ป.ป.ช.สรุปสำนวนคดีร้อง‘จารุพงศ์-แกนนำแดง’ปราศรัยแยก ปท.แล้ว
ป.ป.ช.สรุปสำนวนคดีร้อง ‘จารุพงศ์-ตู่-เต้น-นายหัววีระ’ ปราศรัยปลุกปั่นความรุนแรง-แบ่งแยกประเทศ จัดตั้งกองกำลังแดงที่โคราชแล้ว ‘ยิ่งลักษณ์’ โดนด้วย ฐานไม่ระงับยับยั้ง-ไม่ตั้ง กก.สอบ ชื่อ ‘ธาริต’ หาย
แหล่งข่าวระดับสูงจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงความคืบหน้าการไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีกล่าวหานายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีต รมว.มหาดไทย พร้อมกับพวกที่เป็นอดีตรัฐมนตรี กรณีร่วมกันจัดเวทีปราศรัยที่อาคารลิปตพัลลภฮอลล์ จ.นครราชสีมา ในลักษณะยุยงให้ใช้ความรุนแรงว่า เมื่อช่วงเดือน ม.ค. 2559 คณะอนุกรรมการไต่สวนได้สรุปสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีนี้แล้ว แต่เนื่องจากกรรมการ ป.ป.ช. ผู้รับผิดชอบสำนวนขณะนั้น (นายวิชัย วิวิตเสวี) ได้พ้นวาระการดำรงตำแหน่ง จึงต้องโอนสำนวนให้กับกรรมการ ป.ป.ช. คนใหม่ที่เพิ่งเข้ามาปฏิบัติงาน เป็นผู้รับผิดชอบสำนวน และตรวจสอบสำนวนอีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นคาดว่าจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาลงมติได้เร็ว ๆ นี้
ขณะที่จากการตรวจสอบข้อมูลจากเว็บไซต์ ป.ป.ช. ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีดังกล่าว พบว่า เมื่อช่วงต้นเดือน ม.ค. 2559 คณะอนุกรรมการไต่สวน ได้สรุปสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงแล้ว (ดูภาพประกอบ)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีนี้ตามข้อมูลที่ปรากฏในเว็บไซต์ ป.ป.ช. มีผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด 13 คน ได้แก่ 1.นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย (ขณะนั้น) 2.นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ (ขณะนั้น) และแกนนำ นปช. 3.นายจตุพร พรหมพันธ์ แกนนำ นปช. 4.นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ แกนนำ นปช. 5.นายอนุวัฒน์ ทินราช รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครราชสีมา 6.ร้อยตรีประไพ ฮวดศรี 7.นางสำเนียง คงพลปาน 8.นางอัญชลี เทพวงษา 9.นางอุบลกาญจน์ อมรสิน 10.นางศิริลักษณ์ แสงแก้ว 11.นายเดชธิพล วงมีมา 12.นายทองอยู่ พรมนำชา และ 13.น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
อย่างไรก็ดีก่อนหน้านี้ พบว่า มีผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด 19 ราย โดยปรากฏชื่อของ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ขณะนั้น) แต่ปัจจุบันไม่ปรากฏในรายชื่อผู้ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด
สำหรับข้อร้องเรียนกล่าวหาคือ ได้ร่วมกันจัดเวทีปราศรัยที่อาคารลิปตพัลลภฮอลล์ ในสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา โดยใช้ชื่อว่า “นปช. ลั่นกลองรบ” ได้กล่าวปราศรัยในลักษณะยุยงให้ใช้ความรุนแรง ให้จัดตั้งกองกำลังของกลุ่มคนเสื้อแดง ข่มขู่องค์กรอิสระ ศาล ยุยงให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ให้มีการแบ่งแยกราชอาณาจักรไทยออกเป็นสองส่วน จึงเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้เกิดความเสียหายกับประเทศชาติ ประชาชน และเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
ส่วนนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชา มีอำนาจสั่งยับยั้งและสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการปฏิบัติราชการได้ แต่เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงตามสื่อมวลชนว่ามีการกระทำการดังกล่าวอันเป็นความผิดต่อกฎหมายเกิดขึ้น นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี กลับไม่ดำเนินการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงใด ๆ
อ่านประกอบ :
เปิดชื่อ-ข้อหากราวรูด“บิ๊ก รมต.-แกนนำ นปช.”ปราศรัยขู่ป.ป.ช.-แยกประเทศ?
'จารุพงศ์-แกนนำกวป.'ยังไม่รับหนังสือ ป.ป.ช.ลุยสอบปมปราศรัยแยกปท.
“นปช.” ปัดขู่องค์กรอิสระตาม “ป.ป.ช.” รับฟ้อง ยันแค่ข้อเสนอแนะ
เฉลยคำตอบ"รมต.ปริศนา"สั่ง แดง กวป. ปิดล้อมสำนักงาน ป.ป.ช.?
ป.ป.ช.ตั้งอนุฯไต่สวน"ปู-เต้น-จารุพงศ์" ยุยงใช้ความรุนแรงข่มขู่องค์กรอิสระ