ปิดฉากคดีประวัติศาสตร์หงสา! ศาลฎีกาสั่งบ้านปูชดใช้ บ.ไทย-ลาว ลิกไนต์ 1.5พันล.
ปิดฉากคดีประวัติศาสตร์หงสา! ศาลฎีกาสั่งบมจ.บ้านปู ชดใช้ค่าเสียหายบ.ไทย-ลาว ลิกไนต์ วงเงิน 1.5 พันล. พร้อมดอกเบี้ย 7.5 ต่อปี จากการนำข้อมูลผลการศึกษาไปใช้ประโยชน์
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ในช่วง 9.00 น. วันที่ 6 มี.ค.2561ศาลฎีกาได้อ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำ 2946/2550 ที่นายศิวะ งานทวี ผู้บริหารกลุ่มบริษัทด้านพลังงาน บริษัท ไทยลาวลิกไนท์ จำกัด บริษัท หงสาลิกไนท์ จำกัด บริษัท ไทยลาวเพาเวอร์ จำกัด และบริษัทเซาท์อีสท์ เอเชียพาวเวอร์ จำกัด ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU บริษัท บ้านปู อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) นายชาญชัย ชีวะเกตุ และนายองอาจ เอื้ออภิญญกุล กรรมการบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เป็นจำเลยที่ 1-6
โดยฝ่ายโจทก์ฟ้องร้องต่อศาลแพ่งว่าจำเลยเข้าไปทำโครงการลงทุนก่อสร้างและบริหารงานโรงไฟฟ้าถ่านหินลิกไนต์โดยนำข้อมูลผลการศึกษาโครงการเบื้องต้นของโจทก์ไปใช้ที่เมืองหงสา แขวงไซยะบุรี สปป.ลาว หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า คดีหงสา
ทั้งนี้ศาลแพ่งได้พิพากษาเมื่อเวลา 12.00 น. ให้ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 1.5 พันล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา ให้ บริษัทไทย-ลาว ลิกไนต์ ที่เป็นโจทก์ ซึ่งจากการคำนวณเบื้องต้นเมื่อนำดอกเบี้ยตั้งแต่ปี 2550 มารวมกับเงิน 1,500 ล้านบาท ทางบริษัทบ้านปูจะต้องจ่ายเงินให้โจทก์ทั้งสิ้น 2,737 ล้านบาท ส่วนรายละเอียดคำพิพากษาฉบับเต็มสำนักข่าวอิศราจะนำมาเสนอให้ทราบต่อไป
ทางด้านของนายเกษม พุ่มพวงทนายความจากทางบริษัทบ้านปูกล่าวว่าในส่วนของการจ่ายเงินนั้นทางบริษัทบ้านปูจะไปปรึกษากันอีกทีหนึ่งว่าจะจ่ายกันอย่างไร แต่คงจะจ่ายให้เร็วที่สุด
ส่วนนายอดุลย์ รักสนิท ทนายความของนายศิวะ โจทก์ กล่าวว่า พอใจกับคำพิพากษา โดยศาลฎีกาเห็นว่า ฝ่ายโจทก์ถูกกระทำละเมิดจริง และหลังจากนี้จะพิจารณายื่นฟ้องบุคคลที่นำข้อมูลในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าฯ ไปใช้หาประโยชน์ต่อไป
อ่านประกอบ : ย้อนคดีประวัติศาสตร์หงสา ก่อนศาลนัดชี้ขาดบ.ไทย-ลาว ฟ้องเรียกค่าเสียหายบ้านปู3.1หมื่นล.