ศาลรับคำฟ้องศึกสายเลือด "เหตระกูล" กรณีจดแจ้งเปลี่ยนชื่อ "บก.เดลินิวส์"
ศาลรับคำฟ้อง ศึกสายเลือด "เหตระกูล" กรณี "ประพิณ" พร้อมพวกรวม 3 คน แจ้งนายทะเบียนหอสมุดแห่งชาติ เปลี่ยนชื่อเจ้าของ -บก."เดลินิวส์" แถมนำสำเนาบัตรปชช-ทะเบียนบ้านไปใช้ โดยไม่ได้รับความยินยอม จาก "ประภา" -นัดสอบคำให้การ 27 เม.ย.นี้
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 28 ม.ค.58 ที่ศาลแขวงดุสิต ศาลออกนั่งบัลลังก์พิจารณาคดีหมายเลขดำที่ อ.1942/57 ระหว่านางประภา เหตระกูล ศรีนวลนัด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางประพิณ รุจิรวงศ์ จำเลยที่ 1 กับพวก 2 คน ประกอบไปด้วย นางสาวผวราภรณ์ ปุ้ยพันธวงศ์ และนายกิตติพันธ์ุ เหตระกูล โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบในชั้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีของโจทก์มีมูล ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137 มาตรา 267 ประกอบมาตรา 83 ให้ประทับรับคำฟ้องไว้พิจารณา นัดสอบปากคำให้การจำเลยทั้ง 3 ในวันที่ 27 เม.ย. 2558 เวลา 09.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งโจทก์และจำเลยไม่มีผู้ใดมาศาล มีเพียงทนายฝ่ายโจทก์ และเสมียนทนายฝ่ายจำเลย
นางฑิชาพร สุจริตกุล ทนายความของนางประภา เปิดเผยสำนักข่าวอิศราว่า มูลเหตุการฟ้องจำเลยทั้ง 3 คน เนื่องจากจำเลยแจ้งความเท็จแก่เจ้าพนักงานทะเบียนหอสมุดแห่งชาติ ให้จดข้อความอันเป็นเท็จ คือ เปลี่ยนรายชื่อเจ้าของหนังสือพิมพ์เดลินิวส์จากเดิม คือ นายประสิทธิ์ เหตระกูล ไปแจ้งเปลี่ยนเป็นนายกิตติพันธ์ เหตระกูล และแจ้งเปลี่ยนชื่อบรรณาธิการผู้พิมพ์ ผู้โฆษณาหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ จากนางประภา เหตระกูล เปลี่ยนเป็น นายอภิชัย รุ่งเรืองกุล
โดยศาลรับฟ้องว่า จำเลยแจ้งความเท็จกับหอสมุดแห่งชาติที่เป็นนายทะเบียน นอกจากนี้ยังมีประเด็นหนึ่งในการยื่นคำฟ้อง คือ การที่จำเลยนำเอาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของโจทก์ไปให้นายทะเบียนหอสมุดแห่งชาติ โดยไม่ได้รับการยินยอมจากโจทก์ และไม่มีการลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง
“วันนี้ ศาลรับคำฟ้องไว้พิจารณา จากนี้จะมีนัดสืบโจทก์ สืบจำเลย โดยในวันที่ 27 เม.ย. 58 มีนัดสอบคำให้การจำเลยว่าเขาจะรับสารภาพหรือปฏิเสธ ถ้าปฏิเสธ ก็นัดสืบพยานต่อไป” ทนายความฝ่ายโจทก์ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้พยายามสอบถามข้อเท็จจริงจากเสมียนทนายฝ่ายจำเลยแล้ว แต่ได้รับการ ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นใดๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ความผิดตามประมวลกฎหมายมาตรา 137 บัญญัติว่า ผู้ใดแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 267 ผู้ใดแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงใน เอกสารมหาชนหรือเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
#เชิญชวนติดตามข่าวสารสำนักข่าวอิศรา ได้ด้วยการกด "Like" ที่ แฟนเพจ "I love isranews"
หมายเหตุ : บุคคลในภาพ นางประภา เหตระกูล ศรีนวลนัด
ภาพประกอบจาก : dailynews.co.th,www.google.co.th
อ่านประกอบ
เบื้องหลัง!เดลินิวส์ ประกาศ16พนง. สิ้นสภาพ -ศึกสายเลือด "เหตระกูล" ระอุ
ล้วงแผนลับ! ปมสั่งปลดบก.เดลินิวส์ ต้นตอศึกสายเลือด"เหตระกูล"ระอุ (2)