อสส.ยันชัดผู้ว่าฯไม่มีอำนาจสั่งอัยการ! หลังแต่งตั้งให้ช่วยงานศูนย์ดำรงธรรม
อสส. ส่งหนังสือถึง อธิบดีอัยการภาค 9 ยัน ผู้ว่าฯ จว.ตรัง ไม่มีอำนาจสั่งการอัยการ หลังออกคำสั่งแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาเข้าปฏิบัติงานศูนย์ดำรงธรรมทุก 'วันพุธ' จี้หารือปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้อง
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้ทำหนังสือถึง อธิบดีอัยการภาค 9 เพื่อตอบข้อหารือกรณีมีคำสั่งจังหวัดตรัง ที่ 2706/2559 ลงวันที่ 28 ก.ย.2559 แต่งตั้งอัยการจังหวัดตรัง อัยการจังหวัดคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดตรัง และอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดตรัง เป็นที่ปรึกษา และให้เจ้าหน้าที่ของสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดตรังไปปฏิบัติงาน ณ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดตรัง เป็นประจำทุกวันพุธ และคำสั่งจังหวัดตรัง 2786/2559 ลงวันที่ 4 ต.ค.2559 ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด มีอำนาจกำกับดูแลการปฏิบัติราชการตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หรือคำสั่งหรือมติคณะรัฐมนตรี ในสำนักงานอัยการจังหวัดตรัง สำนักงานอัยการจังหวัดคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดตรัง ซึ่งสำนักอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดตรัง เห็นว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ไม่มีอำนาจกำกับดูแลการปฏิบัติราชการ ออกคำสั่งให้ข้าราชการฝ่ายอัยการปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว
สำนักงานอัยการสูงสุด พิจารณาแล้วเห็นว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดไม่มีอำนาจกำกับดูแลการปฏิบัติราชการ หรือสั่งการใดๆ ต่อข้าราชการฝ่ายอัยการ ทั้งนี้ โดยผลของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 255 พ.ร.บ.องค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ.2553 มาตรา 7 และ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 มาตรา 57 (4) ดังนั้น การออกคำสั่งให้อัยการจังหวัดตรัง อัยการจังหวัดคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดตรัง และอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดตรังเป็นที่ปรึกษาศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดตรัง และให้เจ้าหน้าที่ของสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดตรังไปปฏิบัติงาน ณ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดตรัง จึงเป็นการกระทำในทางปกครองของจังหวัด มิใช่เป็นการให้คำปรึกษาในฐานะเป็นกรรมการจังหวัด ตามพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 มาตรา 53 อีกทั้งการกระทำดังกล่าวยังอาจนำไปสู่การออกคำสั่งทางปกครองอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งผู้ที่ได้รับผลกระทบอาจฟ้องร้องจังหวัดเป็นคดีปกครอง โดยพนักงานอัยการต้องเป็นผู้แทนแก้ต่างคดีให้จังหวัด ส่งผลกระทบกระเทือนต่อการปฏิบัติหน้าที่โดยอิสระและเที่ยงธรรมของพนักงานอัยการได้ รวมทั้งไม่อาจออกคำสั่งให้มีอำนาจกำกับดูแลการปฏิบัติราชการของข้าราชการฝ่ายอัยการ ข้าราชการฝ่ายอัยการจึงไม่อาจปฏิบัติตามคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัด เพราะขัดกับงานในหน้าที่ พนักงานอัยการที่เกี่ยวข้องจึงชอบที่จะหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เพื่อปรับปรุงแก้ไขคำสั่งจังหวัดตรังในประเด็นดังกล่าวให้เหมาะสมต่อไป (ดูหนังสือประกอบ)