งานวิจัยล่าสุดเผย มลพิษปนเปื้อนคร่าชีวิตคนทั่วโลกกว่า9ล้านคนในปี2015
งานวิจัยล่าสุด พบคนทั่วโลกกว่า 9 ล้านคน เสียชีวิตจากเหตุมลพิษปนเปื้อน ทั้งในอากาศ น้ำ ดิน และสถานที่ทำงาน ชี้ประเทศรายได้ต่ำถึงปานกลาง เผชิญหน้าเยอะสุด เด็กเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องได้รับดูเเล
21 ต.ค. 60 ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ในรายงานด้านสภาพมลพิษโดย คณะกรรมาธิการด้านมลพิษและสุขภาพ ประจำสถาบันสำรวจ ตรวจวัดสุขภาพ แลนแซท (The Lancet Commission on Pollution and Health) ฉบับล่าสุด ระบุว่าในปี 2015 ประชากรโลกจำนวนหนึ่งในหกคนเสียชีวิตจากการปนเปื้อนของมลพิษ โดยคาดว่าผู้เสียชีวิตราว 9 ล้านคนทั่วโลก มาจากสาเหตุสำคัญคือการปนเปื้อนของมลพิษทั้งในอากาศ น้ำ ดิน การรับสารเคมีจากการทำงานโดยตรง
ในรายงานฉบับดังกล่าวระบุว่า มลพิษทางอากาศเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิต โดยอัตราการเสียชีวิตจากสาเหตุนี้มากถึง 6.5 ล้านคน ขณะที่มลพิษในน้ำนั้น ได้คร่าชีวิตผู้คนไปราว 1.8 ล้านคน ลำดับต่อมา คือการปนเปื้อนสารเคมีจากสถานที่ทำงาน ซึ่งมีคนงานที่เสียชีวิตจากการสะสมของสารพิษราว 0.8 ล้านคน ปัจจัยตัวสุดท้ายเป็นหนึ่งในปัจจัยการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ
รายงานฉบับดังกล่าวระบุด้วยว่า การเพิ่มขึ้นของมลพิษนั้นเกี่ยวข้องการอัตราการเสียชีวิตของประชากรโลกเพิ่มขึ้นถึง 92% โดยเฉพาะคนที่อาศัยอยู่ในประเทศที่มีรายได้ต่อหัวต่ำถึงระดับปานกลาง โดยพบว่าประเทศที่มีอัตราการเสียชีวิตจากมลพิษสูง เป็นประเทศที่มีการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็ว เช่น อินเดีย ปากีสถาน จีน บังคลาเทศ มาดากัสการ์และเคนยา ซึ่งจากการสำรวจพบว่ากว่ามลพิษทั้งทางอากาศ น้ำ ดิน และอื่นๆ มีการปนเปื้อน
ดร.โอลูโซจี เอเดยี หนึ่งในกรรมาธิการและผู้อำนวยการด้านสุขภาพ โภชนาการและประชากรศาสตร์ ประจำกลุ่มธนาคารโลก การปนเปื้อนของมลพิษส่งผลอย่างมากต่อคนจนและกลุ่มคนเปราะบาง เด็กเป็นกลุ่มที่เผชิญกับความเสี่ยงมากที่สุด ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องสร้างการตระหนักรู้ในประเด็นนี้ทั้งในระดับท้องถิ่น ประเทศและระดับโลก
ดร.ฟิลลิป เจ แลนดิแกน หัวหน้ากรรมธิการร่วมฯ กล่าวว่า สาเหตุหลักมาจากสารเคมี ซึ่งมีพบว่ามีสารเคมีปนเปื้อนอยู่รอบตัวกว่าพันชนิด เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าสารตัวใดบ้างที่รับเข้าไป