- Home
- Isranews
- ข่าว
- ก.ล.ต.ชงDSIฟันกก.โพลาริส-พวก11ราย สร้างหนี้เทียม3.6พันล.ลวงฟ้องเรียกค่าเสียหายมูลค่าสูง
ก.ล.ต.ชงDSIฟันกก.โพลาริส-พวก11ราย สร้างหนี้เทียม3.6พันล.ลวงฟ้องเรียกค่าเสียหายมูลค่าสูง
ก.ล.ต. กล่าวโทษกรรมการโพลาริส -พวกรวม 11 ราย ชงดีเอสไอสอบปมสร้างหนี้เทียม 3.6 พันล. ก่อนให้บุคคลภายนอกนำมูลหนี้ฟ้องเรียกค่าเสียหายมูลค่าสูง ลวงให้บุคคลทั่วไปเข้าใจว่ามีหนี้สินเพิ่มขึ้นมากในระยะเวลาอันสั้น -ชงดีเอสไอ ฟันอาญา
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 17 เม.ย.2561 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เผยแพร่ข่าวกล่าวโทษคณะกรรมการบริษัท โพลาริส แคปปิตัล จำกัด (มหาชน) (POLAR) กับพวกรวม 11 ราย ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ กรณีร่วมกันสร้างหนี้เทียมจำนวนประมาณ 3.6 พันล้านบาท เพื่อให้ POLAR เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ รวมทั้งลงข้อความเท็จในบัญชีหรือเอกสารที่เกี่ยวกับ POLAR พยายามเบียดบังเอาทรัพย์สินของ POLAR เป็นของตนหรือบุคคลที่สามโดยทุจริต และพยายามแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายเพื่อตนเองหรือผู้อื่นซึ่งทำให้ POLAR เสียหาย โดยบุคคลที่ถูกกล่าวโทษในครั้งนี้
ประกอบด้วยกรรมการ POLAR 5 ราย ได้แก่ (1) นายญาณกร วรากุลรักษ์ (2) นายพูนศักดิ์ ชุมช่วย (3) นายอาสา นินนาท (4) นายฐากร ทวีศรี และ(5) นายดนุช บุนนาค รวมทั้งบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นอีก 6 ราย ได้แก่ (6) บริษัท ซิมบา อินเตอร์ จำกัด (7) นายอัครเดช วัฒนะ (8) นายธัญพงศ์ ลิ้มวงศ์ยุติ (9) บริษัท ยูไนเต็ด เทรดดิ้ง กรุ๊ป จำกัด (10) นายอภิรักษ์ จูตระกูล และ (11) นายกำแหง หุ่นหิรัณย์สาย
สืบเนื่องจาก ก.ล.ต. มีข้อสงสัยเกี่ยวกับพฤติกรรมของกรรมการ POLAR ในไตรมาส 2 ปี 2560 ประกอบกับมีผู้ร้องเรียนเกี่ยวกับการดำเนินการของ POLAR จำนวนมาก ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดทำให้ ก.ล.ต. สรุปได้ว่า บุคคลทั้ง 11 ราย ได้ร่วมกันดำเนินการ หรือมีส่วนรู้เห็นยินยอมและสนับสนุนการกระทำผิดในช่วงปี 2560 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
(1) คณะกรรมการบริษัท POLAR แกล้งให้ POLAR เป็นหนี้จำนวนประมาณ 3.6 พันล้านบาท ทั้งที่ไม่เป็นความจริง โดยให้บุคคลภายนอกนำมูลหนี้ที่ไม่เป็นความจริงมาฟ้องเรียกค่าเสียหายมูลค่าสูง เพื่อลวงให้บุคคลทั่วไปเข้าใจว่า POLAR มีหนี้สินเพิ่มขึ้นมากในระยะเวลาอันสั้น จนเข้าข้อสันนิษฐานของการมีหนี้สินล้นพ้นตัว เป็นเหตุในการเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการและล้มละลาย ซึ่งท้ายที่สุด จะส่งผลให้เจ้าหนี้ที่แท้จริงของ POLAR ไม่ได้รับชำระหนี้ การกระทำดังกล่าว จึงเข้าข่ายเป็นความผิดฐานกระทำการไม่ให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้
(2) การแกล้งให้ POLAR เป็นหนี้ทั้งที่ไม่เป็นความจริงข้างต้น ทำให้บุคคลภายนอกที่นำมูลหนี้ซึ่งไม่เป็นความจริงมาฟ้องเรียกค่าเสียหายจาก POLAR สามารถยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายที่ POLAR ถูกศาลล้มละลายกลางสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้วได้ การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายเป็นการพยายามเบียดบังเอาทรัพย์ของ POLAR เพื่อประโยชน์ของตนหรือบุคคลที่สามโดยทุจริต และเป็นการพยายามแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายเพื่อตนเองหรือผู้อื่น ทำให้ POLAR เสียหาย
(3) การที่คณะกรรมการบริษัท POLAR จัดประชุมกรรมการบริษัท เพื่อพิจารณาอนุมัติให้ POLAR ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการโดยอ้างว่าบริษัทมีหนี้สินล้นพ้นตัวจากหนี้ทั้งที่ไม่เป็นความจริง และการที่ POLAR ชี้แจงข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เกี่ยวกับการยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการที่ระบุว่าบริษัทมีหนี้สินล้นพ้นตัว รวมถึงการที่ POLAR ยื่นคำให้การในคดีล้มละลายโดยยอมรับตามคำฟ้องของนายกำแหงทุกประการว่า POLAR ผิดสัญญาซื้อขายหุ้นต้องคืนเงินค่าหุ้นให้นายกำแหง 105 ล้านบาท เป็นการกระทำหรือยินยอมให้ลงข้อความเท็จในเอกสารของ POLAR หรือที่เกี่ยวกับ POLAR เพื่อลวงบุคคลทั่วไปรวมทั้งผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับผลการดำเนินงานและฐานะทางการเงินของ POLAR
ทั้งนี้ การกระทำตามรายละเอียดข้างต้น เข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 310 และมาตรา 312 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 และมาตรา 308 และมาตรา 311 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ ประกอบมาตรา 80 แห่งประมวลกฎหมายอาญา โดยพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ กำหนดให้ ก.ล.ต. ต้องดำเนินการกล่าวโทษผู้กระทำผิดต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป โดยการกระทำผิดแต่ละกรณีอาจต้องระวางโทษอาญาโดยจำคุกตั้งแต่ห้าถึงสิบปี และปรับตั้งแต่ห้าแสนถึงหนึ่งล้านบาท
นอกจากนี้ การดำเนินการดังกล่าว ยังมีผลให้บุคคลที่ถูกกล่าวโทษเข้าข่ายมีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจให้เป็นกรรมการหรือผู้บริหาร และไม่สามารถเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่มีหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตลอดระยะเวลาที่ถูกกล่าวโทษดำเนินคดี ซึ่งในกรณีนี้เป็นผลให้กรรมการ POLAR ทั้งคณะจำนวน 5 ราย ได้แก่ นายญาณกร นายพูนศักดิ์ นายอาสา นายฐากร และนายดนุช ไม่สามารถเป็นกรรมการ POLAR ต่อไปได้ อย่างไรก็ดี กรณีดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการ POLAR เนื่องจากปัจจุบันอำนาจในการบริหารจัดการ POLAR ตกเป็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ตามที่ศาลล้มละลายกลางพิพากษาให้พิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด POLAR
อนึ่ง การกล่าวโทษของ ก.ล.ต. เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการบังคับใช้กฎหมายทางอาญาเท่านั้น ภายใต้กระบวนการนี้ การพิจารณาวินิจฉัยว่าบุคคลใดเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายเป็นขั้นตอนในอำนาจการสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ การสั่งฟ้องคดีของพนักงานอัยการ ตลอดจนดุลพินิจของศาลยุติธรรมตามลำดับ
อ่านประกอบ :
ใช้กระดาษหัวโรงแรมทำสัญญาจ้าง! เปิดหลักฐานซิมบ้าฯ ฟ้องแพ่งโพลาริสเบี้ยวเงิน503ล.
อยู่บริติชเวอร์จิน! เปิดตัวบ.แห่งสองฟ้องแพ่งโพลาริส2,772 ล. เบี้ยวลงทุนพัฒนาที่ดินจว.พังงา
เปิดตัวซิมบ้าฯฟ้องแพ่งบ.ลูกโพลาริส503ล.ถูกเบี้ยวจ่ายค่าจ้างออกแบบรร.หรูพังงา1.9หมื่นล.
พลิกหลังโฉนด! เปิดชื่อสุภาพสตรีผู้ขายที่ดิน6แปลงให้ 'เสียกำพล' ก่อนถึงมือบ.ลูกโพลาริส
เปิดตัวบ.ลูกโพลาริส เพิ่มทุนพรวด3พันล.ก่อนซื้อที่ เสี่ยกำพล โชว์รายได้ล่าสุด59 บ.
34แปลง2.9พันล.!เปิดยิบข้อมูลบ.ลูกโพลาริสซื้อที่เสี่ยกำพล-ราคาประเมิน2แสน/ไร่ ควักจ่าย40ล.
เผยโฉมสัญญาซื้อที่พังงา 'บ.ลูกโพลาริส-เสี่ยกำพล' ราคาประเมินรวม14ล.ควักจ่าย2.8พันล.?
หิ้วเงินสด123ล.จ่ายทั้งก้อน! ถึงคิวเปิดสัญญาซื้อที่บ.ลูกเสี่ยกำพล-โพลาฯ ราคาประเมินแค่95ล.?
เปิดคำให้การตัวแทนบ.ซิมบาฯ ฟ้องแพ่งโพลาริส503ล.-ยันรับงานออกแบบจริงไม่ใช่หนี้เทียม!