ซื้อที่โดนหักค่านายหน้า-โยง บ.ไทย! รายงานผู้สอบบัญชี ปตท.ชี้สารพัดปัญหาปลูกปาล์มอินโดฯ

เขียนวันที่

วันศุกร์ ที่ 11 สิงหาคม 2560 เวลา 10:56 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

ข่าว | ข่าวทั่วไปศูนย์ข่าวสืบสวน | เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา

Tags

บริษัท พีทีที.จีอี | ปลูกปาล์มน้ำมัน 5 โครงการที่ประเทศอินโดนีเซีย | บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) | ป.ป.ช.

เปิดรายงานผู้สอบบัญชีปมปลูกปาล์มอินโดฯ พบ PTT.GE ไม่รายงานสาระสำคัญ-ผลการเปลี่ยนแปลงการทำสัญญา-สภาพปัญหาหลายโครงการให้บอร์ด ปตท. ทราบ เจอบริษัทนายหน้าในโครงการ PT.Az Zhara-PT.KPI หักค่าคอมมิสชั่น 35%-ค่าที่ปรึกษาด้วย

PIC pttge 11 8 60 1

จากกรณีสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้รับการยืนยันจากแหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้ส่งเอกสารหลักฐานใหม่ในคดีปลูกปาล์มน้ำมันที่ประเทศอินโดนีเซียของบริษัท พีทีที.จีอี จำกัด (มหาชน) หรือ PTT.GE บริษัทลูกของ ปตท. ให้กับ ป.ป.ช. ดำเนินการไต่สวนเพิ่มเติม โดยเป็นเอกสารจาก HADISUMARTO&PARTNERS (HSP) บริษัทที่ปรึกษาของ ปตท. โดยมีสาระสำคัญว่า เมื่อปี 2553 ได้ทำหนังสือถึงนายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ อดีตประธานกรรมการเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. ขอให้ตรวจสอบการกระทำที่ไม่ชอบมาพากลของผู้บริหารระดับสูงรายหนึ่ง (ขณะนั้น) ร้องขอให้ HSP ปกปิดข้อมูลปัญหาเรื่องการซื้อขายที่ดินเพื่อปลูกปาล์มน้ำมัน แต่ HSP ปฏิเสธ ผู้บริหารรายนี้จึงใช้อำนาจระงับการชำระเงินค่าบริการเป็นระยะเวลากว่า 8 เดือนนั้น (อ่านประกอบ : เปิดหนังสือลับบ.ที่ปรึกษากม.ร้องเรียนอดีตบิ๊กปตท.! หลักฐานใหม่ป.ป.ช.สอบคดีปาล์มอินโดฯ, พบหนังสือลับคดีปาล์มอินโดฯ 'อดีตบิ๊ก ปตท.'บีบที่ปรึกษากม.ปกปิดข้อมูล-ส่งป.ป.ช.สอบเพิ่ม)

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า เมื่อเดือน มิ.ย. 2560 ที่ผ่านมาบริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ จำกัด (บริษัทลูกของ Deloitte Touche Tohmatsu ผู้สอบบัญชีระดับโลก) ได้รายงานผลการตรวจสอบโครงการปลูกปาล์มน้ำมันที่ประเทศอินโดนีเซียให้ฝ่ายบริหาร ปตท. และมีการนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ ปตท.เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2560

สำหรับการดำเนินงานของ PPT.GE ใน 5 โครงการตั้งแต่ช่วงปี 2550-2555 ได้แก่ PT.MAR Pontianak PT.Az Zhara PT.MAR Banyuasin PT.FBP และ PT.KPI พบว่า มติที่ประชุมบอร์ด ปตท. เมื่อปี 2550 ระบุว่า โครงการทั้งหมดมีเงื่อนไขคือต้องมีผลตอบแทนการลงทุน (IRR) มากกว่า 15% ต่อปี รวมถึงต้องศึกษาคุณภาพดิน ต้นทุนที่ดิน ต้นทุนการผลิต ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ และราคาน้ำมันปาล์มดิบ

การเข้าลงทุนแต่ละโครงการ ต้องตรวจสอบจากพื้นที่ผู้เชี่ยวชาญของที่ปรึกษาทางเทคนิคเพื่อให้กำหนดราคาที่ดินที่ต้องจ่ายได้อย่างถูกต้อง และในการลงทุนแต่ละโครงการนั้นจะต้องมี IUP (เอกสารสิทธิ์ดำเนินธุรกิจน้ำมันปาล์ม) หลังจากนั้นจึงนำ IUP ไปยื่นขอ HGU (เอกสารสิทธิ์การทำเกษตรกรรม) และ HGB (เอกสารสิทธิ์การทำสิ่งปลูกสร้าง) ในพื้นที่แต่ละแห่งด้วย

ทั้งนี้บริษัท ดีลอยท์ฯ พบว่า ทุกโครงการ PTT.GE ไม่ได้รายงานสาระสำคัญ หรือผลการทำสัญญาที่สำคัญบางอย่างให้กับบอร์ด ปตท. ทราบ เช่น

โครงการ PT.MAR Pontianak ที่ PTT.GE ได้อ้างถึงรายงานการวิเคราะห์กิจการจาก JP Morgan (บริษัทให้บริการด้านการเงินระดับโลก) แต่ไม่พบว่ามีเอกสารดังกล่าวในรายงานการประชุมเพื่อขออนุมัติโครงการ รวมถึงรายงานวิจัยทางเทคนิคและการเกษตร ที่ไม่ได้เจาะลึกปัญหาหลายอย่างของพื้นที่ดินในการปลูกปาล์มน้ำมัน และศัตรูพืช รวมถึงผลการดำเนินงานที่ต่ำกว่ามติบอร์ด ปตท.

โครงการ PT.Az Zhara ที่พบว่ารายงานผลวิจัยด้านเทคนิคและการเกษตร พื้นที่ที่ให้ผลิตผลดีนั้นมีเพียง 48% แต่ PTT.GE ดำเนินการซื้อทั้งหมด 100% และไม่มีการคำนวณผลการตอบแทนภายใน (IRR) ที่คาดว่าจะได้รับในโครงการนี้ และไม่ได้รายงานการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขให้บอร์ด ปตท. ทราบ

หรือแม้แต่โครงการ PT.KPI ที่เบื้องต้น PTT.GE ขอซื้อในเงื่อนไข 600 เหรียญสหรัฐ/เฮกตาร์ (1 เฮกตาร์ประมาณ 6 ไร่) ต่อมาปรับมูลค่าเป็น 900 เหรียญสหรัฐ/เฮกตาร์ โดยไม่พบเอกสารที่มาของการคำนวณมูลค่าที่ดินดังกล่าว นอกจากนี้ยังปรับเพิ่มมูลค่าถึง 1,325 เหรียญสหรัฐฯ/เฮกตาร์ โดยอ้างว่า โอกาสจากการเข้าทำถ่านหิน แต่ไม่พบเอกสารแสดงที่มาของมูลค่าโอกาสการเข้าทำถ่านหินในพื้นที่ดังกล่าวด้วย ที่สำคัญเบื้องต้นจะซื้อแค่ 31,801 เฮกตาร์ หรือคิดเป็นมูลค่า 31.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งต้องเป็นพื้นที่เฉพาะที่มี HGU และไม่มีพื้นที่ทับซ้อน แต่ต่อมากลับซื้อพื้นที่ทั้งหมด 78,877 เฮกตาร์ โดยลดราคาเหลือ 890 เหรียญสหรัฐ/เฮกตาร์ ทำให้มูลค่าการลงทุนเพิ่มขึ้นเป็น 52.65 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

นอกจากนี้บริษัท ดีลอยท์ฯ พบว่า กระบวนการซื้อขายโครงการ PT.Az Zhara และ PT.KPI ผู้ขายทั้ง 2 โครงการดังกล่าวให้แก่ PTT.GE ได้ทำสัญญากับบริษัทนายหน้ารายหนึ่ง เช่น โครงการ PT.Az Zhara หากขายพื้นที่ให้ PTT.GE ได้ จะต้องชำระเงินเป็นค่า Commission Service Agreement กว่า 35% ให้กับบริษัทนายหน้าแห่งนี้

หรือโครงการ PT.KPI หากขายพื้นที่ดังกล่าวให้ PTT.GE ได้ จะต้องจ่ายค่า Consultancy Service Fee (ค่าที่ปรึกษา) ให้กับบริษัทนายหน้าแห่งนี้เป็นจำนวนเงินถึง 325 เหรียญสหรัฐ/เฮกตาร์ (โครงการนี้ PTT.GE ซื้อมาด้วยจำนวนเงิน 56.25 ล้านเหรียญสหรัฐ พื้นที่ราว 78,877 เฮกตาร์)

สำหรับบริษัทนายหน้าดังกล่าว ในการทำสัญญาลงนามโดยบุคคลสัญชาติไทย ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับบริษัทบางแห่งที่จดทะเบียนในประเทศไทย

อย่างไรก็ดีกระบวนการปัจจุบันอยู่ระหว่างการไต่สวนในชั้นองค์คณะไต่สวน (มีกรรมการ ป.ป.ช. ทั้ง 9 รายเป็นองค์คณะฯ) โดยมี น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นผู้รับผิดชอบสำนวน

กดติดตามข้อมูลข่าวสาร สำนักข่าวอิศรา ได้ที่ แฟนเพจ Friends of isranews https://www.facebook.com/Friends-of-isranews-454413327930010/

อ่านประกอบ :

ป.ป.ช.โอนสำนวนให้'สุภา'คดีปาล์มอินโด-ไล่เส้นทางเงินเอี่ยว บ.ไทย

ซีอีโอใหญ่ ปตท.ให้ถ้อยคำ ป.ป.ช.ปมปลูกปาล์มฯเจ๊งแล้ว สาวลึกใครเอี่ยวบ้าง

ป.ป.ช.ลุยเฟ้นหาข้อมูลปมอ้างชื่อ‘บิ๊กป้อม’หักหัวคิว-จ้างช่วงขุดคลองอผศ.

“นิพิฐ”ขอความเป็นธรรม ป.ป.ช. อ้างบอร์ด ปตท.ทำปลูกปาล์มฯเจ๊ง

เจาะคำแก้ต่างคดีปลูกปาล์มน้ำมันอินโดฯ “นิพิฐ”อ้างไม่เคยทุจริต-ทำเจ๊ง!

“นิพิฐ”ดอดขอความเป็นธรรม ป.ป.ช. อ้างบอร์ด ปตท.ทำปลูกปาล์มฯเจ๊ง

“นิพิฐ”อ้างบอร์ด ปตท.สมคบกันทุจริตทำโครงการปลูกปาล์มอินโดฯเจ๊ง

สั่งถอนลงทุน-ฟ้องแพ่งผู้บริหาร! ปตท.พร้อมร่วมมือสอบทุจริตปลูกปาล์มอินโดฯ

เปิดผลสอบ ปตท.ปมปลูกปาล์มอินโดฯ ชนวนทำ“บิ๊ก ปตท.สผ.”พ้นเก้าอี้

บอร์ด ปตท.สผ.ให้ “นิพิฐ”พ้นสภาพพนักงานปมปลูกปาล์มอินโดฯ-ฟ้องอาญาสู้