ด่วน! ดูเตอร์เต้ประกาศกฎอัยการศึก60 วัน หลังกลุ่มก่อการร้ายบุกยึดมาราวี
ฟิลิปปินส์ระส่ำ ดูเตอร์เต้ประกาศใช้กฎอัยการศึก 60 วัน หลังไอซิสยึดมาราวี เผาเรือนจำ ระเบิด มีปะทะต่อเนื่อง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ สั่งอพยพปชช. ภายใน 5 ชั่วโมง
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา(www.isranews.org) ได้รับรายงานว่า เมื่อช่วงเย็น วันที่ 23 พ.ค. 2560 เกิดเหตุก่อการร้ายในพื้นที่เมือง มาราวี ซึ่งเป็นเมืองทางภาคใต้บนเกาะมินดาเนาของ ฟิลิปปินส์ ข้อมูลเบื้องต้นพบว่ามีการวางระเบิดในเขตต่างๆของเมือง รวมทั้งเผาทัณฑสถาณ บ้านเรือนประชาชนและปล่อยนักโทษออกมา ขณะที่รายงานระบุว่าตำรวจถูกยิงเสียชีวิต 1 รายและคนขับรถฉุกเฉินถูกยิงเสียชีวิตอีก 2 คน มีการบุกรุกเข้าไปในโรงพยาบาล มีการจับคนในโรงพยาบาลเป็นตัวประกัน รวมไปถึงการทำร้ายผู้หญิงที่ไม่ได้สวมฮิญาบ โดยกลุ่มที่อ้างตัวว่าเป็นผู้กระทำในครั้งนี้คือกลุ่มไอซิส
ขณะที่ ไฟฟ้าภายในเมืองถูกตัดลง การมีการชักธงของ ISIS ขึ้นในพื้นที่ต่างๆ ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานจากคนในพื้นที่ว่า มีการประกาศให้ประชาชนในเมืองมาราวี อพยพออกจากเมืองภายใน 5ชั่วโมง หลังมีการขู่ว่าจะมีระเบิดในเมืองนี้อีกหลายจุด ขณะที่กลุ่มผู้ก่อการร้ายได้ปิดล้อมเมืองเอาไว้ทั้งหมดแล้ว ด้านเจ้าหน้าที่และกองกำลังทหารของทางการฟิลิปปินส์ยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้
ด้านผู้ใช้งานในโซเชียลมีเดีย พากันติดแฮชแท็ก #Prayformarawi และ #Prayfortheworld หลังจากมีเหตุการณ์รุนแรงในช่วงสองวันที่ผ่านมา ทั้งในไทย อังกฤษ และล่าสุดที่ฟิลิปปินส์
ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 23.24 น.(ตามเวลาท้องถิ่น) ประธานาธิบดี ดูเตอร์เต้ ได้ประกาศใช้กฎอัยการศึกในพื้นที่เกาะมินดาเนาเป็นเวลา 60วัน นับจากวันนี้ ด้านนาย Ernesto Abellas โฆษกประจำตัว กล่าวว่า ขณะนี้นายดูเตอร์เต้อยู่ระหว่างการเดินทางเยี่ยมเยียนรัสเซียอย่างเป็นทางการ ภายหลังจากเกิดเหตุ ได้มีการยกเลิกนัดทั้งหมดและเดินทางกลับทันที
ด้านเว็ปไซต์อินดิเพนเด้นรายงานว่าเมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมาประธานาธิบดีฟิลิปปินส์นาย Rodrigo Duterte เผยว่าจะจัดการกับกลุ่มไอซิสที่จะเข้ามาสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายในพื้นที่ทางตอนใต้ของประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม แต่ถ้าหากไม่สามารถจัดการได้ ก็จำเป็นต้องประกาศใช้กฎอัยการศึก ทั้งยังกล่าวด้วยว่าถ้ากลุ่มไอซิส เผยขยายอิทธิพลเข้ามาในพื้นที่ จะมีการตอบโต้ขั้นรุนแรงโดยไม่สนเรื่องการริดรอนสิทธิมนุษยชนใดๆ ทั้งนั้น