ครม.ไฟเขียวต่ออายุสัมปทานทางด่วน BEM เป็นเวลา 15 ปี 8 เดือน
ครม.เห็นชอบต่ออายุสัมปทานทางด่วน BEM แล้ว หลังรัฐมนตรีทั้งฝั่งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ใช้เวลาถกเถียงกันนาน
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (18 ก.พ.) ที่ประชุมครม.มีมติเห็นชอบต่ออายุสัญญาสัมปทานทางด่วนระหว่างการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เป็นระยะเวลา 15 ปี 8 เดือน แต่เมื่อหักวันหยุดนักขัตฤกษ์ ซึ่งจะไม่มีการเรียกเก็บค่าทางผ่าน ก็เท่ากับระยะเวลาที่ BEM เรียกเก็บเงินได้จะอยู่ที่ 14 ปี 10 เดือน
“ในที่ประชุมครม. นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้เสนอเรื่องการต่ออายุสัมปทานทางด่วน BEM ให้คคม.พิจารณา ซึ่งที่ประชุมครม.ได้มีการถกเถียงกันอย่างกว้างขวางเป็นเวลานาน โดยมีรัฐมนตรีฝั่งที่เห็นด้วยกันฝั่งที่ไม่เห็นด้วย แต่สุดท้ายครม.ก็มีมติให้ต่ออายุสัมปทาน และให้ไปดำเนินการตามข้อเสนอของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง” แหล่งข่าวจากที่ประชุมครม.กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุมครม.ว่า เรื่องการต่ออายุสัญญาสัมปทานทางด่วนระหว่างการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และ BEM ได้ให้ผู้เกี่ยวข้องแถลงข่าวอย่างเป็นทางการให้ชัดเจนว่า จะต้องมีการดำเนินการอย่างไร
“ถ้าเราปล่อยไว้มันก็ได้แหละ แต่ความเสียหายจะมากขึ้นไปเรื่อย อันนี้ขอให้ไปฟังกัน ผมได้ให้มีการอัดเทปและส่งสื่อต่างๆ สำนักพิมพ์ทุกแห่ง ไม่อยากให้ใครไปใช้ประโยชน์อภิปรายบิดเบือนข้อเท็จจริง”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม.มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคม เสนอการต่อสัญญาทางด่วนเพื่อแก้ไขข้อพิพาทระหว่าง กทพ. และ BEM เพื่อระงับข้อพิพาทคดีทางด่วนที่มีมูลค่าที่ 58,873 ล้านบาท ได้แก่ การแก้ไขสัญญาโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 (ทางพิเศษศรีรัช รวมถึงส่วนดี) และการแกไขสัญญาโครงการทางด่วนสายบางปะอิน – ปากเกร็ด (ทางพิเศษอุดรรัถยา)
พร้อมกันนั้น ที่ประชุมครม.เห็นชอบให้กระทรวงการคลัง โดยสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) หารือกับกระทรวงคมนาคม และกทพ. เพื่อหาแนวทางบริหารจัดการที่เหมาะสม เพื่อมิให้ส่งผลต่อการประเมินผลการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจ ในกรณีที่ผลการดำเนินงานจากวิธีการทางบัญชีส่งผลต่อการประเมินผลการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจ
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเรื่องนี้เป็นกรณีที่มีทุนทรัพย์ในข้อพิพาทเป็นจำนวนเงินที่สูงมาก และเป็นเรื่องที่มีความซับซ้อน ประกอบกับเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต ดังนั้น จึงให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ไปดำเนินการตรวจสอบอีกทางหนึ่ง
รายงานข่าวจาก กทพ.แจ้งว่า ในวันพรุ่งนี้ (19 ก.พ.) จะมีการประชุมบอร์ดกทพ. โดยเรื่องสำคัญที่จะมีการหารือกัน ได้แก่ การแจ้งให้ทราบถึงการลาออกจากกทพ.ของนายวิชาญ เอกรินทรากุล รองผู้ว่าการฝ่ายกลยุทธ์และแผนงาน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการ กทพ. พร้อมทั้งจะมีการแต่งตั้งรักษาการผู้ว่าการ กทพ. คนใหม่ ซึ่งก็คือนายดำเกิง ปานขำ รองผู้ว่าการ ฝ่ายปฏิบัติการ กทพ. ซึ่งมีอาวุโสสุงสุด
นอกจากนี้ บอร์ด กทพ.จะหารือแนวทางการบริหารจัดการทางพิเศษศรีรัช (ส่วน A ส่วน B และส่วน C) ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง
อ่านประกอบ :
สลค.ร่อนหนังสือด่วนที่สุด ชี้ปมต่ออายุสัมปทานทางด่วน BEM 'ไม่สอดคล้อง' มติครม.
‘วิชาญ’ ทิ้งเก้าอี้รักษาการผู้ว่าฯ กทพ. หนีเซ็นต่อสัมปทานทางด่วน ‘BEM’
เปิดร่างสัญญาต่ออายุสัมปทาน 'ทางด่วน' 'กทพ.-บีอีเอ็ม’ (ตอน 1)
เปิดร่างสัญญาต่ออายุสัมปทาน ‘ทางด่วน’ กทพ.ต้องระวังเกิดข้อพิพาทซ้ำซาก (ตอนจบ)
เบื้องลึก ‘สุชาติ’ ทิ้งเก้าอี้ผู้ว่าฯกทพ. รับเสี่ยงไม่ไหว ‘ก.หูกวาง’ ล้วงลูกเบ็ดเสร็จ?
'สุชาติ' ยื่นหนังสือลาออก 'ผู้ว่าการ กทพ.'
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/