เซ็ตซีโร่ทางการ!แพร่ พ.ร.บ.กกต.ใหม่ สรรหาใน90วัน-ไม่อยู่ใต้อาณัติการเมือง
โปรดเกล้าฯ พ.ร.บ.กกต.ฉบับใหม่ เซ็ตซีโร่ชุดเดิมทั้งหมด ให้ศาล รธน.-องค์กรอิสระส่งตัวแทนสรรหาภายใน 20 วัน ดำเนินการสรรหาให้แล้วเสร็จใน 90 วัน – คุณสมบัติใหม่ต้องมีตกอยู่ใต้อาณัติพรรคการเมือง หากพบทุจริตเลือกตั้งยึดสำนวน สตง. เป็นหลัก
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 2560 ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2560 สรุปสาระสำคัญแต่ละมาตราได้ ดังนี้
มาตรา 3 ให้ยกเลิก (4) คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 23/2560 เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาความต่อเนื่องของผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2560 เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับ กกต. (เพื่อเปิดโอกาสให้มีการสรรหาประธาน และกรรมการ กกต. ได้ใหม่)
ต่อมาในส่วนของการสรรหากรรมการ กกต. มาตรา 12 วรรคหนึ่ง ระบุตอนหนึ่งว่า ในการสรรหากรรมการ กกต. ให้คณะกรรมการสรรหาปรึกษาหารือเพื่อคัดสรรให้ได้บุคคลที่ไม่มีพฤติการณ์ยอมตนอยู่ใต้อาณัติของพรรคการเมืองใด ๆ ด้วย (พ.ร.บ.กกต.ฉบับเดิม ไม่มีระบุไว้)
ในวรรคสาม ระบุว่า ในการสรรหาหรือคัดเลือก ให้ใช้วิธีลงคะแนนโดยเปิดเผย และให้กรรมการสรรหาแต่ละคนบันทึกเหตุผลในการคัดเลือกไว้ด้วย
ในส่วนของการตรวจสอบงบประมาณแผ่นดิน มาตรา 48 ระบุว่า กรณี กกต. ได้รับแจ้งจากผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ว่า มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า การใช้จ่ายเงินแผ่นดินมีพฤติการณ์อันอาจทำให้การเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม และเป็นกรณีที่ผู้ว่า สตง. ไม่มีอำนาจดำเนินการได้ ให้ กกต. ดำเนินการสืบสวน ไต่สวน หรือดำเนินคดีตามหมวดนี้โดยพลัน โดยให้ถือว่าเอกสารและหลักฐานของผู้ว่า สตง. ตรวจสอบหรือจัดทำขึ้น เป็นส่วนหนึ่งของสำนวนการไต่สวนหรือสอบสวนของ กกต.
ในส่วนบทเฉพาะกาล มาตรา 70 ระบุว่า ให้ประธาน กกต. และกรรมการ กกต. ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในวันก่อนที่ พ.ร.บ.ฉบับนี้ใช้บังคับ พ้นจากตำแหน่งนับแต่วันที่ พ.ร.บ.ฉบับนี้ใช้บังคับ แต่ให้ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าประธาน กกต. และกรรมการ กกต. ที่แต่งตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่
ให้ผู้ซึ่งอยู่ปฏิบัติหน้าที่ตามวรรคหนึ่ง มีสิทธิได้รับเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และประโยชน์ตอบแทนอื่นตามที่ได้รับอยู่ในวันก่อนที่ พ.ร.บ.ฉบับนี้ใช้บังคับและให้มีสิทธิได้รับบำเหน็จตอบแทนตามมาตรา 40 โดยให้ถือว่าเป็นการพ้นจากตำแหน่งเพราะลาออก โดยให้คำนวณระยะเวลาตั้งแต่วันที่ได้รับโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง จนถึงวันที่หยุดปฏิบัติหน้าที่
มาตรา 71 ภายใน 20 วันตั้งแต่ พ.ร.บ.ฉบับนี้ใช้บังคับ ให้ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระที่ไม่ใช่ กกต. แต่งตั้งและส่งชื่อผู้แทนให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเพื่อประกอบเป็นคณะกรรมการสรรหา
มาตรา 72 ให้คณะกรรมการสรรหาตามมาตรา 71 และที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาดำเนินการสรรหาหรือคัดเลือกผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการ กกต. ตาม พ.ร.บ.ฉบับนี้ให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ พ.ร.บ.ฉบับนี้ใช้บังคับ
(อ่านรายละเอียดฉบับเต็ม : http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/A/093/1.PDF)