- Home
- Isranews
- ข่าว
- 2 รายล่าสุด! ศาลฯสั่งจำคุก รองนายกฯอบต.ปัตตานี-สกลนคร จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน-รอลงโทษ1ปี
2 รายล่าสุด! ศาลฯสั่งจำคุก รองนายกฯอบต.ปัตตานี-สกลนคร จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน-รอลงโทษ1ปี
เผยคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง สั่งลงโทษจำคุก 2 รองนายกฯ อบต. ปัตตานี -สกลนคร จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน 'ดอรอแม กาซอ' โดน 2 กระทง 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท เจ้าตัวให้การรับสารภาพ ไม่เคยทำผิดมาก่อนรอการลงโทษไว้ 1 ปี
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 15 พ.ค.2562 ที่ผ่านมา ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่คำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารง ตําแหน่งทางการเมือง สั่งลงโทษจำคุกผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองท้องถิ่นจำนวน 2 ราย คือ นายดอรอแม กาซอ รองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลระแว้ง อําเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี และ นายครชัย เครือตาแก้ว รองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลบ้านโพน อําเภอโพนนาแก้ว จังหวัดสกลนคร ซึ่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดีจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบภายในเวลาที่กฎหมายกําหนด และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีพ้นจากตําแหน่ง และห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่งทางการเมืองหรือดํารงตําแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่พ้นจากตําแหน่ง กับลงโทษตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34, 119 ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 2 ราย ให้การรับสารภาพ
โดยนายดอรอแม กาซอ ศาลฯ มีคำพิพากษาว่า จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในเวลาที่กฎหมายกําหนด กรณีเข้ารับตําแหน่ง กรณีพ้นจากตําแหน่ง และกรณีพ้นจากตําแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดํารงตําแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลระแว้ง อําเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่งทางการเมืองหรือดํารงตําแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 6 กันยายน 2556 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตําแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในเวลาที่กฎหมายกําหนด กรณีพ้นจากตําแหน่งและกรณีพ้นจากตําแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี การกระทําของผู้ถูกกล่าวหาเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 จําคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจําคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจําคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจําคุกมาก่อนโทษจําคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกําหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 (อ่านคำพิพากษาประกอบ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/A/065/T_0014.PDF)
ส่วน นายครชัย เครือตาแก้ว ศาลฯ พิพากษาว่า จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในเวลาที่กฎหมายกําหนด กรณีพ้นจากตําแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดํารงตําแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลบ้านโพน อําเภอโพนนาแก้ว จังหวัดสกลนคร ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่งทางการเมือง หรือดํารงตําแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 6 กันยายน 2556 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตําแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 117 จําคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจําคุก 1 เดือน และปรับ 4, 000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจําคุกมาก่อนโทษจําคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกําหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 (อ่านคำพิพากษาประกอบประกอบ: http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/A/065/T_0019.PDF)
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/