หน.วิเชียร โอดดูเเลป่าทุ่งใหญ่ฯไม่ง่าย ขาดคน อุปกรณ์ งานวิจัยศึกษาพื้นที่ยังน้อย

หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ฯ​ โอดขาดบุคลากร อุปกรณ์ทำหน้าดูแลรักษาผืนป่าขนาดใหญ่ เผย อยากให้ทำวิจัยในพื้นที่เยอะๆ เนื่องจากมีทรัพยากรมหาศาล ด้านนักวิชาการม.เกษตรแถลงจุดยืนขอให้ยกเลิกการล่าสัตว์ ชี้กฎหมายเป็นเรื่องสำคัญ 

เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2561 ในงานเสวนา“การจัดการสัตว์ป่าเมืองไทย กรณีทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก” ที่ห้องประชุม FORTROP ชั้น 3 ตึกวนศาสตร์ 60 ปี คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

รศ.ดร.นริศ ภูมิภาคพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยาป่าไม้ คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า เรื่องสัตว์ป่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับมนุษย์ทุกคน ปัจจัยที่สำคัญในด้านการอนุรักษ์เกี่ยวข้องกับสังคม คือจารีต วัฒนธรรม และกฎหมาย โดยเฉพาะกฎหมายเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะควบคุมพฤติกรรมมนุษย์ สิ่งสำคัญที่สุดอยู่ที่การคุ้มครองสัตว์ป่า ถ้าไม่มีการคุ้มครอง ยากที่สัตว์จะอยู่ได้  สัตว์ป่าเมื่อได้รับผลกระทบจากปัจจัยแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมหรือถิ่นอาศัยไม่พอก็จะค่อยๆ หายไป ควรใช้ทรัพยากรสัตว์ป่าให้เป็นประโยชน์  ซึ่งการคุ้มครองสัตว์ป่าคือการดูแลคุ้มครองและจัดการให้เป็นประโยชน์ทั้งในทางตรงหรือทางอ้อม

รศ.ดร.นริศ กล่าวถึงส่วนกรณีทุ่งใหญ่นเรศวรว่า สังคมมองจะเป็น "มวยล้ม" หรือไม่ เพราะสังคมใจร้อนกับการเสพสื่อ ไม่รู้ว่าอันไหนจริงอันไหนเท็จ อยากให้กฎหมายเป็นกฎหมาย ใช้ได้กับทุกคน ไม่ได้ใช้กับประชาชนบางส่วนเท่านั้น

ด้านนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก กล่าวว่า ทุ่งใหญ่นเรศวรเป็นพื้นที่อนุรักษ์ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่แรกๆ ในประเทศไทยแต่ยังขาดบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ เนื่องจากอุทยานแห่งชาติมีพื้นที่มากแต่หน่วยงานมีเพียงลูกจ้างประจำและชั่วคราว ภาระจึงตกอยู่ที่หัวหน้าเพียงคนเดียว อีกทั้งยังขาดเรื่องอุปกรณ์ที่ไม่เพียงพอในการลาดตระเวนพื้นที่ และขาดเรื่ององค์ความรู้ในการจัดการ จึงอยากให้มีการเข้ามาศึกษาวิจัยเพราะไม่เคยมีหน่วยงานมาศึกษาทั้งที่ในพื้นที่มีทรัพยากรมหาศาล

"ในการรักษาพื้นที่ป่า ผมมองว่าวิธีการในการรักษาคนต้องมีคุณภาพด้วย อยากได้ป่าที่สมบูรณ์แต่สิ่งที่คุณใส่เข้าไปด้อยคุณภาพ ของดีแต่ราคาถูกมันไม่มี เพราะฉะนั้นถ้าจะให้ป่าสมบูรณ์ 1)ก็คือเรื่องคน 2)เรื่องกฎหมาย 3)เรื่องเครื่องมืออุปกรณ์การทำงาน 4)องค์ความรู้ที่ใส่เข้าไป" นายวิเชียร กล่าวและว่าเรื่องการรับบุคลากร ณ วันนี้มีระบบการคัดกรองที่เพียงพอ คนอาจจะมีความตั้งใจมาทำงาน แต่เรื่องความรู้ ความสามารถ สุขภาพร่างกายก็ต้องมาด้วย ส่วนเครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้ต้องมีความเพียงพอ ทุ่งใหญ่ฯมี25หน่วย มีปืนอยู่หน่วยละ 2 – 3 กระบอก เฝ้าหน่วยหนึ่งกระบอก ปืนที่เหลือยิงไม่ออก ฉะนั้นพอไปพบการกระทำความผิด ความมั่นใจก็ไม่มี

"ผมเชื่อว่าหลายพื้นที่ขาดแคลนอย่างมาก เรื่องกฎหมายการกำหนดลงโทษยังน้อยู่ ควรมีการปัดฝุ่นเรื่องกฎหมาย"

ด้านผศ.ดร.นิคม แหลมสัก คณบดีคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้กล่าวแถลงจุดยืนของคณะวนศาสตร์ในฐานะสถาบันการศึกษา โดยขอให้สื่อมวลชนติดตามอย่างใกล้ชิด ต้องช่วยกันทำให้ผลของการกระทำได้ปรากฏและเป็นบทเรียนให้สังคมไทยไม่ใช่เฉพาะกรณีของทุ่งใหญ่นเรศวรเท่านั้น เชื่อว่าชั้นอภิชนอาจจะมีอีกพอสมควรจึงขอใช้เวทีนี้ให้เลิกทำร้ายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอีกต่อไป ผู้ใดที่ยังทำอีกก็ขอให้ยุติและกลับมาทำให้ทรัพยากรดีขึ้น