สู้ไวรัส! 'สิงคโปร์แอร์ไลน์' จ่อลดชม.ทำงานพนักงาน 'บิ๊กบินไทย' หั่นเงินเดือน 15-25%
ผู้บริหาร 'บินไทย' ยอมปรับลดเงินเดือน 15-25% พร้อมลดค่าพาหนะ 20-30% เป็นเวลา 6 เดือน หวังฝ่าวิกฤตไวรัสโควิด-19 ยันยังไม่มีการออกมาตรการใดที่จะมีผลกระทบต่อพนักงาน
เมื่อวันที่ 25 ก.พ. นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 มีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบิน ทำให้มีปริมาณการเดินทางของผู้โดยสารลดลง ฝ่ายบริหารจึงได้ร่วมกันกำหนดแผนการรับมือกับภาวะวิกฤตดังกล่าว โดยได้วิเคราะห์ผลกระทบในทุกสถานการณ์อย่างรอบคอบ ตั้งแต่ผลกระทบระดับน้อยจนถึงมากที่สุด
สำหรับแนวทางการรับมือผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะเริ่มจากการปรับลดค่าใช้จ่ายหลักๆ ที่เกิดจากการปฏิบัติการบิน พร้อมทั้งปรับลดและชะลอการลงทุนที่ไม่จำเป็น การปรับลดแรงงานให้สอดคล้องกับปริมาณงาน เป็นต้น ซึ่งมาตรการเหล่านี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินการไปแล้ว
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการแสดงความเสียสละของผู้บริหารระดับกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และผู้อำนวยการใหญ่ ได้สมัครใจปรับลดเงินเดือนลง 15-25% และปรับลดค่าพาหนะลง 20-30% เป็นระยะเวลา 6 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมนี้ เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้บริษัทฯยังไม่มีมาตรการใดๆ ที่ส่งผลกระทบต่อพนักงาน
ด้านสำนักข่าว 'สเตรทไทม์' ของสิงคโปร์ รายงานว่า ได้รับแจ้งข้อมูลว่า ขณะนี้สายการบินแห่งชาติสิงคโปร์แอร์ไลน์ (SIA) ได้ประสบปัญหาชะงักในการจ้างงานและต้องหาทางที่จะลดค่าใช้จ่าย รวมถึงต้องขอให้พนักงานลาพักร้อนโดยไม่จ่ายค่าจ้าง หลังจากที่สายการบินต้องเผชิญภาวะการลดเที่ยวบินมาสามรอบแล้ว
"ตอนนี้สายการบินต้องเผชิญกับภาวะการมีพนกงานมากเกินไป โดยขณะนี้สายการบินแห่งนี้มีลูกเรือ500 คนและนักบินอีก 50 คน ดังนั้นนี่หมายความว่าจะต้องมีการลดชั่วโมงบินลงมาอีก" สเตรทไทม์รายงาน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา นายพิทยา ทิพยโสตถิ ประธานกรรมการ สหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานบริษัท การบินไทย จำกัด ออกแถลงการณ์แจ้งสมาชิกว่า ตามที่มีข่าวลือว่าบริษัท การบินไทย จะประกาศสั่งให้ลดเวลาการทำงานจากสัปดาห์ละ 5 วัน เหลือ 4 วัน และทุกคนในบริษัทจะถูกลดเงินเดือนลง 20% รวมทั้งมีข่าวเท็จอื่นๆที่อาจทำให้สมาชิกหลายๆ มีความไม่สบายใจในเรื่องความมั่นคงของสหกรณ์ฯ นั้น
คณะกรรมการฯ ขอเรียนชี้แจงให้ทราบว่า สหกรณ์ฯ มีแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว คือ การปรับโครงสร้างหนี้ให้กับสมาชิก โดยผ่อนชำระหนี้ลดลง ระยะเวลายาวขึ้น เพื่อให้สามารถดำรงชีพอยู่ได้ และสหกรณ์ก็ได้รับชำระหนี้ครบถ้วน เมื่อสมาชิกดีขึ้นไม่เดือดร้อน ก็สามารถมายกเลิกโครงการได้
แถลงการณ์ยังระบุว่า ปัจจุบันนี้ สหกรณ์ฯมีสินทรัพย์รวม 61,000 ล้านบาทเศษ ได้แบ่งพอร์ตในการลงทุน โดยให้สมาชิกกู้ยืมประมาณ 40% ส่วนอีก 60% ลงทุนในตราสารหนี้ กองทุนส่วนบุคคล และให้สหกรณ์ฯอื่นกู้ยืม ซึ่งเป็นข้าราชการสามารถหัก ณ ที่จ่ายได้ สำหรับผลการดำเนินงานปี 2563 ในรอบระยะเวลา 1 เดือน ณ วันที่ 31 ม.ค.2563 สหกรณ์ฯมีกำไรสุทธิ 143.07 ล้านบาท
ดังนั้น จึงขอให้สมาชิกทุกทนอยาตื่นตระหนก และเชื่อมั่นในการบริหารจัดการของคณะกรรมการดำเนินการว่า สหกรณ์ฯมีความมั่นคง สามารถสร้างผลตอบแทนให้สมาชิกทุกท่านได้อย่างต่อเนื่อง
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/