ช่วยหน่อยเอาเท่าไหร่!เบื้องหลัง‘อัยการ’ พันขนนอแรดคาสุวรรณภูมิ
เปิดพฤติการณ์ ‘วรภาส บุญศรี’ อัยการ จ.สระบุรี เบี้ยวไม่ยอมมาพบอัยการส่งฟ้องศาล หลังถูกออกหมายจับปมพันขนนอแรดคาสุวรรณภูมิฉาวช่วง มี.ค. 60 พบตอน จนท. เจอไม่ยอมให้เปิดกระเป๋าอ้างว่าเป็นเหล้า ขอให้ช่วยเหลือหน่อย จะเอาเท่าไหร่
จากกรณีนายวรภาส บุญศรี พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการ จ.สระบุรี ไม่มาพบอัยการเพื่อส่งฟ้อง ในคดีที่ถูกพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ออกหมายจับ กรณีกล่าวหาว่า มีส่วนพัวพันกับการขนนอแรด 21 นอ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อช่วงเดือน มี.ค. 2560 ที่ผ่านมา โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการติดตามตัวนายวรภาศ เพื่อส่งตัวให้อัยการส่งฟ้องต่อศาลนั้น
(อ่านประกอบ : เปิดสำนวนสอบ‘อัยการ’พันขนนอแรดสุวรรณภูมิ ก่อนเบี้ยวนัด-ขอหมายจับหน 2, ออกหมายจับหน 2! ‘อัยการ’พันขนนอแรดคาสุวรรณภูมิ-อสส.ตั้ง กก.สอบ)
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า ตามบันทึกข้อความของพนักงานสอบสวน สรุปข้อเท็จจริงของนายวรภาส หรือ พ.ต.ต.วรภาส บุญศรี พนักงานอัยการ คนดังกล่าวว่า นายวรภาส ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสองนาย พาเข้าไปไปรับ น.ส.กานต์สินี อนุตราศาสตร์ (หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหา ปัจจุบันถูกฝากขัง) เพื่อนสาวที่เดินทางมาจากสิงคโปร์ โดยไม่ได้แจ้งเที่ยวบิน พอไปถึงเจอ น.ส.กานต์สินี และนางฐิติรัตน์ อาราอิ (หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหา ปัจจุบันถูกฝากขัง) รออยู่ก่อนแล้ว และได้มายังจุดตรวจศุลกากรช่องไม่มีสิ่งของต้องสำแดง (ช่องเขียว) ช่อง C โดยมีนางฐิติรัตน์ เป็นผู้เข็นรถเข็นมีกระเป๋าของกลางอยู่
หลังจากนั้นมีเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร ขอมาตรวจดูกระเป๋า โดยจะยกขึ้นเครื่องเอ็กซ์เรย์ แต่กระเป๋าดังกล่าวหนักมาก จึงสอบถามนายวรภาสว่าคือะไร นายวรภาสตอบว่า “เป็นเหล้า” และ น.ส.กานต์สินี ได้ใช้เข่ากดกระเป๋าไว้ ไม่ยอมให้ตรวจ กระทั่งมีเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรอีกรายหนึ่งเดินมาขอให้ตรวจ น.ส.กานต์สินี และนางฐิติรัตน์ จึงเดินหนีไป
หลังจากนั้นจึงนำกระเป๋าเข้าเครื่องเอ็กซ์เรย์พบว่า มีสิ่งของต้องสงสัย จึงสอบถามอีกครั้ง นายวรภาส ตอบยืนยันว่า “เป็นเหล้า” แต่เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรทราบว่า สิ่งของในกระเป๋าดังกล่าวต้องเป็นสิ่งต้องห้าม จึงนำไปสำนักงานฝ่ายบริการผู้โดยสารเพื่อเปิดตรวจ โดยระหว่างนั้นนายวรภาส ได้ขอให้ไม่ต้องเปิดตรวจ และขอให้ทิ้งกระเป๋าดังกล่าวไว้ แต่เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรไม่ยอม เพราะเป็นกระเป๋ามีเจ้าของ โดยระหว่างที่จะเปิดกระเป๋า นายวรภาส ไม่ยอมให้เปิดกระเป๋า และขอร้องให้เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรช่วยหน่อย โดยมีคำพูดหนึ่งระบุว่า “ที่จริงผมก็ไม่อยากจะพูดแบบนี้ พี่ช่วยผมหน่อยจะเอาเท่าไหร่” แต่เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรไม่ยอม กระทั่งเปิดออกมาเป็นนอแรดจำนวน 21 นอดังกล่าว
ภายหลังเปิดกระเป๋าดังกล่าว นายวรภาส ขอให้แก้ไขบันทึกข้อความการตรวจยึดหลายครั้ง เช่น บันทึกการจับกุม เป็นบันทึกการตรวจยึด ไม่ให้ใส่อาชีพนักงานอัยการ และให้ระบุว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นในการกระทำผิดครั้งนี้แต่อย่างใด
ทั้งนี้พนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตรวจสอบข้อมูลการเดินทางไปต่างประเทศของนายวรภาส และ น.ส.กานต์สินี ปรากฏว่า บุคคลทั้งสองเคยเดินทางไปต่างประเทศด้วยสายการบินเดียวกัน เที่ยวบินเดียวกัน และวันเวลาเดียวกัน และที่ท่าอากาศยานเดียวกันพร้อมกัน จำนวน 40 ครั้ง (เดินทางออกจากไทยไปต่างประเทศ 20 ครั้ง เดินทางกลับจากต่างประเทศมาไทย 20 ครั้ง)
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก ไทยพีบีเอส