กรมการค้าภายใน ทุ่ม 20 ล. จ้างเอกชนวิธีพิเศษ ทำพีอาร์-ป้ายร้านหนูณิชย์ภาพลักษณ์ใหม่
เจาะฐานข้อมูลจัดซื้อจ้าง ก.พาณิชย์ รอบล่าสุด พบกรมการค้าภายใน ใช้วิธีพิเศษ ทุ่มงบ 11 ล้าน จ้างเอกชนพีอาร์โครงการร้านหนูณิชย์ติดดาว เผยก่อนหน้านี้เคยใช้วิธีเดียวกัน ทำป้ายร้าน 8.9 ล้าน ยอดรวมเบ๋็ดเสร็จ 20 ล้าน
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบฐานข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างเว็บไซต์ภาษีไปไหน? พบว่า เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 60 ที่ผ่านมา กรมการค้าภายใน ได้ลงนามในสัญญว่าจ้างโดยวิธีพิเศษ ให้ บริษัท ฏีม แอ็ด คอร์ปอเรชั่น จำกัด เป็นผู้รับงาน จ้างประชาสัมพันธ์ร้านหนูณิชย์ติดดาว วงเงิน 11,780,000 บาท
จากการตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 30 ก.ย.2559 กรมการค้าภายใน ได้ใช้วิธีการพิเศษ ว่าจ้างเอกชนเข้ามารับจ้างทำวัสดุสำหรับประชาสัมพันธ์ร้านหนูณิชย์ภาพลักษณ์ใหม่ (Re-Branding) เช่นกัน ปรากฎชื่อ บริษัท ท็อปไทยโปรดักส์ จำกัด เป็นผู้รับจ้าง วงเงินว่าจ้าง 8,921,000 บาท
รวมวงเงินว่าจ้างโดยวิธีพิเศษทั้ง 2 สัญญา อยู่ที่ 20,701,000 บาท
ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า บริษัท ฏีม แอ็ด คอร์ปอเรชั่น จำกัด จดทะเบียน 24 ธันวาคม 2535 ทุนปัจจุบัน 5 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 19/21 ซอยลาดพร้าว 15 ถนนลาดพร้าว แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจรับจ้างโฆษณา ปรากฎชื่อ นายชาญชัย ประเสริฐสุข เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ และถือหุ้นใหญ่ ร่วมกับ นาง เอื้อมพร ประเสริฐสุข
ขณะที่ บริษัท ท็อปไทย โปรดักส์ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้ง 21 กันยายน 2543 ทุนปัจจุบัน 5 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 4,6 ซอยบางบอน 4 ซอย 4 แขวงบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจ จำหน่ายเครื่องใช้ในครัวเรือนทุกชนิด
ปรากฎชื่อ นางสาวสุกัญญา พงษ์กังสนานันท์ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ และถือหุ้นใหญ่
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า กระทรวงพาณิชย์ ได้ปรับโฉมใหม่ โครงการร้านอาหาร หนูณิชย์ พาชิม เพื่อสร้างโอกาสในการขยายร้านหนูณิชย์ เข้าสู่กลุ่มผู้บริโภคที่หลากหลายขึ้น ทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเพิ่มความทันสมัยควบคู่ไปกับการยกระดับร้านสู่มาตรฐานสากล และพัฒนาเจ้าของกิจการให้เป็นผู้ประกอบการมืออาชีพอย่างแท้จริง ทั้งนี้ ยังคงเป้าหมายหลักไว้คือคุณภาพอาหารที่ดี อร่อย และราคาประหยัด โดยมั่นใจการปรับภาพลักษณ์ จะส่งผลให้ร้านหนูณิชย์ ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายมากขึ้นส่งผลให้เกิดรายได้สะพัดเข้าสู่เศรษฐกิจชุมชนและท้องถิ่นซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 1 ปี ที่กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินโครงการ หนูณิชย์ พาชิม
ปัจจุบันมีจำนวนร้านหนูณิชย์เข้าร่วมโครงการ 11,092 ร้านทั่วประเทศ กระทรวงพาณิชย์จึงเล็งเห็นถึงโอกาสที่จะยกระดับและพัฒนาร้านหนูณิชย์ให้มีความทันสมัย สามารถขยายฐานลูกค้าสู่กลุ่มผู้บริโภคที่หลากหลายขึ้น ทั้งคนทำงาน วัยรุ่น และนักท่องเที่ยวต่างประเทศ รวมทั้งเป็นการตอบโจทย์กระแสความนิยมร้านอาหารลักษณะ Street Food ในปัจจุบัน (อ้างอิงจาก http://noonid.dit.go.th/NewsDetailUI.aspx?NewsID=133)