- Home
- Isranews
- ข่าว
- ศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ บ.ซี.เจเคพี อิมปอร์ตฯคดีทุจริตคืนภาษีกลุ่ม 2 พันล.-หนุ่ม 20 ปี กก.
ศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ บ.ซี.เจเคพี อิมปอร์ตฯคดีทุจริตคืนภาษีกลุ่ม 2 พันล.-หนุ่ม 20 ปี กก.
ศาลล้มละลายสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด บ. ซี.เจเคพี อิมปอร์ต เอ็กซ์ปอร์ตฯ คดีทุจริตคืนภาษีกลุ่ม 2 พันล. อ้างนำเข้าส่งออกชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ ใช้หนุ่มวัย 20 ปี กก. โยงหลายแห่ง กรมสรรพากรตามฟ้องไล่หลัง
ถูกกรมสรรพากรและถูกศาลล้มละลายสั่งสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดอย่างต่อเนื่อง สำหรับบริษัทที่เกี่ยวข้องกับคดีทุจริตคืนภาษีมูลค่าเพิ่มกลุ่ม 4.3 พันล้านบาท และ กลุ่ม 2 พันล้านบาทของกรมสรรพากร
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 19 เม.ย.2562 ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ ประกาศเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เรื่อง คำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ราย บริษัท ซี.เจเคพี อิมปอร์ต เอ็กซ์ปอร์ต (2012) จำกัด ซึ่งเป็นเอกชนที่เกี่ยวข้องกับคดีทุจริตคืนภาษีกลุ่ม 2 พันล้านบาท ระบุว่า
ด้วย กรมสรรพากร โจทก์ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลล้มละลายกลางขอให้จำเลยล้มละลาย และศาลได้มี คำสั่งลงวันที่ 25 มีนาคม 2562 ให้พิทักษ์ทรัพย์ของบริษัทซี.เจเคพี อิมปอร์ต เอ็กซ์ปอร์ต (๒๐๑๒) จำกัด จำเลย เด็ดขาด ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 แล้ว จำเลย ทะเบียนนิติบุคคลเลขที่ 0105555049373 ที่อยู่ 38/35 ซอยพระยาสุเรนทร์ 40 แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร ดังนั้น นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่ง เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียว มีอำนาจจัดการเกี่ยวกับกิจการ และทรัพย์สินของลูกหนี้ ตามมาตรา 22แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 และบุคคล ผู้เป็นหนี้ลูกหนี้หรือมีทรัพย์สินของลูกหนี้อยู่ในครอบครอง มีหน้าที่ต้องแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับหนี้หรือทรัพย์สิน ของลูกหนี้ให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทราบ ภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ได้ทราบคำสั่งของเจ้าพนักงาน พิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรา 24/1 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 ซึ่งผู้ใดมีหน้าที่ตาม มาตรา 24/1 แล้วไม่ปฏิบัติตาม มีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาท ตามมาตรา 173/1 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 อนึ่ง เจ้าหนี้ซึ่งจะขอรับชำระหนี้ในคดีนี้ จะเป็นโจทก์หรือไม่ก็ตาม ต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่ฝ่ายคำคู่ความ สำนักงานเลขานุการกรม กรมบังคับคดี หรือ สำนักงานบังคับคดี ซึ่งจำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ ภายในกำหนดเวลา 2 เดือน นับแต่วันที่โฆษณาคำสั่งนี้ (ดูประกาศ
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/E/098/84.PDF)
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า บริษัท ซี. เจเคพี อิมปอร์ต เอ็กซ์ปอร์ต (2012) จำกัด จดทะเบียน 29 มี.ค. 55 [วันเดียวกับ บจ.เจเคพี อิมพอร์ต เอ็กซ์ปอร์ต (2012) และ บจ.เจเคพีเอ็กซ์ซิม (ไทยแลนด์)] ทุน 1 ล้านบาท ประกอบกิจการค้า นำเข้าและส่งออก อุปกรณ์ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ เน็ทเวิร์ค อุปกรณ์ต่อพ่วง รวมทั้งอุปกรณ์ ที่ตั้งเลขที่ 94/113 ถ.คู้บอน แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพ ฯ มีผู้ถือหุ้น 3 คน 1.นายนเรศ เลิศพรมาลัย อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 ซ.ประชาอุทิศ 75 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพ ฯ จำนวน 8,000 หุ้น 2.น.ส.บุญเลิศ มีจำรัส อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/67 หมู่ที่ 4 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จำนวน 1,000 หุ้น และ 3.นายคารม ทองบุญเลิศ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 ซ.เพชรเกษม 110 แยก 4-3-1 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กรุงเทพ ฯ จำนวน 1,000 หุ้น รวมทั้งสิ้น 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท ต่อมา 28 พ.ค. 55 จดทะเบียน นายฐาณุพงศ์ แสงวราพิพัฒน์ เข้าเป็นกรรมการ 11 ธ.ค. 55 จดทะเบียนแก้ไขสำนักงาน เป็นเลขที่ 38/35 ซ.พระยาสุเรนทร์ 40 แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพ ฯ กระทั่ง 22 ก.พ. 56 นายสมเกียรติ ศรีโรธ เข้าเป็นกรรมการ แทน นายฐานุพงศ์ แสงวราพิพัฒน์ ออก ไม่ปรากฏงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
กรรมการผู้คนจดทะเบียนและผู้รับมอบอำนาจยื่นจดทะเบียนมีความเชื่อมโยงกับบริษัทอื่นๆอีกหลายแห่ง (อ่านประกอบ:หนุ่มวัย 20 ปีโผล่อีกแห่ง นั่ง กก.เครือข่ายคืนภาษีกลุ่ม 2 พันล.-‘หน้าเดิม’ครบ)
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ:
ศาลพิทักษ์ทรัพย์ บ.เอชเค คดีทุจริตคืนภาษี 2 พันล. อ้างส่งออกชิ้นส่วนคอมฯ
อีกราย!ศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ บ.ส่งออกคอมฯ คดีทุจริตคืนภาษีกลุ่ม 2 พันล.