อ.จุฬาฯ ค้านไม่มีใบวิชาชีพสอบครูผู้ช่วย ยันเสี่ยงเกินไป-ขัดหลักการ
ศ.ดร.สมพงษ์ไม่เห็นด้วยกับนโยบายก.ค.ศ.จบอะไรสาขาใดก็เป็นครูได้ เหตุไม่ได้เรียนการเป็นครูมาโดยตรง ชี้จะเกิดปัญหาระยะยาว 30 ปี แนะรัฐเข้าหารือเรื่องขาดแคลนครูกับสภาคณบดีคณะครุศาสตร์ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย ถกหาทางออก
จากกรณีการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.) มีมติเห็นชอบให้ปรับหลักเกณฑ์ โดยหลักเกณฑ์ครั้งนี้ได้แก้ไขให้ผู้ที่ยังไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูสามารถเข้ามาสมัครสอบได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสาขาวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ ที่มีอัตราบรรจุจำนวนมากนั้น
ศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวแสดงความไม่เห็นด้วยกับนโยบายที่วิชาชีพอื่นสามารถมาเป็นครูได้ เพราะขัดกับหลักการวิชาชีพครูและขัดกับตัวบทกฎหมาย ในเรื่องตัวเลขที่บอกว่า ขาดแคลนครูปีละ 2.7 แสนคนนั้น กับตัวเลขที่บอกว่ามีครูที่เกษียณแต่ละปีประมาณ 1.5 หมื่นคน ตัวเลขพวกนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นตัวเลขที่ถูกนำมาเสนอโดยตลอดในเรื่องการขาดแคลนครูบางสาขา และได้มีการพูดคุยปรึษาหารือเพื่อแก้ไขปัญหาระหว่างกระทรวงศึกษากับสภาคณบดีคณะครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทยมาโดยตลอด ทั้งในแง่ของการวางแผนการผลิตครูในระบบตามจำนวนและสาขาวิชาที่มีความจำเป็นของประเทศ พยายามทำจนในที่สุดได้ผลิตครู คือ ได้คนดี คนเก่ง อีกทั้งคนที่ตั้งใจมาเรียนวิชาชีพนี้มีจำนวนมาก จึงพยายามทยอยส่งครูเหล่านี้ในการสอบบรรจุครู อันนี้เป็นความร่วมมือที่เริ่มเห็นผลว่า สามารถผลิต คนดี คนเก่ง มาเป็นครูได้
ศ.ดร.สมพงษ์ กล่าวว่า แต่เมื่อมีการปรับปรุงหลักเกณฑ์การรับสมัครครูผู้ช่วย สำหรับผู้ที่ยังไม่มีใบอนุญาตปฏิบัติการสอนที่คุรุสภาออกให้ สามารถสมัครสอบแข่งขันได้ก่อนนั้น เหมือนกับไม่เคารพหลักการที่เคยปฎิบัติมา เรามองแต่ว่า มีปัญหาเรื่องครูขาดในแต่ละสาขา เลยจะแก้ปัญหาด้วยการให้เอาคนที่รู้เนื้อหา มีความสามารถเฉพาะด้าน มาสอบบรรจุเข้าไปเป็นครู โดยไม่ผ่านการเรียนรู้องค์ประกอบของวิชาชีพครูเลย คิดว่า อันนี้เสี่ยงเกินไปและขัดกับหลักการวิชาชีพครูอย่างรุนแรง
"เรื่องนี้จะส่งผลกระทบถึงคุณภาพครูในอนาคต ผลกระทบที่เห็นชัดเจนมากที่สุดคือทำให้ความตั้งใจของคนที่ต้องการเข้ามาในวิชาชีพครูเกิดความไขว้เขว เพราะในเมื่อใครๆสามารถเป็นครูได้ คนที่เรียน 4 ปีสามารถสอบบรรจุครูได้ จะเรียนครู 5 ปีไปทำไม แสดงว่าไม่เคารพในวิชาชีพครู ทั้งที่บอกครูเป็นเสาหลักในการปฎิรูปการศึกษา นอกจากนี้จะต้องการปัญหาอีกรูปแบบหนึ่งและต้องเป็นการแก้ปัญหาระยะยาว 20-30 ปี ซึ่งทั้งหมดเกิดจากคนที่ไม่ได้เรียนมาทางด้านนี้แต่จะมาทำงานเป็นครู"
ศ.ดร.สมพงษ์ กล่าวอีกว่า หากเปิดสมัครให้ใครก็ได้มาสอบบรรจุครู เขาก็จะไม่รู้ศาสตร์การเป็นครู ไม่รู้จักเด็กมากพอในการสอน แค่รู้เนื้อหาดีเท่านั้น เราไม่สามารถเอาเรื่องเด็กไปเสี่ยงกับกลุ่มบุคคลบางกลุ่มที่เข้ามาโดยไม่ได้ผ่านการฝึกอบรมหรือการศึกษาเพิ่มเติมในศาสตร์วิชาชีพครูมาก่อน
เมื่อถามถึงแง่ของกฎหมายที่ระบุว่า ครูจะสอบบรรจุได้จะต้องผ่านประสบการณ์วิชาชีพ 1 ปี และต้องผ่านการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู ต้องทำงานหนักและต้องมีการปลูกฝึกเรื่องคุณธรรม จริยธรรม ถึงจะครบกระบวนการจนได้ครูดีคนหนึ่ง ศ.ดร.สมพงษ์ กล่าวว่า วันดีคืนดีบอกเอาใครก็ได้มาสอบบรรจุและเรียนสาขาไหนก็ได้โดยเรียนแค่ 4 ปี จึงคิดว่า เป็นการทำผิดหลักการ
"วันนี้ สิ่งที่ดีที่สุดคือควรกลับไปพิจารณานโยบายนี้และทำให้รอบคอบ ถอยออกมาหนึ่งก้าวและเอาจำนวนที่ขาดแคลนครู คุยกับสภาคณบดีคณะครุศาสตร์ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทยแลกเปลี่ยนข้อมูล แลกเปลี่ยนจำนวน ปรึษาหารือและรัฐบาลให้งบมาสนับสนุนเท่าไหร่ โดยในระยะ 10 ปี จะสามารถผลิตครูที่มีคุณภาพทำให้การศึกษาไทยดีขึ้น"
อ่านประกอบ:
ก.ค.ศ. ยันมติรับสมัครครูผู้ช่วย สพฐ. ไม่มีใบวิชาชีพสอบได้ 25 สาขา
ขอบคุณภาพจาก : http://ostatic.tnamcot.com