- Home
- Isranews
- ข่าว
- ผู้ว่ากปภ. ให้ผอ.กองวินัย แจงปมใช้รถหลวงส่วนตัว ด้าน ‘พ.อ.’ ร้องนายกฯสอบคุณสมบัติเพิ่ม
ผู้ว่ากปภ. ให้ผอ.กองวินัย แจงปมใช้รถหลวงส่วนตัว ด้าน ‘พ.อ.’ ร้องนายกฯสอบคุณสมบัติเพิ่ม
ผอ.กองวินัย เผยได้รับมอบหมายจาก นพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้ว่าการ กปภ. แจงอิศรา ปมถูกร้องนำรถราชการใช้กิจส่วนตัวช่วงเป็นบอร์ด กฟภ. ยันทำตามระเบียบ ด้าน พ.อ.โฆษิต พิพัฒนปัญญา จี้นายกฯ สอบขาดคุณสมบัติสรรหาเพิ่ม
สืบเนื่องจาก สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำเสนอข่าวว่า เมื่อวันที่ 23 ก.ค. 2561 นายอิทธิพล ช่างกลึงดี ผู้อำนวยการศูนย์บริการประชาชน ปฏิบัติราชการแทนปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ส่งหนังสือถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย รับทราบเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาดำเนินการ กรณี พ.อ.โฆษิต พิพัฒนปัญญา ทำหนังสือร้องเรียนถึงนายกรัฐมนตรี ขอพิจารณาตรวจสอบกรณี กรรมการบริหารการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (บอร์ด กฟภ.) รายหนึ่ง นำรถยนต์ของทางราชการมาใช้ในภารกิจส่วนตัว โดยผู้ร้องแจ้งว่า การกระทำดังกล่าวขัดระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยรถราชการ พ.ศ.2523 และไม่สุจริต (อ่านประกอบ : สำนักปลัดฯ แจ้งบิ๊ก มท.ทราบ! พ.อ.ร้องนายกฯ บอร์ด กฟภ.นำรถหลวงใช้ส่วนตัว)
จากนั้น เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2561 ที่ผ่านมา พ.อ.โฆษิต ได้ยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอให้มีการแก้ไขออกระเบียบนำรถยนต์ของทางราชการมาใช้ในภารกิจส่วนตัว ระบุว่า ไม่เห็นพ้องด้วยกับระเบียบการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคว่าด้วยการใช้รถ พ.ศ. 2561 ขอให้ กระทรวงมหาดไทย กรุณาพิจารณาททบทวนหรือแก้ไขหรือยกเลิก บททั่วไป ข้อ 6 ในระเบียบนี้ ซึ่งทำให้เกิดปัญหาขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวมหรือผลประโยชน์ทับซ้อน (conflict of interests) เรื่อง การใช้ทรัพย์สินของทางราชการเพื่อประโยชน์ส่วนตน หรือบุคคล หรืออื่นๆด้วย
ขณะที่ สำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยัง นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย อดีตกรรมการบริหาร กฟภ. ซึ่งเป็นผู้ถูกล่าวหาในกรณีดังกล่าว โดยปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาคเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เลขานุการ แจ้งว่า จะนำเรื่องดังกล่าวแจ้งผู้ว่าฯ และจะติดต่อกลับไป (อ่านประกอบ : 'พ.อ.' รุกยื่น มท.1 แก้ระเบียบรถรับรอง กฟภ.หลังร้องนายกฯ สอบบอร์ด นำของหลวงใช้ส่วนตัว)
ล่าสุด เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2561 สำนักข่าวอิศราได้รับการติดต่อจาก ผู้อำนวยการกองวินัยและส่งเสริมจริยธรรม การประปาส่วนภูมิภาค ว่า ได้รับมอบหมายจาก นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค ให้ชี้แจงเบื้องต้นในกรณีถูกร้องเรียนเรื่องการใช้รถของ กฟภ. ดังกล่าว
ผอ.กองวินัยฯ ชี้แจงว่า เบื้องต้นได้รับมอบหมายให้ชี้แจงกรณีเรื่องการใช้รถดังกล่าวเพียงเรื่องเดียว คือ ณ วันนั้น นายนพรัตน์ ได้เดินทางไปที่ กฟภ. เพื่อทำภารกิจในฐานะกรรมการบริหาร เมื่อทำภารกิจเสร็จจึงได้ขอความอนุเคราะห์ กฟภ. ขอใช้รถยนต์เพื่อเดินทางไปที่ กปภ. ซึ่ง กฟภ. ได้รายงานไปที่กระทรวงมหาดไทยโดยระบุว่ามีระเบียบหลักเกณฑ์ที่สามารถทำได้
“ณ วันนั้น ได้เดินทางไปที่ กปภ. เรื่องเกี่ยวกับการสมัครผู้ว่าการ กปภ. ทั้งนี้ ในส่วนรายละเอียดของระเบียบการใช้รถของ กฟภ. นั้นไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร เพราะคนละหน่วยงานกัน แต่ กฟภ. ชี้แจงว่า สามารถให้ใช้รถได้ ข้อเท็จจริงตามลายลักษณ์อักษร ที่ กฟภ. ได้รายงานไปที่กระทรวงมหาดไทย” ผอ.กองวินัยฯ กล่าว
ผอ.กองวินัยฯ กล่าวถึงกรณีหนังสือร้องเรียนของ พ.อ.โฆษิต ว่า ในเรื่องร้องเรียนดังกล่าวที่ส่งมาที่ กปภ. นั้น ทาง กปภ. จะดำเนินการพิจารณาประเด็นและหลักฐานที่ผู้ร้องแนบมา รวมทั้งเทียบกับระเบียบหลักเกณฑ์ต่างๆ สรุปเพื่อตอบกลับผู้ร้อง ทั้งนี้ ยังไม่มีการตอบกลับแต่อย่างใด เนื่องจากผู้ร้องได้ร้องเรียนมาหลายเรื่อง รวมถึงเอกสารต่างๆ มีจำนวนมากต้องใช้เวลาในการพิจารณา ซึ่งเรื่องการใช้รถดังกล่าว กปภ. เพิ่งได้รับเรื่องเมื่อช่วงกลางเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา
ผอ.กองวินัยฯ ยังกล่าวอีกว่า “ในส่วนประเด็นเรื่องหลักเกณฑ์การสรรหาคัดเลือกผู้ว่าการ กปภ. นั้น ผู้ร้องรายนี้ได้เคยร้องเรียนตั้งแต่สมัยผู้ว่าการ กปภ. คนก่อน เกี่ยวกับหลักเกณฑ์คุณสมบัติและการพิจารณาคุณสมบัติของที่จะสมัครดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ กปภ. ไม่ใช่คุณสมบัติของผู้ว่าการฯ โดยตรง ซึ่งได้มีการฟ้องที่ศาลปกครอง ซึ่งทางศาลปกครองได้แสวงหาข้อเท็จจริงและยุติแล้ว หมายถึง ไม่แสวงหาข้อเท็จจริงทั้งฝ่ายโจทก์ลำเลยแล้ว และรอตัดสิน”
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2561 ที่ผ่านมา พ.อ.โฆษิต ได้ร้องเรียนไปยังนายกรัฐมนตรีให้ตรวจสอบ กรณี นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย เป็นผู้ขาดคุณสมบัติทั่วไป ตามประกาศรับสมัครบุคคลเพื่อเข้ารับการคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าการประปาส่วนภูมิภาค พ.ศ. 2560 โดยระบุว่า ภายในระยะเวลา 3 ปีก่อนวันที่ได้รับแต่งตั้งเข้าดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค นายนพรัตน์ ต้องไม่เคยเป็นกรรมการผู้มีประโยชน์ได้เสียเกี่ยวกับกิจการของ การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) แต่ก่อนหน้าจะมารับตำแหน่งผู้ว่าการ กปภ. นายนพรัตน์ เป็นกรรมการกรไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งมีส่วนได้เสียเกี่ยวข้องในกิจการของ กปภ. จำนวน 2 สัญญา ซึ่งเป็นประโยชน์ทับซ้อนตามกฎหมายและถือว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนตามประกาศสรรหาฯ พ.ศ. 2560 เรื่องคุณสมบัติทั่วไปของผู้สมัคร (ดูเอกสารประกอบ)
นอกจากนี้ พ.อ.โฆษิต ยังส่งเรื่องดังกล่าวร้องเรียนไปยัง พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ, ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน, ประธานกรรมการการประปาส่วนภูมิภาค, ผู้ว่าการประปาส่วนภูมิภาค และ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การประปาส่วนภูมิภาคด้วย
ขณะที่เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2561 ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแต่งตั้ง นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค
อ่านประกอบ :
'พ.อ.' รุกยื่น มท.1 แก้ระเบียบรถรับรอง กฟภ.หลังร้องนายกฯ สอบบอร์ด นำของหลวงใช้ส่วนตัว
สำนักปลัดฯ แจ้งบิ๊ก มท.ทราบ! พ.อ.ร้องนายกฯ บอร์ด กฟภ.นำรถหลวงใช้ส่วนตัว