“อิศรา”ยื่น พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ ให้ รมว.พาณิชย์ เปิดตัวเลข-สัญญาข้าวจีทูจี
“อิศรา” ยื่นใช้สิทธิ์ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ ให้ รมว.พาณิชย์เปิดข้อมูลโครงการรับจำนำข้าวยุค “ยิ่งลักษณ์” แบบละเอียด กำหนดเวลา 15 วัน ขอสัญญาจีทูจี-เอกสารปิดบัญชีโครงการ-ข้อมูลระบายข้าว-บ.ที่ชนะประมูล-งบประชาสัมพันธ์ฯลฯ
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 30 ม.ค.2558 ที่กระทรวงพาณิชย์ ได้เดินทางไปยื่นหนังสือขอใช้สิทธิ์ตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ.2540 เรื่อง ขอให้เปิดเผยข้อมูลโดยละเอียดของโครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ดซึ่งเป็นนโยบายภายใต้รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หนังสือเลขที่ สอร.สนข. 003 / 2558 นำเรียนต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ใจความสำคัญระบุว่าผู้สื่อข่าวมีความประสงค์ขอใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 เพื่อขอข้อมูลข่าวสารดังต่อไปนี้
1.หนังสือสัญญาที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหรือตัวแทนรัฐบาลไทยขณะนั้น เซ็นต์สัญญา G to G (Government To Government หรือรัฐต่อรัฐ) กับรัฐบาลจีน
2. ข้อมูลตัวเลขงบประมาณทั้งหมดที่รัฐใช้ไปในโครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ด ภายใต้รัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
3. เอกสารปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ด
4.ข้อมูลการระบายข้าว สำเนาเอกสาร หลักฐาน การระบายข้าวที่แล้วเสร็จสมบูรณ์ มีปริมาณเท่าไหร่ ระบายไปยังที่ใดบ้าง รวมทั้ง รายชื่อเอกชนที่ชนะประมูลข้าวในโครงการดังกล่าว
5.สำเนาเอกสาร หลักฐาน หนังสือสัญญาและรายชื่อคู่สัญญาทั้งหมดในโครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ด
6.สำเนาเอกสาร หลักฐานหนังสือสัญญาของคู่สัญญาทั้งหมดในโครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ด ในส่วนความรับผิดชอบขององค์การคลังสินค้า สังกัดกระทรวงพาณิชย์
7.ข้อมูลปริมาณสต๊อกข้าวของรัฐบาลในโครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ด มีปริมาณข้าวเปลือกกี่ตัน สีเป็นข้าวสารได้กี่ตัน ขายไปกี่ตัน มีข้าวเหลืออยู่ในสต๊อกกี่ตัน
8.ข้อมูลรายได้ที่ได้จากการจำหน่ายข้าวในโครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ด
9.สำเนาเอกสารหนังสือสัญญาหลักฐานการเบิก-จ่ายเงินในการซื้อขายและรับจำนำข้าวทุกเมล็ด โดยละเอียด
10.งบประมาณทั้งหมดในการประชาสัมพันธ์โครงการดังกล่าวและรายละเอียดของงบประชาสัมพันธ์ที่มีการใช้ไปแล้ว
ตอนท้ายของหนังสือ ระบุด้วยว่า “ขอความกรุณาให้ท่านเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวให้แก่ข้าพเจ้า ตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 พร้อมทั้งจัดเตรียมเอกสารสำเนา พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง ภายในระยะเวลา 15 วัน นับจากได้รับหนังสือฉบับนี้จักขอบพระคุณยิ่ง”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเดินทางไปถึงหน้าห้องพลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ที่ชั้น 11 และแจ้งความประสงค์กับพนักงานรักษาความปลอดภัยที่อยู่หน้าห้องว่ามายื่นหนังสือขอใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารฯ ต่อรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปในห้องรัฐมนตรี แต่ได้พาผู้สื่อข่าวไปยังห้องสำนักงานรัฐมนตรี เลขที่ห้อง 31101 และกล่าวว่าต้องมายื่นหนังสือที่ห้องนี้เพื่อลงทะเบียนเลขรับสำหรับการติดตามเรื่อง และกล่าวว่าการมอบให้รัฐมนตรีโดยตรงนั้นเอกสารจะไม่ได้รับการลงทะเบียน ไม่สะดวกต่อการติดตามเรื่อง
เมื่อผู้สื่อข่าวแนะนำตัวและแจ้งความประสงค์แก่เจ้าหน้าที่สำนักงานรัฐมนตรีพร้อมยื่นหนังสือ เจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องไว้และลงตราประทับ เลขรับ 664 วันที่ 30 ม.ค. เวลา 15.37 น.
ทั้งนี้ ระหว่างที่เจ้าหน้าที่มอบสำเนาหนังสือที่ลงตราประทับคืนให้แก่ผู้สื่อข่าว เจ้าหน้าที่หญิงรายหนึ่ง เดินมายังห้องสำนักงานรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่กล่าวแนะนำกับผู้สื่อข่าวว่าเจ้าหน้าที่หญิงรายนี้ เป็นหนึ่งในทีมเลขานุการของรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวถามว่า หนังสือดังกล่าวจะถูกส่งไปถึงรัฐมนตรีในวันนี้เลยหรือไม่ เจ้าหน้าที่หญิงรายนี้กล่าวว่า ไม่แน่ใจเนื่องจากรัฐมนตรีติดประชุม และกล่าวว่า หนังสือดังกล่าวต้องผ่านการรับรองจากนายอุตตม สาวนายน เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จึงจะถูกส่งต่อไปยังรัฐมนตรี และเมื่อทราบว่าหนังสือที่ผู้สื่อข่าวยื่นขอใช้สิทธิ์ ตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร มีกรอบระยะเวลา 15 วัน เจ้าหน้าที่หญิงรายนี้กล่าวว่าการระบุเวลา 15 วัน จะดูเหมือนเป็นการออกคำสั่งรัฐมนตรีหรือไม่
ผู้สื่อข่าวกล่าวว่าตามปกติแล้ว เมื่อยื่นหนังสือ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ ต่อหน่วยงานของรัฐ ผู้สื่อข่าวจะขอกำหนดกรอบเวลาเช่นเดียวกันนี้ทั้งสิ้น และการกำหนดกรอบเวลาดังกล่าวก็เป็นไปตามที่กฎหมายได้ให้สิทธิแก่ประชาชนในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของราชการ
เจ้าหน้าที่หญิงรายนี้กล่าวว่า ถ้าเช่นนั้นขอให้ผู้สื่อข่าวติดตามเรื่องตามหมายเลขโทรศัพท์ที่เจ้าหน้าที่ผู้รับเรื่องได้แจ้งเอาไว้
หมายเหตุ : บุคคลในภาพจากซ้าย พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ,นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ภาพประกอบจาก :http://www2.moc.go.th, www.goog.e.co.th