เพิ่งรู้บ.หลานอดีตผบ.สส.คว้างาน!บิ๊กกรุงเทพธนาคมยันจ้างโรงไฟฟ้าขยะ1.87พันล.ไร้รวบรัด

'มานิต เตชอภิโชค' ดีดี บ.กรุงเทพธนาคม แจง 'อิศรา' ขั้นตอนประกวดราคาจัดจ้างโครงการโรงไฟฟ้าขยะ1.87พันล. ไร้ปัญหารวบรัด เผยมีข้อตกลงกทม. แจ้งผลภายใน 22 ต.ค. ทำให้ต้องรีบประกาศชื่อผู้รับเหมา ล่าสุด คกก.วินิจฉัยกม.จัดจ้างฉบับใหม่ แจ้งตอบกลับทำได้ไม่ติดขัด ระบุเพิ่งรู้เหมือนกัน บ.หลานอดีต ผบ.สส.คว้างาน แต่ไม่มีผลอะไร เหตุพิจารณาข้อเสนอผลตอบแทนประสบการณ์เป็นหลัก 

จากกรณีสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ขยายผลการตรวจสอบงานจัดจ้างผู้รับเหมาโครงการงานออกแบบจัดหาระบบก่อสร้างติดตั้งทดสอบระบบในรูปแบบ Engineering Procurement and Construction (EPC) และเดินระบบโครงการบริหารจัดการมูลฝอยชุมชนเพื่อผลิตพลังงานด้วยเทคโนโลยีเชิงกล-ชีวภาพ ที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช มูลค่างานรวม 1,870 ล้านบาท ของ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด วิสาหกิจของ กทม. (กทม. ถือหุ้น 99.98%) ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า มีลักษณะรวบรัดเร่งรีบ ประกาศชื่อ บริษัท เอทู เทคโนโลยี จำกัด ให้เป็นผู้ชนะ โดยไม่รอผลการพิจารณาของคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ที่กำหนดให้บริษัทกรุงเทพธนาคม ต้องดำเนินการตามพ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 (อ่านประกอบ : ไขไทม์ไลน์พิสูจน์ชัดๆ ปมจัดจ้างโรงไฟฟ้าขยะกทม.1.87พันล. 'รวบรัด-เร่งรีบ' จริงหรือไม่?)

ขณะที่บริษัท เอทู เทคโนโลยี จำกัด เป็นบริษัทลูกของ บริษัท เอเซีย พรีซิชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ในช่วงเดือนพ.ย.2559 เพิ่งจะมีการขายหุ้นบริษัทให้กับบริษัท เอ ดับบลิว เอส แอสเซ็ท แมเนจเมนท์ จำกัด ที่ปรากฎชื่อนาง พิมพฤดา พิทักษ์ธีระธรรม เป็นกรรมการผู้มีอำนาจและผู้ถือหุ้นใหญ่ ขณะที่นาง พิมพฤดา เป็นบุตรสาว ของ พล.อ. พิพัฒน์พงษ์ อัตตะนันทน์ น้องชายของ พล.อ.สมทัต อัตตะนันทน์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก และแม่ทัพภาคที่ 1 นั้น (อ่านประกอบ :ที่แท้บ.หลานสาว อดีตผบ.สส.คว้างานโรงไฟฟ้าขยะกทม.1.87พันล.-เพิ่งซื้อหุ้นต่อช่วงปลายปี59)  

ล่าสุด นายมานิต เตชอภิโชค กรรมการผู้อำนวยการบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด (ดีดี) ให้สัมภาษณ์ชี้แจงข้อเท็จจริงสำนักข่าวอิศรา ยืนยันว่า กระบวนการจัดจ้างผู้รับเหมาโครงการนี้ ไม่ได้มีลักษณะรวบรัดเร่งรีบตามที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์แต่อย่างใด ขั้นตอนการดำเนินงานเป็นไปตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างของบริษัทฯ ทุกประการ

"เหตุผลสำคัญที่ทำให้บริษัท กรุงเทพธนาคม ต้องประกาศชื่อ บริษัท เอทู เทคโนโลยี จำกัด ให้เป็นผู้ชนะ ก่อนที่จะมีคำวินิจฉัยตามกฎหมายจัดซื้อจัดจ้างฉบับใหม่ออกมา เนื่องจากกรุงเทพมหานคร (กทม.) กำหนดให้ บริษัท กรุงเทพธนาคม ยื่นข้อเสนอการดำเนินงานโครงการนี้ให้พิจารณาภายในวันที่ 22 ต.ค.2560 ทางบริษัทฯ จึงต้องประกาศชื่อผู้ชนะไปก่อน เพื่อให้กระบวนการดำเนินงานสามารถดำเนินการต่อไปได้ไม่ส่งผลกระทบในภาพรวม แต่เพื่อไม่ให้การดำเนินงานมีปัญหาในอนาคต จึงใช้วิธีเลือกสงวนสิทธิ์ ขอยกเลิกการประกวดราคาไว้ด้วย เป็นไปตามขั้นตอนปฏิบัติปกติ"

นายมานิต กล่าวชี้แจงอีกว่า ในข้อเท็จจริงโครงการนี้ไม่ใช่โครงการใหม่ เป็นโครงการที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2555 แล้ว กระบวนการขั้นตอนการจัดจ้างก็ดำเนินงานตามระเบียบของบริษัทที่จัดตั้งขึ้นมาด้วยกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มีคล่องตัวในการดำเนินงานมากกว่าการปฎิบัติงานตามระเบียบราชการ แม้ว่ากทม.จะถือหุ้นใหญ่ในบริษัทก็ตาม ส่วนเหตุผลที่ทำให้ขั้นตอนประกวดราคาหยุดชะงักไปช่วงหนึ่ง เป็นเพราะกรรมการบริหารบริษัทบางราย มีความกังวลใจ ต้องการให้เกิดความชัดเจนเกี่ยวกับขั้นตอนปฏิบัติตามกฎหมายจัดซื้อจัดจ้างฉบับใหม่ที่ออกมา ทางบริษัทฯ จึงได้ทำเรื่องขอหารือกับคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างไป ซึ่งล่าสุดได้รับแจ้งยืนยันตอบกลับมาแล้วว่า การประกวดราคาโครงการนี้ ไม่เข้าข่ายข้อห้ามตามกฎหมายจัดซื้อจัดจ้างฉบับใหม่แต่อย่างใด

ส่วนผลการคัดเลือก บริษัท เอทู เทคโนโลยี จำกัด ให้เป็นผู้ชนะนั้น กรรมการผู้อำนวยการบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด ยืนยันว่า เป็นเพราะบริษัทเอทูฯ ให้ข้อเสนอดีที่สุด ทั้งแผนการลงทุน ข้อเสนอเทคนิค และการเงิน ดีกว่าบริษัทเอกชนคู่แข่งรายอื่น 

"ส่วนที่ปรากฎข้อมูลว่า บริษัทนี้ มีความเกี่ยวข้องกับทหารนั้น ผมก็เพิ่งรู้ข้อมูลจากที่อิศรานำเสนอ ไม่เคยรู้มาก่อนเหมือนกัน แต่คิดว่าไม่น่าจะมีผลอะไร เพราะการคัดเลือกเอกชนเข้ามารับงาน ทุกอย่างทำตามขั้นตอน พิจารณาจากผลงานและข้อเสนอเป็นหลัก เราไม่ได้สนใจว่าใครเกี่ยวข้องอะไรกับใคร เราสนใจว่าข้อเสนอเป็นอย่างไร ทำงานให้ออกมามีประสิทธิภาพได้หรือไม่เท่านั้น" 

กรรมการผู้อำนวยการบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด ยังยืนยันด้วยว่า ในทีโออาร์ กำหนดไว้ชัดเจนว่า บริษัทกรุงเทพธนาคม จะเจรจากับผู้ได้รับคะแนนสูงสุดเป็นอันดับแรก โดยจะต้องได้คะแนนแต่ละด้านไม่น้อยกว่า 60% และต้องมีคะแนนรวมไม่น้อยกว่า 70 % ขึ้นไป ปรากฎว่าบริษัทเอทูฯ เป็นผู้ที่ได้คะแนนสูงสุด มีประสบการณ์งานก่อสร้างโรงไฟฟ้า เชื้อเพลิงอุตสาหกรรม ขนาด 9.99 เมกะวัตต์ ในรูปแบบ EPC (Engneering Procurement and Construction) ที่จังหวัดสระแก้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้าง70% นอกจากนี้ ยังมีหนังสือข้อตกลงร่วมทำงานกับบริษัทเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศที่น่าเชื่อถือมายืนยันประกอบด้วย  

เมื่อถามว่า ปัจจุบันโครงการนี้ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) เข้ามาตรวจสอบแล้วใช่หรือไม่ กรรมการผู้อำนวยการบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด ตอบว่า การดำเนินงานโครงการของบริษัทฯ ทุกเรื่องมีการแจ้งข้อมูลหรือส่งเรื่องให้สตง.ตรวจสอบเป็นประจำอยู่แล้ว ปัจจุบัน สตง. ยังไม่ได้มีการแจ้งว่า โครงการนี้ มีปัญหาอะไรหรือไม่อย่างไร 

อ่านประกอบ :

ที่แท้บ.หลานสาว อดีตผบ.สส.คว้างานโรงไฟฟ้าขยะกทม.1.87พันล.-เพิ่งซื้อหุ้นต่อช่วงปลายปี59

ไม่รอคำวินิจฉัยกม.จัดซื้อใหม่! บ.กรุงเทพธนาคมแพร่ชื่อเอกชนคว้าโรงไฟฟ้าขยะ1.87พันล.

กังขาคุณสมบัติผู้ชนะ! เอกชนร้องอิศราสอบปมบ.กรุงเทพธนาคมรวบรัดจัดจ้างโรงไฟฟ้าขยะ1.87พันล.

ขึ้น404-NotFound!เว็บบ.กรุงเทพธนาคมมีปัญหา-ไม่โชว์ชื่อคู่เทียบโรงไฟฟ้าขยะ1.87พันล.?

ที่แท้บ.หลานสาว อดีตผบ.สส.คว้างานโรงไฟฟ้าขยะกทม.1.87พันล.-เพิ่งซื้อหุ้นต่อช่วงปลายปี59