ป.ป.ช.สอบ‘บิ๊ก’เทศบาลสุคีรินใช้เอกชนบังหน้าคว้างานสร้างถนน 6.8 ล.ให้หัวคิว 10%
ป.ป.ช. ลุยสอบ ‘บิ๊ก’ เทศบาลตำบลสุคีริน จ.นราธิวาส รับงานสร้างถนน 6.8 ล.เอง แต่ใช้เอกชนบังหน้า ให้ค่าหัวคิว 10% จ่อสรุปสำนวนส่งที่ประชุม กก. พิจารณา แต่โดนแก้เกมไปฟ้องศาลขอประนีประนอม อ้างงานแล้วเสร็จ ทั้งที่ชำรุดเพียบ กก.ตรวจรับฯไม่ยินยอม ล่าสุดหารือจังหวัดขอเบิกงบมาจ่ายแล้ว
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า เมื่อปลายเดือน พ.ย. 2561 ที่ผ่านมา เทศบาลตำบลสุคีริน อ.สุคีริน จ.นราธิวาส ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง กรณีการก่อสร้างถนนวงเงินประมาณ 6.8 ล้านบาท เนื่องจากเทศบาลตำบลสุคีริน ยังไม่จ่ายเงินให้ครบถ้วนตามสัญญา โดยจ่ายไปเพียงงวดแรกประมาณ 1.3 ล้านบาท เหลืออีก 4 งวด เป็นเงิน 5.5 ล้านบาท โดยการประนีประนอมยอมความดังกล่าวทำต่อหน้าศาลจังหวัดนราธิวาส และผู้พิพากษาได้พิจารณาสัญยาประนีประนอมยอมความดังกล่าวแล้ว เห็นว่า ไม่ขัดต่อกฎหมาย จึงพิพากษาให้คดีเป็นอันเสร็จเด็ดขาดไปตามสัญญาดังกล่าว
เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2561 แหล่งข่าวระดับสูงในเทศบาลตำบลสุคีริน เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า การก่อสร้างถนนวงเงิน 6.8 ล้านบาทดังกล่าว ถูกสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เข้าไปตรวจสอบ พบว่าบริษัทเอกชนดังกล่าวไม่ได้เข้าไปทำงานจริง โดยบริษัทเอกชนแห่งนี้ให้การยอมรับต่อคณะอนุกรรมการไต่สวนของ ป.ป.ช. ว่า เป็นเพียงบริษัทบังหน้าเท่านั้น แต่ผู้ที่เข้าไปทำงานจริงคือผู้บริหารระดับสูงในเทศบาลตำบลสุคีริน โดยบริษัทได้หัวคิวประมาณ 10% และเท่าที่ทราบข้อมูลล่าสุดคือ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. เตรียมสรุปเรื่อง เพื่อนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว
แหล่งข่าวรายนี้ ระบุว่า สำหรับการก่อสร้างถนนดังกล่าว วงเงินประมาณ 6.8 ล้านบาท แบ่งการจ่ายเงินออกเป็น 5 งวด จ่ายไปแล้ว 1 งวด เป็นเงินประมาณ 1.3 ล้านบาท เหลืออีก 4 งวด 5.5 ล้านบาท และคณะกรรมการตรวจรับฯ ยังไม่อนุมัติว่าการก่อสร้างดังกล่าวเสร็จสิ้นสมบูรณ์ ต่อมาเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. เข้ามาไต่สวนพบว่า อาจมีการกระทำทุจริตเกิดขึ้น ทำให้ผู้บริหารระดับสูงรายนี้ไหวตัวทัน จึงให้เอกชนไปฟ้องต่อศาลจังหวัดนราธิวาสเพื่อขอให้เทศบาลตำบลสุคีรินจ่ายเงินให้ครบตามจำนวน โดยอ้างว่างานแล้วเสร็จ เบื้องต้นศาลฯเห็นว่า คดีดังกล่าวไม่ใช่คดีทางแพ่ง เป็นข้อพิพาททางปกครองต้องไปฟ้องต่อศาลปกครอง ผู้บริหารระดับสูงรายนี้เลยแก้เกมด้วยการไปยื่นขอประนีประนอมต่อหน้าศาลแทน กระทั่งศาลมีคำพิพากษาออกมาดังกล่าว
“ตอนแรกทราบจากอัยการว่า ศาลระบุว่า ไม่มีอำนาจรับ ให้ไปยื่นต่อศาลปกครอง แต่ต่อมาไม่นานผู้บริหารระดับสูงรายนี้กลับไปทำเรื่องขอประนีประนอมยอมความต่อหน้าศาล และศาลมีคำพิพากษาดังกล่าว โดยที่เจ้าหน้าที่ภายในเทศบาลตำบลสุคีรินไม่มีใครรู้มาก่อน มารู้อีกทีก็ตอนผู้บริหารระดับสูงรายนี้นำคำพิพากษาศาลมาให้ดูแล้ว” แหล่งข่าว ระบุ
แหล่งข่าวรายนี้ ระบุอีกว่า ในการตรวจงานที่เหลืออีก 4 งวด คณะกรรมการตรวจรับฯพบว่า งวดที่ 2 งานใส่เหล็กไม่ถูกต้องตามแบบแปลน งวดที่ 3 มีผิวคอนกรีตชำรุดบกพร่องประมาณ 34 จุด และน่าจะร้าวถึงโครงสร้างด้วย งวดที่ 4 งานยังไม่เก็บรายละเอียดและทำความสะอาดให้เรียบร้อย คณะกรรมการตรวจรับฯจึงมีมติสรุปว่า งานยังไม่เรียบร้อย ไม่สามารถตรวจรับงานได้ แต่ผู้บริหารระดับสูงรายนี้กลับไประบุต่อหน้าศาลในการประนีประนอมบอกว่างานเสร็จแล้วได้อย่างไร
“อยู่ ๆ ผู้บริหารระดับสูงรายนี้ไปบอกต่อหน้าศาลว่างานเสร็จแล้ว ทั้งที่งานยังไม่เรียบร้อยทั้ง 4 งวด เลยเบิกจ่ายไม่ได้ ดังนั้นคำพิพากษาศาลที่ให้ประนีประนอมต้องเป็นโมฆะหรือไม่ เพราะผู้บริหารระดับสูงรายนี้ไม่ได้บอกในข้อเท็จจริง” แหล่งข่าว ระบุ
แหล่งข่าวระบุด้วยว่า ขณะนี้ผู้บริหารระดับสูงรายดังกล่าวได้ทำหนังสือหารือไปยังจังหวัดนราธิวาส เพื่อขอเบิกจ่ายเงินดังกล่าวให้กับบริษัทเอกชน โดยอ้างคำพิพากษาศาลในการประนีประนอม ทั้งที่กรณีนี้ยังอยู่ระหว่างคดีความ และการไต่สวนของสำนักงาน ป.ป.ช. อยู่
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/