- Home
- Isranews
- ข่าว
- กลุ่มลูกขุนนิรันดร 'คณะราษฎร์’ แถลงฟ้องชิงมรดกหมื่นล.อ้างเจอนำที่ดินไปขายเพียบไม่แบ่งปัน
กลุ่มลูกขุนนิรันดร 'คณะราษฎร์’ แถลงฟ้องชิงมรดกหมื่นล.อ้างเจอนำที่ดินไปขายเพียบไม่แบ่งปัน
พล.ท.สรภฎ ลูกชายขุนนิรันดรชัย ‘คณะราษฎร์’ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวฟ้องพี่ชายต่างแม่ ขอแบ่งมรดกที่ดินกลางกรุง 4 หมื่นล. เป็นทางการ เผยเหตุนำที่ดินไปขายหลายร้อยไร่ โดยไม่แบ่งปันให้ทายาท หวังอนาคตลูกหลานมีความรักเอื้ออาทรต่อกันไม่ให้สิ่งใดมาบังตา ทําให้เกิดความขัดแย้งต้องฟ้องร้องคดีเหมือนยุคตน
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 พ.ย.2561 ที่ผ่านมา พล.ท.สรภฎ นิรันดร (ยศขณะนั้นเป็น พล.ต.) อดีตรองเจ้ากรมยุทธการทหารบก บุตรชายขุนนิรันดรชัย หรือ พ.ต.สเหวก นิรันดร เจ้าของที่ดินย่านธุรกิจใน กทม.กว่า 90 แปลง มูลค่าหลายหมื่นล้านบาท เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายธรรมนูญ นิรันดร พี่ชายต่างมารดา , นายธรรมรัชต์ นิรันดร บุตรชายนายธรรมนูญ ,นางเยาวนี นิรันดร บุตรสาวนายธรรมนูญ และบริษัท 31 สาธร จำกัด เป็นจำเลยที่ 1-4 ต่อศาลแพ่ง เพื่อขอให้เพิกถอนนิติกรรม แบ่งทรัพย์มรดก จำนวนทุนทรัพย์ 59,927,678 บาท โดยโจทก์บรรยายฟ้องสรุปความว่า โจทก์เป็นบุตรของ พ.ต.สเหวก นิรันดร หรือขุนนิรันดรชัย กับ นางแสงอรุณ สิงหะเสนี ภรรยาที่มิได้จดทะเบียนสมรส แต่โจทก์เป็นบุตรที่บิดาให้การรับรองบุตรแล้ว จึงเป็นทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกของขุนนิรันดรชัย บิดา ตามกฎหมาย โดยขุนนิรันดรชัย มีภรรยาทั้งหมด 4 คน มีบุตรรวม 13 คน แต่เดิม คุณหญิงจรูญ นิรันดร ภรรยาที่จดทะเบียนกับขุนนิรันดรชัย จะเป็นผู้จัดการมรดกและแบ่งปันทรัพย์มรดกที่ดินทั้งหมด ตามคำสั่งศาลแพ่ง
แต่ต่อมาปรากฏว่าคุณหญิงจรูญ ผู้จัดการมรดกได้เสียชีวิตลง โดยก่อนเสียชีวิตคุณหญิงจรูญได้มอบหมายและแต่งตั้งให้ นายธรรมนูญ จำเลยที่ 1 เป็นผู้จัดการทรัพย์มรดกให้แก่ทายาท ดังนั้น จำเลยที่ 1 จึงมีหน้าที่เป็นผู้จัดการมรดก ทรัพย์มรดกของขุนนิรุนดรชัย บิดาโจทก์ แต่ปรากฏข้อเท็จจริงในเวลาต่อมาว่า นายธรรมนูญ จำเลยที่ 1 มิได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต โดยร่วมกับบุตรชายและ บุตรสาว จำเลยที่ 2,3, และ จำเลยที่ 4 กระทำความผิดเบียดบัง ยักยอกเอาทรัพย์มรดกเป็นของตนหรือบุคคลที่สาม
ขณะที่ พล.ต.สรภฏ กล่าวว่า ปัจจุบัน นายธรรมนูญ จำเลยที่ 1พี่ชายต่างมารดา ซึ่งเป็นผู้จัดการกองมรดกมีอายุ 87 ปีแล้ว ขณะนี้มีอาการป่วยต้องมีคนคอยช่วยเหลือดูแล ซึ่งทรัพย์มรดกของขุนนิรันดรชัย บิดาโจทก์ที่ยังไม่ได้จัดการแบ่งให้ทายาทนั้น ที่สืบพบในตอนนี้ มีราคาประเมินประมาณ 40,000 ล้านบาท ตนประสงค์ที่จะให้ทายาททุกคนได้รับการแบ่งมรดกไปตามความเหมาะสม จึงมาขอพึ่งบารมีศาลในการจัดแบ่งกองมรดกของบิดา (อ่านประกอบ : 4หมื่นล้าน! ลูกชาย‘คณะราษฎร์’ฟ้องพี่ชายต่างแม่ ขอแบ่งมรดกที่ดินกลางกรุง)
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า เมื่อวันที่ 20 มี.ค.2562 พล.ท.สรภฎ พร้อมด้วยนายธรรมเรศร์ นิรันดร,นางเยาวรัตน์ นิรันดร, บุตรสาวของนายธรรมนูญ และนางพักตรพิมล นิรันดร ได้ร่วมกันเปิดแถลงข่าวถึงกรณีดังกล่าว
โดยระบุว่า " ผม พล.ท. สุรภูฏ นิรันดร อดีตรองเจ้ากรมยุทธการ ทหารบก เตรียมทหารรุ่น 5 จปร.รุ่น 16 ศิษย์เก่าเซนตคาเบรียล รุ่น 03 ศิษย์เก่าเตรียมอุดมรุ่น 23 ขอเรียนให้ สื่อมวลชน เพื่อกรุณาทราบดังนี้
ตระกูล นิรันดร เป็นตระกูลที่ได้รับพระราชทาน นามสกุลให้แก่บิดาของผม คือ ขุนนิรันดรชัย หรือ พต.สเหวก นิรันดร อดีตนักเรียนนายร้อยรุ่นที่ผม เคยเป็นผู้บังคับกองร้อยกรมทหารรุ่นผู้ใหญ่ที่ 1 และเป็น ผู้เข้าร่วม เปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475 ต่อมาได้ดํารงตําแหน่งราชเลขา ในรัชกาลที่ 8 จากนั้นได้ลาออกจากราชการ เพื่อมาก่อตั้งธนาคารหลวง และได้ดํารงตําแหน่งเป็นประธานธนาคารนครหลวง ต่อจากอดีต - นายกรัฐมนตรี หลวงธํารงนาวาสวัสดิ์ ในสมัยนั้นคุณพ่อ จึงเป็นมหาเศรษฐี คุณพ่อมีทายาทคือบุตรสาวบุตรชาย รวม 13 คน มีลูกที่เกิดจากคุณหญิงคือ แม่ใหญ่ 8 คน มีลูกที่เกิดจากภรรยารองอีก 5 คน ลูกทุกคน ได้รับความรักและเมตตาอย่างเท่าเทียมกัน เมื่อท่านเสียชีวิต คุณแม่ใหญ่และคุณธรรมนูญ บุตรชายก็ได้ดูแล ทายาทแทน ในลักษณะให้เงินผลประโยชน์จากทรัพย์มรดกของตระกูล นิรันดร ในลักษณะกินเงินกงสี"
จนถึงตรงนี้ทางด้านของนางเยาวรัตน์ได้กล่าวต่อว่า "แต่ในปี พ.ศ.2552 มีเหตุไม่ปกติเกิดขึ้น เนื่องจาก คุณธรรมนูญ ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดก ป่วยหนักมีอาการ เส้นเลือดในสมองแตก ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล พระมงกุฎเกล้า ซึ่งในขณะนั้น ลูกเขยคุณธรรมนูญ สามีของคุณเยาวณี นิรันดร ลูกสาวคนโต เป็นเจ้ากรมแพทย์ทหารบก หลังจากออกจากโรงพยาบาลก็มาพัก รักษาตัวอยู่ที่บ้าน โดยมีพยาบาลดูแลตลอด เนื่องจากคุณธรรมนูญไม่สามารถช่วยตัวเองได้เหมือนเดิม ต้องนั่ง รถเข็น ทั้งนี้อยู่ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิด ของลูกสาวคนโตคือคุณเยาวณี นิรันดรและลูกชายคนกลางคือ คุณธรรมรัชน์ นิรันดร สําหรับลูกสาวคนสุดท้อง คือ ดิฉัน"
พล.ท.สรภฎ กล่าวต่อว่า ต่อมาในปี 2559 ทายาทได้ทราบมาว่า คุณธรรมนูญได้นําที่ดินของกองมรดก จํานวน 187 ไร่ ที่ตลาด ขวัญ ดอนเมือง ไปขาย โดยไม่แบ่งปันให้ทายาท และในปี 2560 คุณธรรมนูญได้นําที่ดินกองมรดก ที่บางลําพล ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม ไปขายให้บุตรสาวและบุตรชายของตน
เป็นเหตุให้ทายาทของตระกูล นิรันดร ซึ่งมี 13 คน และปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่ 6 คน ได้ฟ้องร้องขึ้น โดยมีพี่ จิตรา นิรันดร ซึ่งทายาทขอให้เป็นผู้จัดการมรดกแทนคุณธรรมนูญ สําหรับผมและพี่ชายคือคุณธรรมเรศ นิรันดรก็ได้ฟ้อง เพื่อขอแบ่งที่ดินมรดกของตระกูลที่ยังเหลืออยู่จํานวนมาก ตามสิทธิที่ควรได้ เท่านั้น ก่อนที่ คุณธรรมนูญจะขายที่ดินไปทั้งหมด ที่ดินบางส่วนได้แก่ ที่ดินแขวงสาทร ประมาณ 3 ไร่ ที่ตลาดโบ๊เบ๊ ที่สําเพ็ง ที่หัวลําโพง ที่บางลําพู และที่ดินริมทะเล อ.หัวหิน เนื้อที่กว่า 3 ไร่
ปัจจุบัน ทายาทของตระกูลนิรันดร ทั้งหมดได้ฟ้องคุณธรรมนูญ และพรรคพวก ได้แก่ คือคุณปราณี ภรรยา คุณเยาวณี บุตรสาวคนโต คุณธรรมรัชต์ บุตรชายคนกลาง ต่อศาลแพ่งและอาญาในข้อหา ยักยอกทรัพย์ มรดก ทั้งนี้อยู่ในการพิจารณาของศาล ซึ่งผมไม่อาจก้าวล่วง
สุดท้ายนี้ ผมหวังว่าในอนาคตลูกหลานของคุณพ่อคือขุนนิรันดรชัยจะได้มีความรัก และเอื้ออาทรต่อกัน เหมือนดังที่คุณพ่อต้องการและไม่ให้สิ่งใดมาบังตา ทําให้เกิดความขัดแย้งต้องฟ้องร้องต่อกันดังเช่นในยุคผม"
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า หลังจากการแถลงข่าวได้มีการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมว่า หลังจากทราบว่าในช่วงปี 2559 นายธรรมนูญได้นำที่ดินของ พ.ต.สเหวก ผู้เป็นบิดาไปขายโดยไม่แบ่งปันให้ใคร จากกรณีดังกล่าวนั้นได้มีการพูดคุยกับจำเลยคนอื่น ซึ่งไม่ใช่นายธรรมนูญบ้างหรือไม่ พล.ท.สุรภฎ นิ่งไปสักพักหนึ่ง ก่อนจะตอบว่าเรื่องนี้นั้นอยู่ในอำนาจของศาล ไม่อาจจะก้าวล่วงได้
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/