'หมอธีร์' ลงนามแก้คำสั่งสอบอควาเรียมสงขลาถลุงงบพันล.-เพิ่มอำนาจลุยตรวจทุจริตเต็มรูปแบบ

เขียนวันที่

วันศุกร์ ที่ 27 เมษายน 2561 เวลา 10:48 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

ข่าว | Isranews | จัดซื้อจัดจ้าง | เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา

Tags

'นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์' รมว.ศธ. ลงนามแก้ไขคำสั่งตั้งคกก.สอบอควาเรียมสงขลาพันล.ใหม่ โยกตำแหน่งกก.-เพิ่มกรอบอำนาจเพียบ ลุยตรวจทุจริตเต็มรูปแบบ ระบุชัดหากพบมีความผิดทางอาญา -วินัย ต้องให้ความเห็นใครเกี่ยวข้องบ้าง รวมขรก.จนท.รัฐ เกษียณอายุ -บุคคลทั่วไปด้วย

pickiujyh08dd927 4 18

สืบเนื่องจากนพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการดำเนินงานโครงการก่อสร้างศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทะเลสาบสงขลา (อควาเรียม) ของวิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ จ.สงขลา ที่ตั้งวงเงินงบประมาณไว้จำนวน 800 ล้านบาท แต่ปัจจุบันการดำเนินงานโครงการยังไม่เสร็จ และใช้จ่ายงบประมาณไปแล้วว่า 1,400 ล้านบาท โดยมีนายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ทำหน้าที่เป็นประธานกรรมการ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงนั้น

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 24 เม.ย.2561 ที่ผ่านมา นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ลงนามในคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการ ที่ 250/2561 เรื่องแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการนี้ใหม่ ซึ่งมีสาระสำคัญอยู่การกำหนดฐานอำนาจกฎหมายในการตรวจสอบโครงการนี้ใหม่ รวมถึงการโยกกรรมการชุดเดิมบางรายมาทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา และเพิ่มกรอบอำนาจหน้าที่คณะกรรมการให้สามารถตรวจสอบข้อมูลการทุจริตพิจารณาให้ความเห็นบุคคลที่อยู่ในข่ายกระทำความผิด ทั้งในส่วนข้าราชการเจ้าหน้าที่ที่เกษียณอายุและบุคคลทั่วไปด้วย

ทั้งนี้ ในส่วนรายชื่อคณะกรรมการภายใต้คำสั่งใหม่ นั้น ยังมี นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ทำหน้าที่เป็นประธานกรรมการเช่นเดิม (อ่านประกอบ : เผยโฉมคำสั่งรมว.ศธ.ตั้งคกก.สอบอควาเรียมสงขลา1.4 พันล.ขีดเส้น60วันต้องเสร็จ) ส่วนรายนามคณะกรรมการประกอบไปด้วย นายคมสัน มาลีสี,นายบัณฑิต สังขนันท์,นายภัทรพล จิ๋วหนองโพธิ์,นายวุฒิชัย ธรรมยา, นายวรวุฒิ ดำขำ, นายพีระพล พูลทวี, น.ส.จตุราภรณ์ รอดเกลี้ยง , น.ส.รุ่งทิพย์ ลิ้มกอปรไพบูลย์ และนายณัฐพงศ์ สินค้า

สำหรับรายนามที่ปรึกษาคณะกรรมการ ประกอบด้วย พล.ท.โกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ,นายเขมทัตต์ พลเดช และนายอำนวย พาณิชกุลพงศ์ นางศิริรัตน์ วสุวัต และนายชาญชัย พงศ์ภัสสร

สำนักข่าวอิศรารายงานว่า ในส่วนของ นางศิริรัตน์ วสุวัต และนายชาญชัย พงศ์ภัสสร เดิมที่เคยทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการสอบสวนในคำสั่งชุดเก่า แต่ในคำสั่งใหม่เปลี่ยนให้มาอยู่ในตำแหน่งที่ปรึกษาแทน และเพิ่มชื่อนายณัฐพงศ์ สินค้า นิติกรชำนาญการ สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา เข้าไปเป็นหนึ่งในรายชื่อคณะกรรมการสอบสวนแทน

สำหรับอำนาจของคณะกรรมการมีการปรับเพิ่มขึ้นมาเป็น 7 ข้อ จากคำสั่งเดิมที่มีแค่ 3 ข้อ คือ 1.มีอำนาจขอเอกสารหลักฐานและรายงานการติดตามตรวจสอบข้อเท็จจริง เกี่ยวกับโครงการก่อสร้างอควาเรียม 2.มีอำนาจเชิญบุคคลที่เกี่ยวกับการก่อสร้างอควาเรียมมาให้ข้อมูล และ 3. มีอำนาจเข้าตรวจสอบสถานที่โครงการก่อสร้างอควาเรียม

โดยอำนาจหน้าที่เพิ่มขึ้นเป็น 7 ข้อ ในคำสั่งใหม่ ประกอบไปด้วย 1. ตรวจสอบว่า การก่อสร้างศูนย์การศึกษาเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทะเลสาบสงขลาได้แล้วเสร็จตามระยะเวลาที่กำหนดในสัญญา และการก่อสร้างได้ถูกต้องตามรูปแบบและรายละเอียดที่กำหนดในสัญญาหรือไม่ หากตรวจสอบพบว่าการก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จตามระยะเวลาที่กำหนดในสัญญา หรือไม่เป็นไปตามรูปแบบของสัญญาให้ตรวจสอบว่าเป็นเพราะเหตุใด

2. ตรวจสอบว่าการแก้ไขเพิ่มเติมสัญญา การขยายระยะเวลาก่อสร้างในสัญญา และการทำสัญญาการก่อสร้างเพิ่มเติมอีกหลายฉบับ เป็นไปโดยถูกต้องตามกฎหมาย และกฎระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องหรือไม่

3. ตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ทั้งพยานเอกสาร พยานวัตถุ และพยานบุคคลรวมทั้ง มีอำนาจในการเชิญหรือเรียกบุคคลทั้งที่เป็นข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือบุคคลทั่วไป ที่คณะกรรมการเห็นว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อสร้าง หรือพิจารณาว่าเป็นบุคคลที่อาจให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์แก่การดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการ มาให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการเพื่อประโยชน์แก่การดำเนินการ

4. หากตรวจสอบพบว่าการก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญา รวมทั้งการก่อสร้างไม่เป็นไปตามรูปแบบและรายละเอียดที่กำหนดไว้ในสัญญา ให้ตรวจสอบว่าได้มีการทุจริตหรือการกระทำความผิดทั้งทางอาญา และทางวินัย ในการดำเนินการก่อสร้าง จนเป็นเหตุให้การก่อสร้างไม่แล้วเสร็๋จ และไม่เป็นไปตามรูปแบบ และรายละเอียดที่กำหนดในสัญญาหรือไม่

5. หากตรวจสอบพบว่า มีการทุจริต หรือมีการกระทำความผิดไม่ว่าจะเป็นความผิดทางอาญา หรือความผิดทางวินัย ให้พิจารณามีความเห็นว่า มีบุคคลใดบ้างที่เกี่ยวข้องในการกระทำความผิด ทั้งที่เป็นข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ รวมถึงบุคคลที่เคยเป็นข้าราขการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกษียณอายุราชการ หรือพ้นจากตำแหน่งหน้าที่ราชการไปแล้ว และรวมทั้งบุคคลทั่วไปที่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดดังกล่าวด้วย

6. ดำเนินการอื่นที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบข้อเท็จจริงการก่อสร้างศูนย์ศึกษาเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทะเลสงขลา ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการมอบหมาย

7. จัดทำรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามข้อ 1-6 โดยมีเหตุผลการพิจารณาของคณะกรรมการ และรายละเอียดการตรวจสอบข้อเท็จจริง เสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป (ดูรายละเอียดในคำสั่งท้ายข่าว)

แหล่งข่าวจากกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศรา ว่า การแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการนี้ ของรมว.ศึกษาฯ เป็นการแก้ไขจุดบกพร่องในคำสั่งเดิม ทั้งในเรื่องฐานอำนาจตามกฎหมาย และอำนาจหน้าที่คณะกรรมการให้มีความชัดเจนในทางปฏิบัติโดยเฉพาะการตรวจสอบปัญหาการทุจริต เพื่อนำไปสู่การลงโทษผู้เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด ทั้งในส่วนข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐและบุคคลทั่วไป ในกรณีที่พบการกระทำความผิดชัดเจน

pickiujyh27 4 18