ แต่โครงการดังกล่าวไม่มีการเสนอผู้มีอำนาจลงนาม มีเพียงการเสนอต่อเลขาธิการ กสทช. เท่านั้น
นายประเสริฐกล่าวด้วยว่า นอกจากโครงการโมยายแล็บคาร์แล้ว กตป. ยังมีมติ เห็นสมควรเสนอให้ คตร. ตรวจสอบในเชิงลึกโครงการที่เกี่ยวข้องกับการกำกับคุณภาพบริการโทรศัพท์ เคลื่อนที่ ( QoS ) มูลค่ารวม 400 ล้านบาท และโครงการที่เกี่ยวข้องกับเครื่องส่งสถานีวิทยุกระจายเสียง 1 ปณ มูลค่า 3 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน กตป.ทั้ง 4 คน ประกอบด้วย พลเอก บุณยวัจน์ เครือหงส์ ประธาน กตป. นายพิชัย อุตมาภินันท์, นายอมร จิรัฐิติเจริญ และนายประเสริฐ จัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงภาพรวมของการปฏิบัติงานและรายงานความคืบหน้า การติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผล กสทช. ใจความสำคัญระบุถึงการติดตามผลการดำเนินการตามข้อสังเกตรายงานการติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการปฏิบัติงาน พ.ศ.2556 ว่า สำนักงาน กสทช. ไม่มีการจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี มีเพียงแผนงานที่จัดทำในระดับสำนักเท่านั้น และ กสทช.ไม่มีการทบทวนแผนแม่บทต่างๆ ทั้งที่หลายยุทธศาสตร์บรรลุเป้าหมายไปแล้ว และในส่วนการรายงานผลต่อ กตป. มีความล่าช้ามาก รายงานในเดือนธันวาคม 2557 รวมทั้งข้อมูลที่นำมารายงานเป็นข้อมูลที่ไม่เป็นปัจจุบัน หากแต่เป็นข้อมูลที่มีถึงเพียงไตรมาสที่ 3
ในส่วนการปฏิบัติงานของสำนักงาน กสทช. และเลขาธิการ กสทช.กตป.มีความเห็นว่าการปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายของเลขาธิการ กสทช. อาจมีความไม่สอดคล้องตามมาตรา 27 ประกอบมาตรา 58 และมาตรา 57 แห่ง พ.ร.บ. องค์กรฯ พ.ศ. 2553
ขณะที่ความเห็นต่อร่าง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ.... หรือ ร่างแก้ไข พ.ร.บ.กสทช. นั้น กตป. มีความเห็นใน 3 ประเด็นหลัก คือ
1.กสทช. ควรเป็นองค์กรอิสระเพื่อให้สอดคล้องตามเจตนารมณ์ของการปฏิรูปกิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม
2.การติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการปฏิบัติงานของ กสทช. สำนักงาน กสทช. และเลขาธิการ กสทช. จำเป็นต้องมีการตรวจสอบที่เชี่ยวชาญเป็นการเฉพาะที่เพิ่มมากขึ้น จากการตรวจสอบตามกลไกปกติ รวมทั้งมีความจำเป็นในการมุ่งเน้นให้มีการประเมินทั้งมิติของประสิทธิภาพและประสิทธิผลเพิ่มขึ้น จากการตรวจสอบระเบียบการใช้จ่ายเงิน
3.การกำหนดงบประมาณของ กสทช. ควรได้รับการกลั่นกรองและอนุมัติเช่นเดียวกับระบบงบประมาณภาครัฐ
หมายเหตุ : บุคคลในภาพจากซ้าย พลเอกบุณยวัจน์ และนายประเสริฐ