สตง.ฮึม!เรียก"บิ๊กอัยการ" ให้ข้อมูลทุจริตประชุมบอร์ดทีโอที ร้านไวน์หรู
สตง.ฮึม!เตรียมออกหนังสือเชิญ "อัยการประสิทธิ์" อดีตบอร์ดทีโอที และผู้เกี่ยวข้อง เข้าให้ข้อมูลปมกล่าวหามีการจัดทำเอกสารเบิกจ่ายงบประมาณจัดประชุม 3 จี นอกสถานที่ร้านไวน์หรู เป็นเท็จ ลั่นเอาเงินหลวงไปใช้ประโยชน์โดยไม่ถูกต้องแบบนี้ยอมไม่ได้
จากกรณีนายประสิทธิ์ ศิริภากรณ์ อัยการพิเศษฝ่ายสัญญาและหารือ 3 อดีตกรรมการบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานติดตามงาน 3 จี ของทีโอที ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า การประชุมติดตามงาน 3 จี ของทีโอที ไม่เคยจัดนอกสถานที่ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยการประชุมภายในทีโอที จะจัดขึ้นที่ "ตึก 1" กับ "ตึก 9" และเดินทางไปรวมงานที่ร้าน Cellar 11 Wine Bar & Bistro เพียง 1 ครั้ง แต่มีการทำเรื่องเบิกจ่ายเงินค่าใช้จ่ายจำนวน 4 ครั้ง และเป็นการเดินทางไปร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ ไม่ใช่การประชุมงาน 3 จี แต่อย่างใด
(อ่านประกอบ: เปิดหลักฐานเท็จ? ใบเสร็จสวาปามไวน์หรู 7 แสน อ้างประชุมบอร์ดทีโอที)
เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 57 แหล่งข่าวระดับสูงจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา ว่า ในเร็วๆ นี้ จะออกทำหนังสือเชิญนายประสิทธิ์ ศิริภากรณ์ และผู้เกี่ยวข้องมาชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ทั้งหมด โดยเฉพาะประเด็นการจัดทำเอกสารการเบิกจ่ายเงินงบประมาณในการจัดประชุมบอร์ดทีโอที เพื่อติดตามงาน 3 จี นอกสถานที่ ที่ร้าน Cellar 11 Wine Bar & Bistro ว่าสรุปมีการจัดประชุมกี่ครั้งกันแน่ และเป็นการจัดประชุมงานหรือการเลี้ยงสังสรรค์ นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลข่าวที่สำนักข่าวอิศรา นำเสนอไป มาใช้ประกอบเป็นแนวทางในการตรวจสอบข้อมูลด้วยแล้ว
"หากข้อมูลที่อัยการประสิทธิ์ นำมาเปิดเผยเป็นเรื่องจริง ว่า มีการจัดการประชุมแค่ไม่กี่ครั้ง และที่สำคัญเป็นการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ ไม่ใช่การประชุมตามงาน 3 จี เท่ากับว่าการจัดทำเอกสารเพื่อขอเบิกจ่ายเงินของทีโอทีที่เกิดขึ้น เป็นการทำเท็จ และจะต้องมีผู้รับผิดชอบต่อเงินหลวงที่ถูกนำไปใช้จ่ายโดยไม่ถูกต้อง รวมถึงรับโทษทางวินัยและอาญาด้วย ซึ่ง สตง.ยอมให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นไม่ได้"
แหล่งข่าวกล่าวต่อไปว่า ส่วนความคืบหน้าการประสานงานขอข้อมูลรายละเอียดค่าใช้จ่ายเงินรับรองของคณะกรรมการบริษัททีโอทีทั้งชุดนั้น คาดว่าข้อมูลทั้งหมดจะเริ่มทยอยเข้ามาภายในสัปดาห์นี้ เมื่อได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว สตง.จะนำมาตรวจสอบเชิงลึกเพื่อขยายผลการสอบสวนเรื่องนี้ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้าวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้พยายามติดต่อไปยังบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงจากผู้ที่รับผิดชอบเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณจัดการประชุมติดตามงาน 3 จี ที่ร้าน Cellar 11 Wine Bar & Bistro แต่ไม่สามารถติดต่อใครได้
ทั้งนี้ ในช่วงกลางดึกคืนวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้ออกประกาศคำสั่งฉบับที่ 69/2557 เรื่องมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบ
โดยระบุให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ กำหนดมาตรการหรือแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบในส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ โดยมุ่งเน้นการสร้างธรรมาภิบาลในการบริหารงาน และส่งเสริมการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนในการตรวจสอบ เฝ้าระวัง เพื่อสกัดกั้นมิให้เกิดการทุจริตประพฤติมิชอบได้
และมีการระบุชัดเจนในประกาศข้อ 2 ว่า ในกรณีที่มีการกล่าวหาหรือพบเหตุอันควรสงสัยว่าข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทำการหรือเกี่ยวข้องกับการทุจริตประพฤติมิชอบ ทั้งในฐานะตัวการ ผู้ใช้ หรือผู้สนับสนุน ให้หัวหน้าส่วนราชการและหัวหน้าหน่วยงานของรัฐดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ภายใต้พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์วิธีการบริหารการเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 ประกอบกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานบุคคล โดยให้บังคับใช้มาตรการทางวินัย มาตรการทางปกครอง และมาตรการทางกฎหมายอย่างเฉียบขาดและรวดเร็ว
และข้อ 3 ในกรณีการจัดซื้อจัดจ้างของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐให้หัวหน้าส่วนราชการและหัวหน้าหน่วยงานของรัฐมีหน้าที่ในการควบคุม กำกับดูแล การดำเนินงานให้เป็นไปตามบทบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 อย่างเคร่งครัด
ส่วนข้อ 4 ระบุว่า กรณีหัวหน้าส่วนราชการหรือผู้บังคับบัญชาปล่อยปละละเลย ไม่ดำเนินการตามข้อ 2 และ ข้อ 3 ให้ถือเป็นความผิดวินัยหรือความผิดทางอาญาแล้วแต่กรณี