กลุ่มซีพีฯพ่ายยกแรก! ศาลปค.ฯ ยกคำขอคุ้มครองชั่วคราวฟ้องมติเลือกเอกชนพัฒนาอู่ตะเภาฯ
ศาลปค.กลาง มีคำสั่งยกคำขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครองกรณีกลุ่มบ.ธนโฮลดิ้ง-พันธมิตร ค้านมติเลือกเอกชนพัฒนาอู่ตะเภาฯ2แสนล. ชี้ยังรับฟังไม่ได้ว่าคำสั่งพิพาทน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ครบองค์ประกอบแห่งเงื่อนไขที่จะคุ้มครองชั่วคราวก่อนการพิพากษา
สืบเนื่องจาก ตัวแทนกลุ่มกิจการค้าร่วมบริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร ประกอบไปด้วย 1. บริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด ของเครือเจริญโภคภัณฑ์หรือซีพี 2. บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) 3. บริษัท ช. การช่าง จำกัด (มหาชน)4. บี.กริม จอยน์ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง จำกัด และ 5. Orient Success International Limited ได้ใช้สิทธิยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอความเป็นธรรมเกี่ยวกับมติและคำสั่งของคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก มูลค่าลงทุนกว่า 200,000 ล้านบาท มีกองทัพเรือ เป็นหน่วยงานเจ้าของโครงการ โดยอ้างว่า มีข้อมูลที่อาจส่งผลกระทบต่อโครงการ และได้ยื่นคำร้องต่อศาลขอไต่สวนฉุกเฉินคดีนี้ ซึ่งศาลปกครองกลาง ได้นัดคู่ความทั้งสองฝ่ายไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 16 พ.ค. 62 ที่ผ่านมา โดยศาลปกครองกลางได้รับฟัง และสอบถามให้เกิดความชัดเจนเพื่อประกอบการพิจารณาเรียบร้อยแล้ว พร้อมอนุญาตให้คู่ความทั้งสองฝ่ายสามารถส่งเอกสารชี้แจงเพิ่มเติมประกอบได้ภายใน 7 วัน (อ่านประกอบ : อุบผลไต่สวนมูลฟ้องค้านมติเลือกเอกชนพัฒนาอู่ตะเภาฯ2แสนล.- รองผบ.ทร. ขอทำข่าวแจก17 พ.ค.นี้, ทร.ยันโครงการสนามบินอู่ตะเภาเป็นธรรม-คาดพิจารณาคุณสมบัติเสร็จก่อนสิ้น พ.ค.)
ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 พ.ค.2562 ศาลปกครองกลางมีคำสั่งยกคำขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครอง ในคดีหมายเลขดำที่ 757/2562 ระหว่าง บริษัทธนโฮลดิ้ง จำกัด ผู้ฟ้องคดีที่ 1 บริษัทบี.กริม จอยน์ เว็นเจอร์ โฮลดิ้ง จำกัด ผู้ฟ้องคดีที่ 2 บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ผู้ฟ้องคดีที่ 3 บริษัท ช. การช่าง จำกัด (มหาชน) ผู้ฟ้องคดีที่ 4 และบริษัทโอเรียนท์ซัคเซส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ฟ้องคดีที่ 5 คณะกรรมการคัดเลือกของโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ผู้ถูกฟ้องคดี
คดีนี้ผู้ฟ้องคดีทั้งห้าฟ้องว่า ผู้ฟ้องคดีทั้งห้าในนาม “กลุ่มกิจการค้าร่วมบริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร” ได้ยื่นข้อเสนอร่วมลงทุนกับรัฐในโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ซึ่งเจ้าหน้าที่ของผู้ถูกฟ้องคดีได้ออกหลักฐานการยื่นซองข้อเสนอให้แก่ผู้ฟ้องคดีทั้งห้าแล้ว โดยข้อเสนอทั้งหมดประกอบด้วย เอกสารซองที่ไม่ปิดผนึก เอกสารซองที่ 1 คุณสมบัติทั่วไป เอกสารซองที่ 2 ข้อเสนอด้านเทคนิคและแผนธุรกิจ เอกสารซองที่ 3 ข้อเสนอด้านราคา และเอกสารซองที่ 4 ข้อเสนออื่น ๆ รวม 11 กล่อง และกล่องสำเนา แต่ต่อมา ผู้ถูกฟ้องคดีได้มีหนังสือแจ้งผลการยื่นข้อเสนอว่า ผู้ถูกฟ้องคดีมีมติไม่รับข้อเสนอในส่วนของซองที่ 2 ข้อเสนอด้านเทคนิคและแผนธุรกิจ กล่องที่ 6 และซองที่ 3 ข้อเสนอด้านราคา กล่องที่ 9 เนื่องจากเป็นเอกสารที่ยื่นภายหลังกำหนดเวลาการยื่นข้อเสนอ ผู้ฟ้องคดีทั้งห้าเห็นว่า คำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงนำคดีมาฟ้องต่อศาล ขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนมติของผู้ถูกฟ้องคดีที่ไม่รับซองข้อเสนอดังกล่าว พร้อมทั้งมีคำขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนการพิพากษา ให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีรับซองข้อเสนอของผู้ฟ้องคดีทั้งห้าไว้พิจารณาตามขั้นตอนการคัดเลือกผู้ร่วมลงทุนต่อไป
ศาลปกครองกลางพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คำขอของผู้ฟ้องคดีทั้งห้า เป็นคำขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครอง ซึ่งศาลจะมีคำสั่งกำหนดมาตรการทุเลาการบังคับได้เมื่อมีองค์ประกอบครบทั้งสามประการ คือกฎหรือคำสั่งทางปกครองที่เป็นเหตุแห่งการฟ้องคดีนั้นน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย 2. การให้กฎหรือคำสั่งทางปกครองดังกล่าวมีผลใช้บังคับต่อไปจะทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงที่ยากแก่การเยียวยาแก้ไขในภายหลัง และ 3. การทุเลาการบังคับตามกฎหรือคำสั่งทางปกครองนั้นไม่เป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของรัฐหรือแก่การบริการสาธารณะ ตามมาตรา 66 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 ประกอบข้อ 72 วรรคสาม แห่งระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2543 โดยมีปัญหาที่ต้องพิจารณาในประการแรกว่า มติของผู้ถูกฟ้องคดีที่ไม่รับซองข้อเสนอบางส่วนของผู้ฟ้องคดีทั้งห้าไว้พิจารณา น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ โดยที่เอกสารการคัดเลือกเอกชน โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาฯ ข้อ 31 (1) กำหนดว่า กองทัพเรือจะเปิดให้มีการรับซองข้อเสนอในวันที่ 21 มีนาคม 2562 เวลา 9.00 นาฬิกา และปิดการรับซองในวันเดียวกัน เวลา 15.00 นาฬิกา และ (3) กำหนดว่า ผู้ถูกฟ้องคดีจะไม่รับซองเอกสารข้อเสนอที่ยื่นภายหลังกำหนดเวลาการยื่นซองเอกสารข้อเสนอตามที่ระบุในข้อ 31 (1) ข้อเท็จจริงปรากฏว่า ผู้ฟ้องคดีทั้งห้ากับผู้ยื่นข้อเสนออีกสองรายได้ไปยังสถานที่รับซองข้อเสนอและลงทะเบียนก่อนเวลา 15.00 นาฬิกา
อย่างไรก็ตาม การลงทะเบียนดังกล่าวเป็นเพียงการแจ้งในเบื้องต้นว่า ได้ไปถึงสถานที่รับซองข้อเสนอและประสงค์ยื่นข้อเสนอเท่านั้น โดยการรับข้อเสนอจะครบถ้วนตามขั้นตอนก็เมื่อผู้ยื่นข้อเสนอได้ส่งมอบซองข้อเสนอและกล่องเอกสารให้แก่เจ้าหน้าที่ของผู้ถูกฟ้องคดีก่อนเวลา 15.00 นาฬิกา ผู้ถูกฟ้องคดีชี้แจงในชั้นไต่สวนว่า ผู้ฟ้องคดีทั้งห้ายื่นส่งเอกสารกล่องที่ 6 กับกล่องที่ 9 เกินเวลาปิดรับซอง โดยแสดงพยานหลักฐานเป็นภาพถ่ายบุคคลยกกล่องเอกสารดังกล่าวไปถึงจุดลงทะเบียนในเวลาประมาณ 15.09 นาฬิกา และผู้ฟ้องคดีทั้งห้ายอมรับตามคำแถลงชี้แจงเพิ่มเติมว่า เอกสารข้อเสนอของผู้ฟ้องคดีทั้งห้า กล่องที่ 6 และกล่องที่ 9 ไปถึงห้องรับรองชาวต่างประเทศ กองบัญชาการกองทัพเรือ ในเวลา 15.08 นาฬิกา เหตุที่ล่าช้าเนื่องจากในวันดังกล่าวการจราจรติดขัดมาก ข้อเท็จจริงในชั้นนี้เป็นอันรับฟังได้ว่า เอกสารข้อเสนอ กล่องที่ 6 และกล่องที่ 9 ของผู้ฟ้องคดีทั้งห้าไปถึงสถานที่รับซองข้อเสนอภายหลังกำหนดเวลาปิดรับซองข้อเสนอ ซึ่งข้อ 31(3) ของเอกสารการคัดเลือกเอกชน กำหนดห้ามผู้ถูกฟ้องคดีรับซองเอกสารข้อเสนอที่ยื่นภายหลังกำหนดเวลาดังกล่าว ดังนั้น การที่ผู้ถูกฟ้องคดีมีมติไม่รับซองข้อเสนอดังกล่าว จึงฟังไม่ได้ว่าเป็นคำสั่งที่น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ส่วนการที่ผู้ฟ้องคดีทั้งห้าอ้างว่า ผู้ถูกฟ้องคดีไม่ได้ถือเอากำหนดเวลายื่นและรับซองข้อเสนอเป็นสาระสำคัญและได้ขยายระยะเวลาการรับซองข้อเสนอโดยปริยายนั้น ประเด็นดังกล่าวเป็นข้อโต้แย้งที่ศาลจะต้องพิเคราะห์ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องเพื่อวินิจฉัยในเนื้อหาคดีต่อไป เมื่อในชั้นนี้ยังรับฟังไม่ได้ว่าคำสั่งพิพาทน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว กรณีก็ไม่จำต้องพิจารณาเงื่อนไขแห่งการมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนการพิพากษาประการอื่นอีกต่อไป เนื่องจากถึงอย่างไรก็ตามก็ไม่ครบองค์ประกอบแห่งเงื่อนไขทั้งสามประการ ที่ศาลจะมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนการพิพากษา โดยให้ทุเลาการมีผลของคำสั่งไม่รับซองข้อเสนอบางส่วนของผู้ถูกฟ้องคดี ตามหนังสือสำนักงานบริหารเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกของกองทัพเรือ ด่วนมากที่ กพอ.ทร.182/2562 ลงวันที่ 10 เมษายน 2562 ตามคำขอของผู้ฟ้องคดีทั้งห้าจึงมีคำสั่งยกคำขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครองของผู้ฟ้องคดีทั้งห้า
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/