'บิ๊กตู่-อุตตม-สมคิด'อยู่ในบัญชีนายกฯ พปชร. เมินเสียงค้าน-ลั่นซื่อสัตย์-ปชช.ชอบ
พปชร. เคาะชื่อ 'บิ๊กตู่-อุตตม-สมคิด' อยู่ในบัญชีรายชื่อนายกฯ ยันเป็นผู้มีความรู้ความสามารถจะบริหารประเทศก้าวหน้า เป็นบุคคลที่ประชาชนชื่นชอบ ซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์ เมินเสียงค้าน ขอให้วิจารณ์ตามความเป็นจริง ลั่นไม่ใช่พรรคของรัฐบาล
เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. วันที่ 30 ม.ค. 2562 ที่พรรคพลังประชารัฐ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค แถลงข่าวผลการประชุมกรรมการบริหารพรรค โดยนายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค มีมติเสนอรายชื่อบุคคลที่อยู่ในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรี 3 ชื่อของพรรค โดยมีมติเป็นเอกฉันท์หลังจากรับฟังความเห็นจากสมาชิกพรรคทั่วประเทศ ประกอบด้วย 1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน 2.นายอุตตม สาวนายน 3.นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน แต่ไม่ได้เรียงลำดับว่าชื่อใดอยู่ก่อนหลัง เพราะรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดไว้ อย่างไรก็ดีให้ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นลำดับที่หนึ่ง เพราะเป็นนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ส่วนนายอุตตมเพราะเป็นหัวหน้าพรรค ขณะที่รายชื่อที่สามคือนายสมคิด เป็นบุคคลนอกที่ได้รับการเสนอชื่อเข้ามา เรียงลำดับตามนัยนี้ ไม่ใช่เรื่องลำดับตามความสำคัญ ไม่อยากให้เกิดเป็นประเด็น ขั้นตอนหลังจากนี้พรรคจะประสานเพื่อทำการเรียนเชิญ และทาบทามบุคคลเหล่านี้ต่อไป
เมื่อถามว่าจะไปทาบทามพล.อ.ประยุทธ์ และนายสมคิดเมื่อใด นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ทางผู้บริหารของพรรคจะประสานนัดหมายทั้งสองท่าน ทั้งนี้ยังไม่มีการแจ้งทั้งสองคนทราบเพราะประชุมพึ่งเสร็จและพึ่งมีมติ
เมื่อถามว่า เหตุผลในการเลือก พล.อ.ประยุทธ์ และนายสมคิดเพราะเป็นคนนอกพรรค นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า สาเหตุที่เชิญทั้งสองคนมาเป็นนายกฯของพรรค เพราะ 1.มีความรู้ความสามารถที่จะบริหารนำพาประเทศก้าวไปข้างหน้าได้ 2.เป็นบุคคลที่ประชาชนชื่นชอบ 3. มีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์ และการทำงานที่ผ่านมามีจริยธรรม ถือเป็นคุณสมบัติหลักในการพิจารณา
เมื่อถามว่า ล่าสุดมีนักวิชาการออกมาเรียกร้องอย่าให้ พล.อ.ประยุทธ์ รับตำแหน่งนายกฯในนามพรรคพลังประชารัฐ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า พรรคเลือกบุคคลที่เหมาะสมจะเป็นนายกฯของประเทศ ความหลากหลายทางความคิดก็เป็นข้อคิดเห็น ซึ่งทางพรรคก็ยังไม่ทราบท่านเหล่านี้จะรับการเป็นนายกฯของพรรคหรือไม่ ก็ขอให้พรรคดำเนินการตามขั้นตอนก่อน เพราะอาจจะเร็วไปที่จะพูดถึงสิ่งเหล่านั้น
เมื่อถามว่ามีแผนรองรับหรือไม่หากทั้ง 2 คนไม่รับ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ก็มีกระบวนการรับมืออยู่แล้ว ซึ่งโรดแมปการเชิญ และส่งรายชื่อนายกฯของพรรคจะต้องเสร็จสิ้นก่อนวันที่ 8 ก.พ.นี้ ก็คิดว่าจะเร่งรัดให้ทันตามที่กฎหมายกำหนดไว้
ขณะที่การเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเป็นนายกฯ และหัวหน้า คสช. มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงการสืบทอดอำนาจทางพรรคมีเหตุผลอธิบายอย่างไร เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า รัฐธณรมนูญนี้ต้องการเปลี่ยนผ่านประเทศ เราต้องการให้ประเทศเข้าสู่ระบบประชาธิปไตย ไม่ว่าชื่อใดจะเป็นนายกฯ ก็เป็นไปตามกระบวนการประชาธิปไตย ระบบของพรรคไม่ได้เกี่ยวข้องกับคสช. พรรคเดินตามแนวทางประชาธิปไตย และพรรคพลังประชารัฐไม่ใช่พรรคของรัฐบาล เป็นพรรคที่กลุ่มคนต่าง ๆ ดำเนินการทางการเมือง ดังนั้นขอวิพากษ์วิจารณ์ก็ต้องดูในเรื่องความเป็นจริง ซึ่งบทบาทของ คสช.จะหมดแล้ว เมื่อมีการเลือกตั้ง ก็จะเป็นการคืนอำนาจสู่ประชาชน
เมื่อถามว่าการเรียนเชิญพล.อ.ประยุทธ์ นอกจากจะนำนโยบายไปเสนอแล้วยังต้องนำรายชื่อทั้ง500คนของพปชร.ให้นายกฯดูหรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ถ้าเป็นปัจจัยในการพิจารณาทางพรรคก็พร้อมจะเปิดเผยอยู่แล้ว เมื่อถามว่าการชูพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯจะหาเสียงในบางพื้นที่ยากหรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่าอยู่ที่ยุทธศาสตร์ของพรรค ตนคิดว่าเมื่อสุดท้ายพรรคพิจารณาแล้ว พรรคต้องมั่นใจว่า ทั้ง 3 รายชื่อจะได้รับการสนับสนุนจากประชาชน
ส่วนนายอุตตม กล่าวว่า การเรียนเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ และ นายสมคิด จะไปดูวิธีการกัน ซึ่งแนวโน้มก็จะให้ผู้ใหญ่ในพรรคเข้าไปเรียนเชิญ และชี้แจงในทุกประเด็นที่ทั้งสองคนต้องการ ส่วนตัวเองจะตัดสินใจอยู่ในบัญชีรายชื่อนายกฯของพรรคหรือไม่ ตนขอเวลาตัดสินใจเพราะพึ่งทราบมติเมื่อสักครู่ ทั้งนี้ในวันที่ 1 ก.พ. จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อสรุปรายชื่อบัญชีทั้ง 150 คนต่อไป ส่วนรายชื่อส.ส. 350 เขต ขณะนี้เรียบร้อยแล้ว 349 เขต เหลือเพียง เขต2 พัทลุงยังไม่เรียบร้อยเพียงเขตเดียวเท่านั้น