ป.ป.ช.ฟันอดีตนายกอบต.กมลา ภูเก็ต-พวก บูรณะเขื่อนแพงเกินจริง 3.2 ล.
เผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด 'จรัล สารรักษ์' อดีต นายก อบต.กมลา จว.ภูเก็ต พร้อมรองฯ -ช่างผังเมืองโยธารวม 4 ราย คดีถูกกล่าวหาทุจริตก่อสร้างเขื่อน-บูรณะถนนแอสฟัลท์ติก คอนกรีต หมู่ที่ 3 วงเงินกว่า 26 ล้าน แพงเกินจริง 3.2 ล้าน ส่งอสส.ฟ้องดำเนินคดีตามกม.แล้ว หลังรับเรื่องเข้าสู่กระบวนการไต่สวนตั้งแต่ช่วงปี 57
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด นายจรัล สารรักษ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) กมลา อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต (ประธานคณะกรรมการกำหนดราคากลาง) และพวก 4 รายประกอบไปด้วย นายสุวิทย์ ดุมลักษณ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลกมลา อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต (คณะกรรมการตรวจการจ้าง) นายสันติ อรรถทรัพย์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รองนายกองค์การบริหารส่วน ตำบลกมลา อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต (คณะกรรมการตรวจการจ้าง) นายรัฐพงศ์ อักษรวงศ์ นายช่างผังเมือง 3 องค์การบริหารส่วนตำบลกมลา อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต (คณะกรรมการตรวจการจ้าง) และนายจีรนัย สืบโสตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ช่างโยธา 4 องค์การบริหารส่วนตำบลกมลา อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต (ผู้ควบคุมงานจ้าง) กรณีถูกกล่าวหา ทุจริตในการก่อสร้างเขื่อน และบูรณะถนนแอสฟัลท์ติก คอนกรีต หมู่ที่ 3
โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วเห็นว่า นายจรัล สารรักษ์ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 90 และมาตรา 91 มีมูลความผิดฐานกระทำการฝ่าฝืน ต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพ ของประชาชน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตาม หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและ องค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 92
ส่วน นายสุวิทย์ ดุมลักษณ์ และนายสันติ อรรถทรัพย์ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ มีมูลความผิดฐานกระทำการฝ่าฝืน ต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพ ของประชาชน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตาม หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจ หน้าที่ ตามพระราชบัญญัติสภาตำบล และองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 92
นายรัฐพงศ์ อักษรวงศ์ และ นายจีรนัย สืบโสตร มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่น ได้ประโยชน์ที่มิควรได้ เป็นการทุจริตต่อ หน้าที่ราชการ ฐานปฏิบัติหน้าที่ราชการ โดยจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ของทางราชการ มติคณะรัฐมนตรีหรือ นโยบายของรัฐบาล อันเป็นเหตุให้เสียหาย แก่ราชการอย่างร้ายแรง และฐานกระทำ การอื่นใดอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่ว อย่างร้ายแรง ตามประกาศคณะกรรมการ พนักงานส่วนตำบลจังหวัดภูเก็ต เรื่อง หลักเกณฑ์ และเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย การให้ออกจากราชการ การอุทธรณ์ และการร้องทุกข์ ลงวันที่ 25 ธันวาคม 2544 ข้อ 3 วรรคสาม ข้อ 6 วรรคสอง และข้อ 19 วรรคสอง
เบื้องต้น ได้มีการส่งสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริง ไปยังผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอน เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ และไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนิน คดีอาญาแล้ว เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 62 ที่ผ่านมา
อนึ่งก่อนหน้านี้ ในช่วงเดือนพ.ย.2557 สำนักข่าวอิศรา นำเสนอข่าวไปแล้วว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติตั้งองค์คณะพนักงานไต่สวน นายจรัล สารรักษ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายก อบต. กมลา และพวกรวม 11 คน กรณีการจัดจ้างโครงการก่อสร้างบูรณะเขื่อนหินคอนกรีตสำเร็จรูปริมคลองนอกเลของ อบต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต กำหนดราคากลางโดยไม่ได้คำนวณมาจากการถอดแบบรูปรายการ ไม่ควบคุมงานก่อสร้าง และตรวจรับงานให้เป็นไปตามรูปแบบรายการและข้อกำหนดในสัญญา ไม่ขอแก้ไขแบบรูปรายการต่อเจ้าของงบประมาณและหรือผู้ว่าจ้างในกรณีที่มีการคำนวณราคาค่างานเพิ่ม-ลด สำหรับการก่อสร้างที่ไม่เป็นไปตามแบบรูปรายการและข้อกำหนดในสัญญา และใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้รับจ้าง
โดยในกรณีนี้มีผู้ถูกกล่าวหาทั้งสิ้น 11 คน คือ 1.นายจรัล 2.นายการุณ ศรีเด่น รองนายก อบต.กมลา 3.นายสนธยา สุนธารักษ์ รองนายก อบต.กมลา 4.นายสุวิทย์ คุมลักษณ์ รองนายก อบต.กมลา 5.นายสันติ อรรถทรัพย์ รองนายก อบต.กมลา 6.นายบำรุง พิมลรัตนกานต์ หัวหน้าส่วนโยธา 7.นายจีรนัย สืบโสตร นายช่างโยธา 4 8.นายรัฐพงศ์ อักษรวงศ์ นายช่างผังเมือง 3 9.นายธนัง ชูชาติ ผู้ช่วยนายช่างผังเมือง 10.นางจรีย์ โภคบุตร ผู้แทนฝ่ายกลุ่มประชาชน หมู่ที่ 3 11.นายอธิคม อะนะบุหรง ผู้แทนฝ่ายกลุ่มประชาชน หมู่ที่ 6
พฤติการณ์ในการกระทำความผิด สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) โดย สตง.ภูมิภาคที่ 13 (จ.สุราษฎร์ธานี) ได้ตรวจสอบสืบสวนโครงการก่อสร้างบูรณะเขื่อนหินคอนกรีตสำเร็จรูปริมคลองนอกเล ของ อบต.กมลา ลงวันที่ 10 สิงหาคม 2548 วงเงินงบประมาณ 26,465,000 บาท พบว่า เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการดังกล่าว มีพฤติการณ์ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริต ทำให้เกิดความเสียหายแก่ อบต.กมลา ดังนี้
1.1 คณะกรรมการกำหนดราคากลาง ประกอบด้วย นายจรัล นายการุณ นายสนธยา นายบำรุง นายจีรนัย นายรัฐพงศ์ และนายธนัง ได้ร่วมกันกำหนดราคากลางไว้เป็นเงิน 26,465,000 บาท โดยไม่ได้คำนวณมาจากการถอดแบบรูปรายการ แต่นำมาจากราคาที่นายธนัง ผู้ออกแบบโครงการได้เคยประมาณราคาไว้สำหรับเป็นเอกสารประกอบการของบประมาณโครงการนี้ มาใช้กำหนดเป็นราคากลาง ซึ่งเป็นการไม่ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2544 เรื่อง หลักเกณฑ์การกำหนดราคากลางงานก่อนสร้าง เป็นเหตุให้ อบต.กมลา ต้องทำสัญญาจ้างสูงกว่าความเป็นจริง เป็นเงิน 3,266,629 บาท
1.2 ผู้ควบคุมงานและคณะกรรมการตรวจการจ้าง ได้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยไม่ได้ควบคุมงานก่อสร้างและตรวจรับงานให้เป็นไปตามรูปแบบรายการและข้อกำหนดในสัญญา
1.3 เมื่อผู้ควบคุมงานได้คำนวณราคาค่างาน เพิ่ม-ลด กรณีที่ก่อสร้างไม่เป็นไปตามแบบรูปรายการและข้อกำหนดในสัญญาแล้ว สรุปได้ว่า ราคางานลดลงจากสัญญา เป็นเงิน 571,495 บาท และได้นำเสนอต่อคณะกรรมการตรวจการจ้างและนายก อบต.กมลา ในฐานะผู้ว่าจ้าง ซึ่งได้รับการอนุมัติตามที่เสนอ ต่อมาเมื่อมีการจ่ายเงินค่าจ้างและได้ตัดเงินส่วนนี้ไว้เรียบร้อยแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไม่ได้ขอแก้ไขแบบรูปรายการต่อเจ้าของงบประมาณและหรือผู้ว่าจ้าง ถือว่าเป็นการไม่ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุของ อบต. พ.ศ.2538 (แก้ไขเพิ่มเติม) ข้อ 48 และข้อ 49
1.4 หจก.ณัฏฐนนท์ ซัพพลาย ผู้รับจ้าง ได้ส่งมอบงานล่าช้ากว่ากำหนดในสัญญาเป็นเวลา 31 วัน ซึ่งผู้ควบคุมงานและคณะกรรมการตรวจการจ้างได้พิจารณาข้อเท็จจริงตามรายงานการควบคุมงานระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน 2548-31 ธันวาคม 2548 พบว่า ผู้รับจ้างได้เข้าไปปฏิบัติงานจ้างตามสัญญามาโดยตลอด มีบันทึกลายมือชื่อผู้ควบคุมงานทั้งฝ่ายผู้รับจ้างและฝ่ายผู้จ้างไว้เป็นหลักฐาน จึงไม่มีเหตุที่จะงดค่าปรับได้ และเสนอให้ปรับผู้รับจ้างตามสัญญาวันละ 26,465 บาท รวมเป็นเงิน 820,415 บาท แต่นายจรัล ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้รับจ้าง โดยการสั่งให้จ่ายเงินค่าจ้างแก่ผู้รับจ้างเต็มจำนวน ไม่มีการหักค่าปรับ เป็นเหตุให้ อบต.กมลา ได้รับความเสียหาย
ขณะที่ในการเผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดในคดีล่าสุดนี้ ปรากฎชื่อบุคคลที่ถูกชี้มูลความผิดเพียงแค่ นายจรัล สารรักษ์ และพวก 4 รายประกอบไปด้วย นายสุวิทย์ ดุมลักษณ์ นายสันติ อรรถทรัพย์ นายรัฐพงศ์ อักษรวงศ์ นายจีรนัย สืบโสตร เท่านั้น
อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/