คุก 1 เดือน นายก อบต. ใน จ.สิงห์บุรี ปัตตานี คดีบัญชีทรัพย์สิน -รอลงโทษ 1 ปี
ศาลฎีกาฯฟันอีก 3 ราย คดีบัญชีทรัพย์สิน นายก อบต.บ้านจ่า จ.สิงห์บุรี ซุกเงินฝาก ที่ดิน 3 ครั้ง จำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท รอลงโทษ 1 ปี ส.ท.เมืองนครพนม ยื่นเท็จ ให้พ้นตำแหน่งตั้งแต่ 21 ม.ค. 2562 ขณะที่ นายก อบต. แหลมโพธิ์ จ.ปัตตานี ไม่ยื่น คุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท รอ ลงโทษ 1 ปี
คดีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองปกปิดบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและ ไม่ยื่นบัญชี แสดงรายการทรัพย์สินฯ ยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดเป็นกรณีนักการเมืองท้องถิ่น 3 รายใน จ.สิงห์บุรี นครพนม และปัตตานี
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อ วันที่ 22 พ.ค.2562 ,วันที่ 23 พ.ค.2562 ,วันที่ 30 พ.ค.2562 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาว่า
นายพนม อินวะกูล นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บ้านจ่า อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี และ นางสมเกียรติ ณ นครพนม สมาชิก สภาเทศบาลเมืองนครพนม จ.นครพนม จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) และ นายนิราศ อาแว นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แหลมโพธิ์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อ คณะกรรมการ ป.ป.ช. รายละเอียดดังนี้
คดีจงใจยื่นบัญชีฯเท็จ
1.นายพนม อินวะกูล นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บ้านจ่า อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น
ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายก อบต. บ้านจ่า เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2552 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2556 ในการดำรงตำแหน่งนายก อบต.บ้านจ่า ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องโดยไม่แสดงรายการทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหาและ นางวันดี อินวะกูล คู่สมรส หลายรายการ กล่าวคือ
กรณีเข้ารับตำแหน่ง ไม่แสดงรายการเงินฝากธนาคารออมสิน สาขาบางระจัน สิงห์บุรี จำนวน 669.36 บาท เงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาบางระจัน สิงห์บุรีจำนวน 14,164.24 บาท เงินฝากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาบางระจัน 2 บัญชี จำนวน 8,701.83 บาท และ 21,097.96 บาท และที่ดิน น.ส.3 เลขที่ 88 ตำบลบ้านจ่าอำเภอบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี
กรณีพ้นจากตำแหน่ง ไม่แสดงรายการเงินฝากธนาคารออมสินสาขาบางระจัน สิงห์บุรี จำนวน 688.73 บาท เงินฝากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาบางระจัน 2 บัญชี จำนวน 3,948.94 บาท และ 27,074.68 บาท และที่ดิน น.ส.3 เลขที่ 88 ตำบลบ้านจ่า อำเภอบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี
กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ไม่แสดงรายการเงินฝากธนาคารออมสิน สาขาบางระจัน สิงห์บุรี จำนวน 700.40 บาท เงินฝาก ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาบางระจัน 2 บัญชี จำนวน 3,987.97 บาท และ 125.94 บาท และที่ดิน น.ส.3 เลขที่ 88 ตำบลบ้านจ่า อำเภอบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี
ผู้ร้องมีมติว่าผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีเข้ารับตำแหน่ง กรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี สำหรับกรณีเข้ารับตำแหน่งคดีขาดอายุความทางอาญาแล้วให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ผู้ร้องจึงยื่นคำร้องเป็นคดีนี้
พิพากษาว่า นายพนม อินวะกูล ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีเข้ารับตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านจ่า อำเภอบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 6 กันยายน 2556 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีพ้นจากตำแหน่ง จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ข้อหาและคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก. (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 125/2562 วันที่ 22 พ.ค.2562)
2.นางสมเกียรติ ณ นครพนม สมาชิก สภาเทศบาลเมืองนครพนม จ.นครพนม จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบและมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น
ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2551โดยปฏิญาณตนเพื่อเข้ารับหน้าที่เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2551 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2555 ต่อมาผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองนครพนม ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2555และดำรงตำแหน่งอยู่จนถึงปัจจุบันตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 1/2557 ลงวันที่ 25 ธันวาคม 2557 โดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่นับแต่วันที่ 21 มกราคม 2562 ซึ่งเป็นวันที่ศาลมีคำสั่งให้รับคำร้องไว้พิจารณา ในการดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองนครพนม ครั้งที่ 1
ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องโดยไม่แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ถูกกล่าวหา ดังนี้ กรณีเข้ารับตำแหน่งผู้ถูกกล่าวหาไม่แสดงเงินฝากธนาคารออมสิน สาขานครพนม จำนวน 17,449.47 บาท กรณีพ้นจากตำแหน่งผู้ถูกกล่าวหาไม่แสดงรายการเงินฝากธนาคารออมสิน สาขานครพนม จำนวน 17,932.46 บาท และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ผู้ถูกกล่าวหาไม่แสดงรายการเงินฝากธนาคารออมสิน สาขานครพนม จำนวน 18,089.90 บาท เงินฝากสหกรณ์หมู่บ้านมั่นคงนครพนม จำกัด จำนวน 2,500 บาท เงินลงทุนในหุ้นสหกรณ์หมู่บ้านมั่นคงนครพนม จำกัด จำนวน 4,300 บาท และเงินกู้จากสหกรณ์หมู่บ้านมั่นคงนครพนม จำกัด จำนวน 32,238.31 บาท
พิพากษาว่า นางสมเกียรติ ณ นครพนม ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีเข้ารับตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม ครั้งที่ 1 ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 9 มีนาคม 2555 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองนครพนม ครั้งที่ 1 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง และให้ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองนครพนม ครั้งที่ 2 ที่ดำรงอยู่ตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม 2562 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพ.ศ. 2560 มาตรา 17 วรรคสอง ข้อหาและคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก. (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 133/2562 วันที่ 23 พ.ค.2562)
คดีจงใจไม่ยื่นบัญชีฯ
1.นายนิราศ อาแว นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แหลมโพธิ์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดและมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น
ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายก อบต. แหลมโพธิ์ เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2552 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2556 ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดกรณีพ้นจากตำแหน่งแต่ไม่ยื่นเอกสารประกอบให้ครบถ้วน และเมื่อพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีผู้ถูกกล่าวหาไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ผู้ร้องมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงข้อเท็จจริงและเหตุผลกรณีดังกล่าวแล้ว แต่ผู้ถูกกล่าวหาเพิกเฉย
พิพากษาว่า นายนิราศ อาแว ผู้ถูกกล่าวหาจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลแหลมโพธิ์ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 6 กันยายน 2556 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดกรณีพ้นจากตำแหน่ง จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษ 1 ปี คำขอและข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก. (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 142/2562 วันที่ 30 พ.ค.2562)
อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง
ยื่นบัญชีฯเท็จ! ศาลฎีกาฯคุก 1 เดือน นายก อบต.บางพรม จ.สมุทรสงคราม รอลงโทษ 1 ปี
ให้พ้นตำแหน่ง! ศาลฎีกาฯฟันรองนายกเทศมนตรี จ.สุรินทร์ ซุกทรัพย์สิน ป.ป.ช. 4 ครั้ง
ศาลฎีกาฯยกคำร้อง ‘เล็ก เมืองนนท์’ยื่นบัญชีฯเท็จ เหตุขาดอายุความ-เคยถูก ตร.ยุคบิ๊กโจ๊กสอบ
ศาลฎีกาฯคุก 1 ด.-รอลงโทษ รองนายกอบต. จ.สตูล -รองเทศมนตรี จ.สุราษฎร์ฯ ไม่ยื่นบัญชีฯ
ลอตใหม่ปี 63 !ศาลฎีกาฯฟัน 6 คดีบัญชีทรัพย์สิน-ให้นายก อบต.บางขนุน นนทบุรี พ้นทันที
รายชื่อ 117 นักการเมือง ถูกศาลฎีกาฯฟันคดียื่นบัญชีทรัพย์สิน-ท้องถิ่น 110 คน
INFO: 28 นักการเมือง หลุดคดีบัญชีทรัพย์สิน ปี 62
รายชื่อ 28 นักการเมือง ศาลฎีกาฯ ยกคำร้อง คดีบัญชีทรัพย์สินปี 62
INFO: 117 นักการเมือง ศาลฎีกาฯ ฟัน จงใจยื่น‘บัญชีฯเท็จ-ไม่ยื่น’ป.ป.ช. ปี 2562
ปี 62 นักการเมือง 117 คนถูกศาลฎีกาฯฟันคดีบัญชีทรัพย์สิน-รองนายก อบต.มากสุด 51 ราย