คุก11 ราย! คดีเทศบาลหนองบัวลำภูซื้อรถรับส่งนักเรียน-อดีตนายกฯ โดน 3 ปี 9 ด.แต่รอลงโทษ

เขียนวันที่

วันพุธ ที่ 22 พฤษภาคม 2562 เวลา 09:17 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

ข่าว | Isranews | ข่าวทั่วไปศูนย์ข่าวสืบสวน | เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา

Tags

เทศบาลเมืองหนองบัวลำภู | ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง | สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

เผยคำพิพากษาศาลฯ ชี้โทษจำเลย 12 ราย คดีจัดซื้อรถไมโครบัสรับส่งนักเรียนโดยมิชอบ-ผ่านการใช้งานแล้ว เทศบาลเมืองหนองบัวลำภู 'รักพงษ์ ณ อุบล' อดีตนายกฯ โดนด้วย 3 ปี 9 เดือน ปรับ 27,000 บาท แต่รอการลงโทษจำคุกไว้ 3 ปี -มี 4 ราย ติดคุกจริง

picminibussss22 5 19

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่คำพิพากษาคดีกล่าวหานายรักพงษ์ ณ อุบล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองหนองบัวลำภู อำเภอเมืองหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู กับพวกรวม 12 ราย จัดซื้อรถยนต์โดยสารไมโครบัส สำหรับรับส่งนักเรียนโดยมิชอบด้วยระเบียบ และเป็นรถที่ผ่านการใช้งานแล้ว ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 , 162 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 ส.ค.2559 ที่ผ่านมา

โดยเมื่อวันที่ 27 ก.ย.2560 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษาว่า นายรักพงษ์ ณ อุบล จำเลยที่ 1 นายวีระ หรือพิสิษฐ์ วงษ์มา จำเลยที่ 2 นายวสันต์ เสนศิริวรวงศ์ จำเลยที่ 3 นายวัฒนา สมุทรโคตา จำเลยที่ 4 นางศรีประไพ หรือ ศุภาพิชญ์ คำสุพรหม จำเลยที่ 5 นายสมบัติ หล้าฤทธิ์ จำเลยที่ 6 นายสุพงศ์ อุทาทิพย์ จำเลยที่ 7 นางธดากรณ์ บัวชัย จำเลยที่ 8 นายทองหล่อ ชาวสวน จำเลยที่ 9 นางฉวีวรรณ ปัญนาวี จำเลยที่ 10 นางสุภาภรณ์ ศรัณย์เกตุ จำเลยที่ 11 และบริษัท สมาร์ทลีด จำกัด จำเลยที่ 12

มีความผิดตามกฎหมาย ในรายละเอียดดังนี้

นายรักพงษ์ ณ อุบล จำเลยที่ 1 นายวีระ หรือพิสิษฐ์ วงษ์มา จำเลยที่ 2 นายวสันต์ เสนศิริวรวงศ์ จำเลยที่ 3 นายวัฒนา สมุทรโคตา จำเลยที่ 4 นางศรีประไพ หรือ ศุภาพิชญ์ คำสุพรหม จำเลยที่ 5 และ นายสุพงศ์ อุทาทิพย์ จำเลยที่ 7 นางธดากรณ์ บัวชัย จำเลยที่ 8 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 83 (มาตรา 151 "ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสี่หมื่นบาท")

นายวสันต์ เสนศิริวรวงศ์ จำเลยที่ 3 นายวัฒนา สมุทรโคตา จำเลยที่ 4 และ นายสมบัติ หล้าฤทธิ์ จำเลยที่ 6 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 162 ประกอบมาตรา 83 (มาตรา 162 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ทำเอกสาร รับเอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสาร กระทำการดังต่อไปนี้ในการปฏิบัติการตามหน้าที่ (1) รับรองเป็นหลักฐานว่า ตนได้กระทำการอย่างใดขึ้น หรือว่าการอย่างใดได้กระทำต่อหน้าตนอันเป็นความเท็จ (2) รับรองเป็นหลักฐานว่า ได้มีการแจ้งซึ่งข้อความอันมิได้มีการแจ้ง (3) ละเว้นไม่จดข้อความซึ่งตนมีหน้าที่ต้องรับจด หรือจดเปลี่ยนแปลงข้อความเช่นว่านั้น หรือ (4) รับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้น มุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นความเท็จ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี และปรับไม่เกินหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท)

นายรักพงษ์ ณ อุบล จำเลยที่ 1 นายวีระ หรือพิสิษฐ์ วงษ์มา จำเลยที่ 2 นายวสันต์ เสนศิริวรวงศ์ จำเลยที่ 3 นายวัฒนา สมุทรโคตา จำเลยที่ 4 นางศรีประไพ หรือ ศุภาพิชญ์ คำสุพรหม จำเลยที่ 5 นายสมบัติ หล้าฤทธิ์ จำเลยที่ 6 นายสุพงศ์ อุทาทิพย์ จำเลยที่ 7 นางธดากรณ์ บัวชัย จำเลยที่ 8 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 (มาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ)

นายทองหล่อ ชาวสวน จำเลยที่ 9 นางฉวีวรรณ ปัญนาวี จำเลยที่ 10 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 , 162 ประกอบมาตรา 86

นางสุภาภรณ์ ศรัณย์เกตุ จำเลยที่ 11 และบริษัท สมาร์ทลีด จำกัด จำเลยที่ 12 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151,157 และ 162 ประกอบมาตรา 86

ส่วนการลงโทษจำคุกและปรับจำเลยแต่ละราย มีรายละเอียดดังนี้

นายรักพงษ์ ณ อุบล จำเลยที่ 1 นายวีระ หรือพิสิษฐ์ วงษ์มา จำเลยที่ 2 นายวสันต์ เสนศิริวรวงศ์ จำเลยที่ 3 นายวัฒนา สมุทรโคตา จำเลยที่ 4 และ นายสุพงศ์ อุทาทิพย์ จำเลยที่ 7 นางธดากรณ์ บัวชัย จำเลยที่ 8 จำคุก คนละ 3 ปี 9 เดือน ปรับคนละ 27,000 บาท

นางศรีประไพ หรือ ศุภาพิชญ์ คำสุพรหม จำเลยที่ 5 จำคุก 3 ปี 9 เดือน

นายสมบัติ หล้าฤทธิ์ จำเลยที่ 6 จำคุก 1 ปี 6 เดือน ปรับ 13,500 บาท

นายทองหล่อ ชาวสวน จำเลยที่ 9 นางฉวีวรรณ ปัญนาวี จำเลยที่ 10 จำคุก คนละ 1 ปี ปรับคนละ 9,000 บาท

นางสุภาภรณ์ ศรัณย์เกตุ จำเลยที่ 11 จำคุก 2 ปี 6 เดือน ปรับ 18,000 บาท

บริษัท สมาร์ทลีด จำกัด จำเลยที่ 12 ปรับ 18,000 บาท

อย่างไรก็ดี โทษจำคุก ในส่วนของ นายรักพงษ์ ณ อุบล จำเลยที่ 1 นายวีระ หรือพิสิษฐ์ วงษ์มา จำเลยที่ 2 นายวสันต์ เสนศิริวรวงศ์ จำเลยที่ 3 นายวัฒนา สมุทรโคตา จำเลยที่ 4 และ นายสมบัติ หล้าฤทธิ์ จำเลยที่ 6 นายสุพงศ์ อุทาทิพย์ จำเลยที่ 7 นางธดากรณ์ บัวชัย จำเลยที่ 8 นายทองหล่อ ชาวสวน จำเลยที่ 9 นางฉวีวรรณ ปัญนาวี จำเลยที่ 10 นางสุภาภรณ์ ศรัณย์เกตุ จำเลยที่ 11 ให้รอก่อนลงโทษไว้คนละ 3 ปี

ส่วน นางศรีประไพ หรือ ศุภาพิชญ์ คำสุพรหม จำเลยที่ 5 ไม่รอการลงโทษ

ต่อมาเมื่อวันที่ 2 ส.ค.2561 ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่ปรับ ไม่รอการลงโทษจำคุก นายวีระ หรือพิสิษฐ์ วงษ์มา จำเลยที่ 2 นายวัฒนา สมุทรโคตา จำเลยที่ 4 นางธดากรณ์ บัวชัย จำเลยที่ 8

เท่ากับว่า คดีนี้ มีจำเลยที่ถูกตัดสินลงโทษจำคุก โดยไม่รอการลงโทษ จำนวน 4 ราย คือ นางศรีประไพ หรือ ศุภาพิชญ์ คำสุพรหม , นายวีระ หรือพิสิษฐ์ วงษ์มา , นายวัฒนา สมุทรโคตา และ นางธดากรณ์ บัวชัย

ขณะที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีการประชุมเมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2561 มีมติเห็นชอบตามความเห็นของอัยการสูงสูด ที่จะไม่ฎีกาคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์

# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/