"สตง."ตั้งทีมติดตามข้อมูล"รบ.ยิ่งลักษณ์"จ้าง"สื่อเอกชน"จัดอีเวนต์ 240 ล.
"สตง." ตั้งทีมติดตามข้อมูลการใช้จ่ายงบประมาณ 240 ล้านบาท รัฐบาล"ยิ่งลักษณ์" จ้าง "สื่อเอกชน"จัดงานอีเวนต์"สร้างอนาคตไทย 2020" -ข้องใจกม.ยังไม่ผ่าน ทำไมต้องรีบดำเนินการชี้ถ้าศาลมีคำตัดสินซ้ำรอย พ.ร.บ.นิรโทษฯ เงินที่ถูกใช้จ่ายไปจะสูญเปล่าทันที ลั่นถ้าเป็นจริงต้องมีผู้รับผิดชอบความเสียหายหา"เงินหลวงมาคืน"
แหล่งข่าวระดับสูงจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ขณะนี้ สตง.อยู่ระหว่างการติดตามข้อมูลการใช้จ่ายงบประมาณจำนวน 240 ล้านบาท ของรัฐบาล เพื่อว่าจ้างบริษัทเอกชน โดยวิธีพิเศษเข้ามารับจัดงานประชาสัมพันธ์โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ ภายใต้ชื่องาน “สร้างอนาคตไทย 2020” เป็นส่วนหนึ่งของร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงขนส่งของประเทศ พ.ศ....หรือเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ตามข้อมูลที่ฝ่ายค้านนำมาเปิดเผยในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2556 ที่ผ่านมา
แหล่งข่าวกล่าวว่า สำหรับประเด็นสำคัญที่ สตง. ให้ความสนใจเป็นพิเศษคือ ความเร่งรีบในการจัดงานประชาสัมพันธ์ข้อมูลล่วงหน้า ทั้งนี้ร่างกม.เงินกู้ฉบับนี้ ยังไม่ผ่านเรียบร้อย และปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ในประเด็นเรื่องกระบวนการได้มาซึ่งกฎหมายฉบับนี้ว่าไม่ถูกต้อง หลังมีการตรวจสอบพบข้อมูลการเสียบบัตรแทนกันของ ส.ส.
“หากกฎหมายเงินกู้ฉบับนี้ไม่ผ่าน หรือถูกชี้ว่าไม่ถูกต้องเหมือนกับกรณี พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ก็เท่ากับว่าเงินที่รัฐบาลนำไปใช้ในการว่าจ้างเอกชนจัดงานประชาสัมพันธ์จะสูญเปล่าไปด้วย ซึ่งไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมจะต้องรีบจัดงาน ทั้งที่กม.ยังไม่ผ่านดีเลย"
แหล่งข่าวกล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับเรื่องนี้หากศาลชี้ออกมาว่าร่างกม.เงินกู้ไม่ผ่านมา จะต้องมีผู้รับผิดชอบกับเงินที่สูญเสียไปจากการจัดงานประชาสัมพันธ์ล่วงหน้าแบบนี้อย่างแน่นอน ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตั้งทีมงานขึ้นมาติดตามข้อมูลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดแล้ว
แหล่งข่าว ยังกล่าวด้วยว่า ในข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการจัดงานประชาสัมพันธ์ของรัฐบาล อาจไม่จำเป็นต้องว่าจ้างบริษัทเอกชนภายนอกเข้ามารับงาน ควรที่จะใช้สื่อของรัฐที่มีอยู่ในมือเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น ช่อง 11 หรือช่อง 9 ให้ทำงานเต็มที่เต็มประสิทธิภาพ จะสามารถช่วยประหยัดงบประมาณของรัฐที่มาจากภาษีประชาชนได้มากขึ้น