- Home
- Isranews
- ข่าว
- ปูด ส.ส.เพื่อไทยเบื้องหลัง!ขรก.ท้องถิ่นร้องผู้ตรวจฯถูก ป.ป.ช.สอบคดีฟุตซอลไม่เป็นธรรม
ปูด ส.ส.เพื่อไทยเบื้องหลัง!ขรก.ท้องถิ่นร้องผู้ตรวจฯถูก ป.ป.ช.สอบคดีฟุตซอลไม่เป็นธรรม
สมาคม ขรก.ท้องถิ่น ร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน ถูก ป.ป.ช. ตั้งอนุฯไต่สวนคดีสร้างสนามฟุตซอลฉาวกราวรูด 79 ราย พื้นที่ จ.เชียงใหม่ ไม่เป็นธรรม ปูดมีอดีต ส.ส.เพื่อไทย เบื้องหลัง-คนดีลเอกชนก่อสร้าง เป็นคนเชิญนายก อบต.-นายกเทศมนตรีไปพบที่สำนักงาน แจกเอกสารราคาก่อสร้าง แต่กลับไม่ถูกสอบ
เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2561 ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายพิพัฒน์ วรสิทธิดำรง นายกสมาคมข้าราชการส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย พร้อมคณะ ยื่นหนังสือถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวหาข้าราชการท้องถิ่นใน 15 องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และเทศบาล รวม 79 รายใน จ.เชียงใหม่ ในข้อหาว่า กระทำความผิดเกี่ยวกับเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมาย พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 (พ.ร.บ.ฮั้ว) โครงการก่อสร้างลานกีฬาอเนกประสงค์ สนามสตรีทซอคเกอร์ จากงบอุดหนุนเฉพาะกิจของกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ในปีงบประมาณ 2556
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการเร่งด่วนตามนโยบายของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นงบอุดหนุนเฉพาะกิจที่เป็นงบแปรญัตติ ส.ส. ปี 2556 ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขต อ.ฝาง และ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ รวม 15 แห่ง และได้ตั้งงบประมาณโครงการก่อสร้างแห่งละไม่เกิน 2 ล้านบาท โดยครั้งนั้นมีอดีต ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย รายหนึ่ง เชิญนายกเทศมนตรี นายก อบต. เขต อ.ฝาง และ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ให้ไปพบที่สำนักงานของอดีต ส.ส.เชียงใหม่ รายนี้ และได้แจกเอกสารสรุปผลการประเมินก่อสร้างแบบ ปร 5 รวมค่าก่อสร้างเป็นเงิน 1,999,000 บาท แต่ต่อมาสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้เข้ามาตรวจสอบ และระบุว่า การก่อสร้างแต่ละแห่งใช้จ่ายงบประมาณสูงเกินจริง สตง. ประเมินค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 9 แสนบาทเท่านั้น แต่หลังจาก สตง. ตรวจสอบไม่ถึง 2 เดือน ปรากฏว่า ป.ป.ช. รีบตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนพวกตน
นายพิพัฒน์ กล่าวด้วยว่า ป.ป.ช. ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนอย่างเร่งด่วน ให้เวลาพวกตนชี้แจงเพียง 7-15 วัน ทั้งที่เป็นข้อหาในความผิดร้ายแรง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่บางรายของ ป.ป.ช. มีหนังสือแจ้งให้รับทราบข้อกล่าวหา และชี้แจงภายในวันเดียวกัน จึงตั้งข้อสังเกตว่า ข้อกล่าวหาของคณะอนุกรรมการไต่สวน ป.ป.ช. จุดเริ่มต้นและบทสรุปแห่งพฤติการณ์การกระทำความผิดดังกล่าว มีอดีต ส.ส.เชียงใหม่ รายนี้อยู่ด้วย เป็นคนสำคัญในการก่อเรื่องทั้งหมด แต่กลับไม่ได้ตั้งข้อกล่าวหา อีกทั้งเป็นผู้อยู่เบื้องหลังกลุ่มเอกชนที่ดำเนินการก่อสร้าง
“ขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหาจาก ป.ป.ช. เนื่องจาก ป.ป.ช. ตั้งธงเพื่อชี้มูลความผิดของผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 79 รายไว้ล่วงหน้าหรือไม่ พร้อมทั้งให้ส่งฝ่ายกฎหมายของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินเข้าไปช่วยเหลือให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย และสังเกตการไต่สวนของคณะอนุกรรมการไต่สวน ป.ป.ช. ครั้งนี้ด้วย รวมถึงขอให้มีหนังสือถึงแจ้งให้ ป.ป.ช. ยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนดังกล่าว และให้ตั้งคณะสอบสวนใหม่โดยมีตัวแทนจาก ป.ป.ช. ที่ไม่ได้มาจาก ป.ป.ช. ภาค 5 และขอให้มีหนังสือแจ้งถึงคณะกรรมาธิการ (กมธ.) งบประมาณของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้ตรวจสอบคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน ป.ป.ช. ว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่” นายพิพัฒน์ กล่าว
ขณะที่นายกมลธรรม วาสบุญมา ผอ.สำนักกฎหมายและคดี สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า จะรับเรื่องนี้ไว้ และดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร็ว เพื่อพิจารณาว่าจะเสนอต่อผู้ตรวจการแผ่นดินต่อไป ทั้งนี้จะมีหนังสือแจ้งไปยังสมาคมข้าราชการส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทยเป็นระยะ จนกระทั่งถึงขั้นตอนการวินิจฉัยว่าดำเนินการอย่างไร