ทำชื่อเสียงติดลบ! มท.สั่งผู้ว่าฯสอบด่วนเอกชนแอบขายข้าวในอุตสาหกรรมให้ ปท.เพื่อนบ้าน
ก.มหาดไทย รับลูก ก.พาณิชย์ สั่งผู้ว่าฯ 32 จังหวัด ตรวจสอบด่วน หลังพบเอกชนบางรายแอบนำข้าวที่ใช้ในอุตสาหกรรม-อาหารสัตว์ แอบขายให้ประเทศเพื่อนบ้าน ชี้ทำให้ภาพลักษณ์-ชื่อเสียงข้าวไทยติดลบ
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า เมื่อกลางเดือน พ.ค. 2560 ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ ทำหนังสือแจ้งถึง รมว.มหาดไทย (พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา) ขอให้ตรวจสอบการนำข้าวไปใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมสำหรับการจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน ครั้งที่ 1/2560
สืบเนื่องจากที่ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการ (รมว.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะรองประธานกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) รับคำสั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะประธานกรรมการ นบข. เห็นชอบการจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน ครั้งที่ 1/2560 ให้แก่ผู้เสนอซื้อจำนวน 13 ราย จำนวน 125 คลัง มีพื้นที่ตั้งคลังและพื้นที่ตั้งโรงงานใน 32 จังหวัด ปริมาณรวมทั้งสิ้น 1.62 ล้านตัน
ต่อมา กระทรวงพาณิชย์ได้รับเบาะแสว่า จะมีการนำข้าวในสต็อกของรัฐที่กำหนดให้นำไปใช้ในอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน ไปจำหน่ายให้ผู้ประกอบการในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์นำข้าวไปใช้อุตสาหกรรมที่คณะกรรมการ นบข. กำหนด
การกระทำดังกล่าวจะส่งผลกระทบด้านลบต่อความเชื่อมั่นในคุณภาพข้าว และชื่อเสียงของข้าวไทยเป็นอย่างมาก ในการนี้กระทรวงพาณิชย์จึงขอความร่วมมือกระทรวงมหาดไทย ประสานแจ้งเบาะแสข้อมูลกรณีพบผู้กระทำการพิรุธ หรือส่อพฤติกรรมในการนำข้าวไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ หรือพิจารณายับยั้ง ก่อนแจ้งให้กระทรวงพาณิชย์ทราบโดยด่วน ทั้งนี้ได้ทำหนังสือแจ้งปลัดกระทรวงมหาดไทย และผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องทราบด้วยแล้ว (ดูเอกสารประกอบ)
ล่าสุด นายประยูร รัตนเสนีย์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติราชการแทนปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงนามในหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด 13 จังหวัด ให้พิจารณาดำเนินการตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และหากมีเบาะแสข้อมูลกรณีพบผู้กระทำการพิรุธ หรือส่อพฤติกรรมในการนำข้าวไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ให้พิจารณายับยั้งก่อน ให้แจ้งกระทรวงพาณิชย์โดยด่วน เพื่อพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปแล้ว